ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 3 ก.ค. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ (อนต.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก พร้อมโชว์เสื้อเปื้อนเลือดของ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อจี้ให้ตำรวจจับคนทำร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด พร้อมระบว่า
“ในการประชุมสภาฯ วันนี้ พรรคอนาคตใหม่และพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เดินหน้าติดตามกรณีการลอบประทุษร้ายนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ (จ่านิว) รวมถึงนักกิจกรรมทางการเมืองคนอื่นๆ รวมกว่าสิบครั้งที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในความสนใจของสังคมในขณะนี้
พวกเราได้เสนอญัตติด่วนให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลอบทำร้ายนักกิจกรรมและการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยเหตุจากความเห็นต่างทางการเมืองในยุค คสช. มีการตั้งกระทู้สดโดย ส.ส. จิรายุ ห่วงทรัพย์ จากพรรคเพื่อไทย เพื่อทวงถามโดยตรงไปยัง รมว.กระทรวงกลาโหม (ที่ส่ง รมช. มาตอบแทน) ถึงมาตรการคุ้มครองสวัสดิภาพประชาชนและติดตามตัวคนร้าย นอกจากนี้ ส.ส. Chavalit Laohaudomphan – ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ จากพรรคอนาคตใหม่ ยังได้หารือต่อประธานรัฐสภาถึงมาตรการเพิ่มความสามารถในการดูแลกล้องวงจรปิดของ กทม. เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุร้ายในคดีต่างๆ (จะขอกล่าวรายละเอียดประเด็นนี้ในอีกโพสต์หนึ่ง)
ต้องขอย้ำอีกครั้งว่ากว่าจะมาถึงกรณีของจ่านิวในครั้งนี้ได้ ยังมีนักกิจกรรมทางคนอื่นๆ ต้องเลือดตกยางออกนับสิบครั้งแล้ว จ่านิวเองก็เคยโดนทำร้ายมาแล้วครั้งหนึ่ง (ยังไม่นับที่เคยโดนกลุ่มคนแต่งชุดทหารอุ้มตัวไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว) และในแทบทุกครั้งที่เกิดเหตุ เมื่อไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่เห็นความคืบหน้าใดๆ ในทางคดีเกิดขึ้นเลย
การที่ตำรวจไม่สามารถนำตัวผู้ก่อเหตุมารับผิดได้นั้นมีส่วนสำคัญทำให้ผู้ก่อเหตุไม่เกรงกลัวกฎหมายและลงมือก่อเหตุซ้ำแล้วซ้ำอีก ที่จ่านิวต้องเจ็บหนักในครั้งนี้ก็เป็นผลมาจากความเพิกเฉยของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่สั่งสมมาโดยตลอดนั่นเอง
มากไปกว่านั้น มันยิ่งทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในกฎหมาย หน่วยงานพิทักษ์สันติราษฎร์ และกระบวนการยุติธรรม เมื่อผู้คนไม่เชื่อมั่นในสิ่งเหล่านี้แล้ว สังคมย่อมไม่อาจดำรงอยู่อย่างเป็นสุขได้
ดังนั้นพรรคอนาคตใหม่และพรรคร่วมฝ่ายค้านจะขอติดตามเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด และขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีเหล่านี้โดยเร่งด่วนที่สุด ติดตามหาตัวคนร้ายมารับโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งแถลงความคืบหน้าให้สังคมได้รับทราบโดยละเอียดและต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการอำนวยความยุติธรรมให้กับแค่จ่านิวหรือนักกิจกรรมทางการเมืองเท่านั้น แต่คือการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนชาวไทยทุกคน”
