“อนุทิน” ชี้กรณี ‘นาที’ เป็นเรื่องของคนรวย มั่นใจ ลืมยื่นทรัพย์โดยบริสุทธิ์ใจ – รบ.เรือเหล็กยุคใหม่ ไร้สนิท วอน ตั้งรบ.อย่าช้าไปกว่านี้
เมื่อเวลา 13.40 น.วันที่ 4 กรกฎาคม ที่หอประชุมทีโอที นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทยว่า พรรคส่งไปฉบับเดียว 7 คน 8 ตำแหน่ง โดยยังไม่มีติดต่ออะไรกลับมา นอกจากเลขาฯ ครม.เรียกให้ไปกรอกประวัติ ตรวจคุณสมบัติ จึงถือว่า นิ่งมานานแล้ว ส่วนกรณี น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ น้องสาวนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ตัวเอง เพราะผ่านการเป็นนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานีมา นายชาดาถือว่า เสียสละ เพราะเป็น ส.ส.จึงอยู่ช่วยงานสภา ในฐานะประธานวิปของพรรคภูมิใจไทย สำหรับนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ออกมายอมรับว่า ลืมแจ้งบัญชีทรัพย์สินนั้น นางนาทีได้บอกว่าลืมแจ้งไปตั้งแต่ปี 2554 คนรวยก็มักจะมีปัญหาแบบนี้ทุกปี ซึ่งส่วนตัวมั่นใจว่านางนาทีลืมโดยไม่ตั้งใจจริงๆ เพราะเท่าที่ตนจำได้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสำนักงานของพรรคภูมิใจไทยที่จังหวัดสตูล
“แกคงลืมเพราะมีตึกแถวเยอะ ที่ผ่านมานางนาทีก็มายอมรับกับตน ดังนั้นเมื่อผมทราบก็บอกไปว่าเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการทำงาน เลยได้มีการเสนอชื่ออีกนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ขึ้นมาเป็นว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬาแทน ปัญหาดังกล่าวนางนาทีไม่ได้ทราบมาตั้งแต่ต้น แต่เมื่อได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี ก็ได้มีการตรวจสอบประวัติจึงได้พบปัญหาดังกล่าว พอผมพิจารณาแล้วก็เลยมองว่า อย่าเพิ่งเป็นรัฐมนตรีในตอนนี้ดีกว่า จนกว่าศาลจะมีการพิพากษาออกมาอย่างไร ผมมองว่าไม่กระทบต่อพรรคเพราะนางนาทีเองเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ หากหลุดจากตำแหน่ง ก็มีการเลื่อนลำดับอื่นขึ้นมา ส่วนนางนาที โดยฐานะเขาก็มีธุรกิจร่ำรวย ไม่ได้เป็น ส.ส.ก็ไม่ได้ลำบากอะไร ผมให้ความนับถือเขาในฐานะที่เป็นตัวแทนของพรรคภูมิใจไทยในภาคใต้ ที่สามารถนำ ส.ส.เข้ามาได้ถึง 11 คน ถือว่าเป็นคนสำคัญของพรรค”นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่ามีความกังวลต่อกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มองว่ารัฐบาลชุดใหม่เป็นเหมือนเรือเหล็กที่อาจจะมีสนิมเนื้อใน หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ก่อนทำเรือเขาได้เคลือบบลิ้งก์โค้ด สนิมขึ้นไม่ได้ เวลาทำเรื่องเหล็กต้องถามผม เพราะต้องมีหลายชั้น หลายขั้นตอน ไม่มีปัญหาหรอกครับ ทำงานเพื่อบ้านเมืองอะไรดีก็ว่ากันไป อะไรไม่ดีต่อให้เสียงปริ่มน้ำหรือไม่ปริ่มน้ำก็ต้องค้านกัน รัฐบาลจะอยู่รอดได้ก็ต้องทำความดี ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทำงานเพื่อประชาชนและบ้านเมือง ถ้าทำแบบนี้ต่อให้มีเสียงเกินหนึ่งเสียงก็ไม่มีปัญหา แต่ว่าถ้าทำสิ่งที่ไม่ได้ความ ต่อให้เสียงเกินกึ่งหนึ่งก็พังมาให้เห็นหลายรัฐบาลแล้ว”
ส่วนจะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเป็นกังวลหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่กังวลเพราะไม่ใช่เรื่องของเรา เพียงแต่อย่าทำให้ช้ามากกว่านี้เลย เพราะจากที่ตนลงพื้นที่ ประชาชนก็ถามว่าเมื่อไหร่จะเข้ามาทำงานสักทีทั้งที่ผ่านการเลือกตั้งมาตั้งนานแล้ว อย่างไรก็ตามตนคิดว่าก็คงใกล้แล้ว คงจะยืดไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ส่วนจะมองว่าอายุรัฐบาลจะอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือนนั้น ตนคิดว่า เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เพราะไม่ได้กังวลเรื่องเวลา ทุกคนตั้งใจทำงานก็ไปได้ และเราทำในสิ่งที่ดีเราก็ต้องมั่นใจ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็ตั้งใจทำงานตามนโยบายที่ให้กับประชาชน เมื่อเข้าไปก็ทำงานได้ทันทีเลย
