อาจารย์ มช.ตัดเกรดโฉม ครม.บิ๊กตู่ เผยให้แค่ ‘ซี’ ชี้ปลายภาคมีสิทธิสอบตก!

อาจารย์ มช.ตัดเกรดโผ ครม.บิ๊กตู่ เผยให้แค่ ‘ซี’ ชี้ปลายภาคมีสิทธิสอบตก!

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ผศ.ดร.ฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัชร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ม.เชียงใหม่ เปิดเผยกับ ‘มติชน’ ถึงโผ ครม. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ถ้าคะแนนเต็ม 10 หน้าตา ครม. พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ 5 คะแนน นี่คือราคาขาดตัว ถ้าตัดเกรดให้เกรดซีไปก่อน เพราะยังเห็นแค่หน้า แต่ยังไม่เห็นผลงาน ก่อนหน้านี้ผ่าน 18 อรหันต์กว่าจะตั้งรัฐบาลได้ เมื่อเสียงปริ่มน้ำ ก็ขอให้คะแนนปริ่มน้ำ ซึ่งอนาคตมีสิทธิสอบตกในช่วงไฟนัลก็เป็นได้

“สำหรับภารกิจแรกที่จะสามารถทำให้การเมืองเดินไปได้ และเป็นพันธะของรัฐบาลคือต้องผลักดันนโยบายทั้งหมดที่หาเสียงไว้ให้เป็นรูปธรรมให้ได้มากที่สุด ก่อนหน้านี้เราไปชุลมุนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล การแบ่งสรรปันส่วน ทำให้ประชาชนในฐานะของผู้เลือก ไม่ได้อะไรเลย แต่หลังจากที่คุณได้เป็นรัฐบาลแล้ว นโยบายต่างๆ ที่ไปหาเสียงอยู่ ณ ตอนนั้น จะสามารถจัดการหรือผลักดันให้ออกมาเป็นรูปธรรมได้หรือเปล่า ทั้งในเรื่องกัญชา และอื่นๆ ซึ่งจะเป็นประเด็นขับเคลื่อนในการคงอยู่ของรัฐบาลไปด้วย เพราะนโยบายต่างๆ นั้น จุดร่วมของพรรคร่วมรัฐบาลบางนโยบายยังไม่สอดคล้องกัน”

อ่านข่าว : รายงานหน้า2 : นักวิชาการ-ภาคเอกชน วิพากษ์โฉม‘ครม.ใหม่’

Advertisement

ผศ.ดร.ฐิติวุฒิกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ค่อนข้างสำคัญคือความพยายามที่จะผลักดันที่จะทำให้การเมืองไทยหลุดออกจากความขัดแย้งในหลายเรื่อง แม้ไม่ได้เป็นนโยบายในการหาเสียงของพรรคการเมือง แต่เป็นสิ่งที่หนึ่งที่เราทุกคนกำลังมองกันว่า ปัจจุบัน กระบวนการขับเคลื่อนของการเมืองไทยติดอยู่เฉพาะส่วนกลางเท่านั้น เพราะฉะนั้นหน้าที่ของรัฐบาลต่อไปจะต้องพิจารณาในแง่ของการประสานการทำงานต่างๆ รัฐบาลต้องไม่ผลิตซ้ำความขัดแย้ง และความเกลียดชังต่างๆ ออกมา รัฐบาลจะต้องควบคุมเรื่องราวเหล่านี้ให้ได้ นอกจากนี้ ในแง่ของการปรับปรุงระบบกฎเกณฑ์สถาบันการเมือง หลังรัฐธรรมนูญ 60 ประกาศออกไป อย่างน้อย 1-2 ปี สิ่งที่รัฐบาลจะต้องเป็นแม่งานด้วยคือรวบรวมปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับรัฐธรรมนูญดังกล่าว ต้องเป็นภารกิจแฝงของรัฐบาล ไม่ว่าจะอยู่นานหรือไม่

“ถามว่ากระทรวงไหนเป็นจุดอ่อนที่สุด พิจารณาได้จากการที่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องโควต้ามากที่สุด ตอนที่มีการต่อรองด้านการเมือง สมมุติว่าตอนนี้คุณเป็นรัฐบาลแล้ว และต้องผลักดันนโยบาย กระทรวงไหนที่ความสอดคล้องของนโยบายพรรคการเมืองกับพรรคร่วมรัฐบาลไม่สอดคล้องกัน ตรงนั้นจะเป็นจุดอ่อน ถ้ามองควบคู่กันทั้งในแง่ปัญหาสัดส่วนรัฐบาลและนโยบาย ส่วนตัวมองไปที่กระทรวงยุติธรรมกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็น 2 กระทรวงที่กำลังจะก่อให้เกิดปัญหาในเชิงนโยบาย การนำนโยบายมาสู่การปฏิบัติ เช่น กรณีกระแสการมาแรงของกัญชาเสรี ส่วนเรื่องกระทรวงเกรดเอ เป็นปัญหาทางการเมือง” ผศ.ดร.ฐิติวุฒิกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image