‘สมคิด’ ชี้ รบ.ปริ่มน้ำเหมือนคนใกล้ตาย ต้องดิ้นทุกทางให้รอด ฟันธง ส.ว.-นายกฯคนนอก จุดอ่อน รธน. 60
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 9 กรกฎาคม ที่หอประชุมศรีบูรพา ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีการจัดงาน ‘รัฐธรรมนูญ 60 : 60 ปีสมคิด เลิศไพฑูรย์’ โดย ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาตนร่างรัฐธรรมนูญมา 2 ฉบับ คือฉบับ 2540 กับ 2550 แต่ 2560 ไม่ได้ร่าง แค่มีส่วนช่วยนิดหน่อย รัฐธรรมนูญดีหรือไม่ดีขึ้นกับมุมมองของแต่ละคน อย่างฉบับ 2540 มีข้อบกพร่องในแง่ที่ว่าฝ่ายบริหารเข้มแข็งจนเกินไป จนเป็นที่มาของฉบับ 2550 ที่สร้างสมดุลระหว่างฝ่ายบริหารกับสภา แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่อง ส.ว.ที่ครึ่งหนึ่งมาจากการเลือกตั้ง และครึ่งหนึ่งแต่งตั้ง ซึ่งรัฐธรรมนูญที่ดีก็ถูกยกเลิก จนมีรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นผู้ร่าง
“การร่างรัฐธรรมนูญหลังรัฐประหารนั้นยาก ไม่เหมือนการร่างในระบอบประชาธิปไตยแบบฉบับ 2540 ไม่มีข้อโต้แย้งมาก แต่รัฐธรรมนูญ ฉบับ 2550 นั้นมีข้อโต้แย้งเยอะ ส่วนรัฐธรรมนูญ 2560 นั้นมีข้อดี โดยเฉพาะสิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่ให้ไว้อย่างกว้างขวาง ในหมวดหน้าที่ของรัฐ ดีกว่ารัฐธรรมนูญหลายฉบับ ส่วนข้อด้อยอยู่ที่ ส.ว.สรรหา จะโทษ กรธ.ก็อาจจะยาก เพราะ กรธ.วางระบบให้มีเลือกกันเอง ส.ว.สรรหามาในบทเฉพาะกาล ตามผลประชามติ ส.ว.อาชีพ 50 คน กับสรรหา 200 คนนั้น มีปัญหาอย่างที่พบกัน
“สำหรับระบบเลือกตั้งนั้น นำระบบเลือกตั้งจากมลรัฐหนึ่งในเยอรมนีมาใช้ ก็มีปัญหาบ้าง ก็มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ซึ่งบางทีฝ่ายค้านอาจจะชอบก็ได้ เพราะระบบเอื้อพรรคฝ่ายค้าน อีกเรื่องที่เป็นปัญหาคือนายกฯคนนอก แต่คนไทยสลับกัน บางทีคนนอก คนใน แต่ในต่างประเทศคนนอกหรือคนในก็ได้ ตลอด 87 ปี เรามีรัฐธรรมนูญ 20 ฉบับ เฉลี่ยฉบับละ 4 ปี มากกว่าอเมริกาที่สองร้อยปีมีฉบับเดียว คนไทยเบื่อง่าย จึงยากจะให้ถูกใจทุกฉบับ” ศ.ดร.สมคิดกล่าว
อ่านข่าว : อธิการฯ มธ. ยก ‘สมคิด’ ผู้บริหาร ‘มากบารมี’ อวยพรวันเกิด 60 ปี สร้างประโยชน์ชาติต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ระบบเลือกตั้งเป็นปัญหาจนทำให้มีพรรคจำนวนมากที่มี ส.ส. และทำให้เกิดรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำหรือไม่ ศ.ดร.สมคิดกล่าวว่า ส.ว.สรรหานั้นมีปัญหาจริง แต่ระบบเลือกตั้งนั้นพูดยาก ใช้บัตรใบเดียวหรือสองใบดี หรือไม่ดี สามารถดีเบตกันได้ ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือวิธีคิดคะแนน การที่มีพรรคที่ได้ ส.ส.จำนวน 26 พรรคนั้น เพราะไม่กำหนดจำนวนคะแนนขั้นต่ำกำกับจึงจะได้ที่นั่ง ส.ส. เลยเกิดปัญหา ของเมืองนอกที่เราไปเอามามีกำหนดขั้นต่ำ ต้องได้คะแนนเกินร้อยละ 5 ส่วนรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำนั้น ตนว่าไม่ใช่เพราะระบบเลือกตั้งโดยตรง แต่มันเกิดจากพรรคการเมืองสองฝั่งสู้กัน ก่อนการเลือกตั้งนั้นไม่มีใครประเมินถึงรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำเลย การเดินหน้าทางการเมืองก็ต้องเดินต่อไป
“มองว่า 254 เสียง กับ 246 เสียงนั้น รัฐบาลจะบริหารได้ยาก แต่ถามว่าจะให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่เร็วๆ นี้ คนไทยเอาหรือไม่เอา หลายคนก็อยากเห็นรัฐบาลบริหารประเทศก่อน นี่เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกของรัฐธรรมนูญใหม่ จึงต้องช่วยกัน ไม่มีประเทศใดที่เลือกตั้งแล้ว 3-5 เดือนก็มีการเลือกตั้งอีก ผมเชื่อว่าอายุรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำจะนิ่ง เปรียบเหมือนคนใกล้ตายที่ต้องต่อสู้ทุกวิถีทาง” ศ.ดร.สมคิดกล่าว
ส่วนประเด็นที่ว่า อะไรคือปัญหาของรัฐธรรมนูญ เริ่มมีพูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญจากพรรคฝ่ายค้าน และรัฐบาลเช่นประชาธิปัตย์ ศ.ดร.สมคิดกล่าวว่า การที่คนโทษ ส.ว.สรรหา อันนี้จริง แต่จะโทษระบบเลือกตั้งนั้น คงไม่ทั้งหมด ถ้าเขียนจำนวนขั้นต่ำไว้น่าจะดีกว่านี้ได้ วันนี้พรรคการเมืองหลายพรรคจะแก้ไข ซึ่งต้องยอมรับว่าแก้ยาก ฉบับนายมีชัยล็อกหน้าล็อกหลังเอาไว้ แล้วถามว่าการจะแก้ไขนั้น มีเอกภาพหรือไม่ ไม่ใช่แค่ฝ่ายรัฐบาล แต่ฝ่ายค้านเองที่ได้ประโยชน์จากระบบเลือกตั้งนี้จะยอมหรือไม่ หรือหากจะแก้ไขเกี่ยวกับ ส.ว. ส.ว.เขาก็คงไม่เห็นด้วย
“รัฐบาลผสมเสียงปริ่มน้ำ นโยบายไหนไปได้ต้องไปด้วยกัน ต้องสงวนจุดต่างแสวงหาจุดร่วม รัฐบาลใหญ่อาจไม่เห็นด้วย แต่ถ้าแก้จุดที่เขารับได้ ก็คงแก้ได้ คงต้องประนีประนอมกัน ถ้าประชาธิปัตย์ขึงขังจะแก้รัฐธรรมนูญ ก็จะอยู่ที่ประเด็นจะแก้ไข ส่วนที่ระบุว่าจะเริ่มแก้ไขหมวดแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้แก้ง่ายขึ้นนั้น ตนมองว่าก็แก้ไขยาก พูดเนื้อหาอาจจะดีกว่า เช่น หากจะแก้ระบบเลือกตั้ง ก็ต้องถามว่า พรรคฝ่ายค้านเช่นอนาคตใหม่ที่ได้ประโยชน์จากระบบนี้จะเห็นด้วยหรือไม่ เขาอาจไม่เห็นด้วยก็ได้ ตนเชื่อว่าพอถึงเวลาเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีการถกเถียงกันอีกมากว่าจะแก้ประเด็นไหน” ศ.ดร.สมคิดกล่าว
