⦁…“ครม.ตู่ภาค 1” อวสานไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันวาน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ประชุม “สั่งลา” นัดสุดท้าย หลังเสร็จพิธี “ชักภาพ” ไว้เป็นที่ระลึก เหลืออยู่เพียง 15 พระหน่อ จากที่ไขก๊อกไปทำงานการเมือง ที่ “พปชร.” อีกส่วนหนึ่งลาออกไปนั่ง “ส.ว.” กับ 2-3 ราย ติดภารกิจ
⦁…อาทิตย์หน้าจะเข้าสู่โหมด “ตู่ภาค2/1” รอเพียงขั้นตอนโปรดเกล้าฯ กับ ถวายสัตย์ฯ แต่งตัวใหม่ หล่อเรี่ยมเร้เรไร มาจากการเลือกตั้ง แต่เป็นรัฐบาลผสมมี “พรรคร่วม” มากที่สุดในโลก จับปูมาอยู่กระด้งเดียวกัน เฉียด 20 พรรค
⦁…โฟกัส ต่อไปที่ “ตู่2/1” ผู้สันทัดกรณีทุกวงการฟันธงว่า น่าจะ “สามเพลงตกม้าตาย” ลำพัง “พรรคร่วม” นะไม่มีอะไรหวั่นใจอะไรสักเท่าไหร่ มีแต่ “พปชร.” ที่เป็นแกนนำ น่าปอดกระเส่ามากสุด เพราะมีประเด็นดราม่ามาให้เคลียร์กันอยู่เป็นระลอก
⦁…ก่อนหน้านี้ “ตู่2/1” ฟอร์มพอลงตัว เสียงปริ่มน้ำ ระดับใจจะขาด ก็ปังเลย 3 ก๊กใหญ่ ใน “พปชร.” ชักธงรบ ล่อกันนัว เปิดศึกชิง “เก้าอี้ทองคำ” รัฐมนตรีเกรดเอ กระชากลากไส้กันด้วยความเมามัน กี่ขดๆ ชาวบ้านเห็นหมด
⦁…หลายผู้หลายนาม ที่จะมาร่วมทำงานกับ “บิ๊กตู่” ปากบอกว่า แล้วแต่ “ทั่นผู้นำ” ให้ทำงานที่ไหนก็รับได้ไม่เกี่ยง ไม่งอน ทุกคนพร้อมเสียสละเพื่อชาติ แต่ตอนพูด “น้ำลายไหล” ปากมันแผล็บ ราวกับคนตายอดตายอยาก ยังไงยังงั้น
⦁…ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเรื่องแย่งตำแหน่งรัฐมนตรี “ผู้ใหญ่” ฉุนฟิวส์ขาด ใช้ไม้แข็งแก้เกมจนเข้าที่เข้าทาง สงบศึกกันชั่วคราว ทุกกลุ่ม ทุกมุ้ง ถอยกลับเข้าสู่ที่ตั้ง แต่ “พักเบรก” ได้แป๊บเดียว “พปชร.” มีประเด็นใหม่ ต้องมานั่งเคลียร์กันใหม่อีกปม
⦁…ว่าด้วย บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรี” ที่มาจาก “บัญชีรายชื่อ” ต้องลาออกจาก ส.ส. เพื่อเปิดทางให้ “ลำดับถัดไป” เลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.สืบแทน เว้นแต่ “ส.ส.เขตเลือกตั้ง” ไม่ต้องลาออก เพราะนอกจากจะ “กลัวแพ้” แล้ว ยังต้องเลือกตั้งซ่อม
⦁…“บิ๊กเนม” ที่มีคิวเป็นเสนาบดีใน “พปชร.” จะติดเงื่อนไข ต้องไขก๊อก ออกจากตำแหน่ง ส.ส. จะประกอบด้วย “ณัฐฏพล ทีปสุวรรณ-พุฒิพงษ์ ปุณณกันต์” แห่งกลุ่ม กปปส.เก่า “สมศักดิ์ เทพสุทิน” กับ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” 2 ขาใหญ่จากกลุ่มสามมิตร
⦁…ขณะเดียวกัน “กลุ่มสี่กุมารทอง” ต้นทุนตรงนี้ไม่มี เนื่องจากไม่ได้เป็น ส.ส. ทั้ง 2 ระบบ ไม่ว่าเขตเลือกตั้ง หรือบัญชีรายชื่อ กรณีที่ว่า “ต้องลาออกจาก ส.ส.” นี้ จะได้เปรียบขึ้นมาโดยพลัน ยืนเสมอที่เป็นผ่าศูนย์กลางเดียวกันกับ “กลุ่ม กปปส.และสามมิตร” คือ “ขาลอย” กันด้วยความเสมอภาค
⦁…กับเงื่อนไข ลาออกจาก ส.ส.หากได้รับแต่งตั้งให้ไปเป็นรัฐมนตรีเชื่อว่าแกนนำ 2 กลุ่ม ทั้ง “สามมิตร-กปปส.เก่า” ไม่อยากไขก๊อก เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้กำหนดว่า ให้ลาออกแต่ประการใด
⦁…เท่ากับว่า ยิ่งเปิดพื้นที่ให้เกิด “ศึกใน” พรรคพลังประชารัฐ ดุเดือดเลือดท่วมมากขึ้น และจะต่อยอดไปปะฉะดะกันต่อ กับการเลือก ส.ส.ไปทำหน้าที่ เลขาฯ-ที่ปรึกษา รัฐมนตรี
พลุน้ำแข็ง
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่