⦁…จาก “เรือแป๊ะ” สู่ “เรือเหล็ก” ตามที่ วิษณุ เครืองาม ระบุไว้ฟังดูเหมือน “แข็งแรง” ขึ้น แต่ “จุดอ่อน” น่าจะไม่น้อยกว่า “เรือแป๊ะ” ปมสำคัญคือ “ที่มา” เรือแป๊ะมาจากการยึดอำนาจ อยู่ด้วยกฎหมายพิเศษ เป็นทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งในตัวเอง ก่อนจะปิดฉากเรือแป๊ะ ก็จัดการดีไซน์ “พิมพ์เขียว” ของเรือเหล็กเอาไว้ล่วงหน้า
⦁…แต่อะไรก็ตามที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับ “การเลือกตั้ง” อันเป็นเรื่องของ “ความคิด-ความรู้สึกของประชาชน” ก็ “ยาก” ที่จะล็อกให้เป็นไปตามใจ “แป๊ะ” หรือใครก็ตาม ดังนั้น จึงต้องพึ่งพาบริการวิธีการนับคะแนน และวิชาก้นหีบอีกหลายประการ จน “เรือเหล็ก” เป็นรูปเป็นร่างขึ้น แต่ปัญหาคือ “เสียงปริ่มน้ำ” เลยมีข้อสงสัยว่า “รัฐนาวา” ลำนี้ จะไปได้ไกลแค่ไหน
⦁…ที่สำคัญคือ ความเร็วความคล่องตัวของ “รัฐนาวาลำใหม่” พอจะแข่งกับชาติอื่นๆ เขาได้ไหม “ไฟแนน เชียลไทม์” เพิ่งออกบทวิเคราะห์ ประเทศไทยยังเป็น “คนป่วยแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ระบุถึงความถดถอยหรือ “อาการป่วย” ต่างๆ จนประเทศเพื่อนบ้านนำห่างไปหมด ขณะที่รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เสี่ยงต่อการมีปัญหาจนไม่สามารถไปต่อได้
⦁…ก็ต้องตั้งความหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะแก้ปัญหาต่างๆ รักษาอาการป่วยที่เกิดกับประเทศไทยได้ลุล่วง เพื่อคนไทย ธุรกิจ อาชีพการงานต่างๆ เกษตรกรจะได้ “ลืมตาอ้าปากได้” เป็นงานที่ “ยาก” แต่ก็ต้องทำ โดยไม่มี “อาวุธพิเศษ” คือ “มาตรา 44” และภายใต้กฎกติกาของรัฐธรรมนูญ 2560 หากทำไม่สำเร็จ ก็อาจถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่ง ส.ว.ไม่เกี่ยว แม้รัฐธรรมนูญ “ดีไซน์” ให้กลับมาได้เรื่อยๆ ใน 5 ปีแรก แต่ในชีวิตจริง อาจจะไม่ง่ายอย่างนั้น
⦁…ในขั้นตอนนี้ ก็ต้องมาเตรียมการยกร่าง “นโยบาย” ที่ยำใหญ่นำเอานโยบายพรรคหลัก ทั้ง “พปชร.-ปชป.-ภท.-ชาติไทยฯ-รปช.” เข้ามารวมกัน ต้องจับตาว่านโยบายของ “ปชป.” คือ “แก้รัฐธรรมนูญ” จะอยู่ตรงไหนของนโยบาย “รัฐบาลประยุทธ์ 2” และจะได้ไฟเขียวให้แก้แบบลงลึกแค่ไหน นโยบายนี้ต้องนำเข้าแถลงต่อรัฐสภา โดยไม่มีการลงมติ ป่านนี้ “ฝ่ายค้าน” ลับมีดเสร็จไปหลายรอบแล้ว
⦁…กลับมาหลังจาก “เว้นวรรค” ไป 5 ปี ในโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สภาผู้แทนฯชุดใหม่ มี “ช่องว่าง” ระหว่าง “ผู้แทนฯต่างรุ่น” กว้างใหญ่พอสมควร อย่างการ “แต่งเนื้อแต่งตัว” ที่ถกเถียงกันตอนนี้ 5 ปีที่ผ่านมา สภามาจากแต่งตั้ง-ลากตั้ง การแต่งตัวก็รับเอาแนวของ “ข้าราชการ” มาครบ สูทสีสุภาพ เครื่องแบบ และผ้าไทย แต่ผู้แทนฯหรือ ส.ส.มาจาก 4 ภาค มีความหลากหลาย มี “เอกลักษณ์” ที่แตกต่าง การจะ “แสดงออก” ผ่านเครื่องแต่งกายจึงไม่แปลก แถมหลายท่านอายุยังน้อย จะให้มาแต่ง “แก่” ก็ดูเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพกันมากไป
⦁…ทำไมจะต้องเอากรอบการแต่งกายแบบ “ข้าราชการ” มาบังคับ ส.ส.เป็นบุคคลสาธารณะ อยากแต่งยังไงก็แต่งไป “สวย-ไม่สวย-เหมาะ-ไม่เหมาะ” ประชาชนหรือสังคมวิจารณ์ได้เต็มที่แต่ให้มีหลักการชัดๆ ได้ก็ดี อย่างที่ หมอสุภัทร ฮาสุวรรณกิจ เสนอก็ดี แต่งยังไงก็ได้ ให้อยู่ในห้องแอร์ อุณหภูมิ 26 องศา ได้ ช่วยประหยัดพลังงานและลดโลกร้อน !!
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่