‘ตู่’ย้อน’พุทธะอิสระ’ ยกบทเรียนงมอาวุธสระวัดปทุมฯ ชี้’ธรรมกาย’ควรกลัวสร้างสถานการณ์มากกว่าคดีความ(คลิป)

นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และประธาน นปช. กล่าวว่า กรณีพระพุทธะอิสระ พระลูกวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้โพสต์ข้อความและภาพที่มีการระบุว่ามีชายฉกรรจ์เป็นผู้ขนอาวุธเข้าไปในวัดและภาพที่อ้างว่ามีบุคคลเป็นการ์ดเสื้อแดงชูสามนิ้วในวัดพระธรรมกายว่า ดีเอสไอมีความกระตือรือร้นจนผิดสังเกต โดยตนได้สั่งให้ นายอารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ด นปช.เช็กรายชื่อในทะเบียนประวัติกลับพบว่าบุคคลที่มีชื่อและนามสกุลนี้มีอยู่ 2 คน แต่อายุ 60 ปีทั้งสิ้น จึงไม่ใช่ชื่อและเป็นบุคคลเดียวกันตามทะเบียนประวัติ กำลังจะตรวจสอบว่าเขาทำหน้าที่อะไรตรงไหนขณะมีการประชุม แต่ว่าเหตุการณ์ที่มีภาพปรากฏ ภาพชู3นิ้วในวัดจะด้วยเหตุอะไรก็ตามก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ที่แปลกใจคือ พระพุทธะอิสระ สัมภาษณ์ว่าได้ส่งคนของตัวเองเข้าไปในวัดพระธรรมกายซึ่งพวกตนมีบทเรียนเรื่องการงมอาวุธที่สระน้ำวัดปทุมมาแล้ว จึงอยากเตือนวัดพระธรรมกายด้วยความห่วงใยว่า สิ่งที่น่ากลัวที่สุดนั้นไม่ใช่เรื่องคดีความที่ทางดีเอสไอตั้งข้อกล่าวหาอยู่ในขณะนี้ แต่เรื่องที่ใหญ่ที่สุดคือการสร้างสถานการณ์เพราะการประโคมของข่าว โดยที่ไม่ได้มีภาพว่ามีชายฉกรรจ์ถือกระเป๋าใบใหญ่ที่บอกว่าเป็นคนเสื้อแดงหรือการ์ดเสื้อแดงไปในวัดพระธรรมกาย ซึ่งเรื่องเหล่านั้นเป็นความเท็จ ตนนั้นไม่ได้เป็นศิษย์วัดพระธรรมกาย แต่แลเห็นว่าวิธีการปฏิบัติต่อวัดพระธรรมกายนั้นเป็นการปฏิบัติที่เกินพึงจะทำ เพราะว่าคดีนี้เพียงแค่แจ้งข้อกล่าวหาซึ่งสามารถแจ้งที่ใดก็ได้ และถ้าดูเจตนา ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าในคดีนี้ เงินทำบุญนั้นก็มีเส้นทางชัดเจนและเมื่อศิษย์เค้ารู้ว่าเป็นเงินมีปัญหาก็มีการรวบรวมทยอยใช้คืน ซึ่งคนที่มีปัญหาคดีนี้ก็ไปบริจาคยังที่อื่นๆ แต่ดีเอสไอไม่เลือกที่จะปฏิบัติอย่างเดียวกันกับวัดพระธรรมกาย นี่คือปัญหา แต่ว่าเรื่องคดีความเชื่อว่าไม่น่าห่วงใย เพราะว่าเดิมฟ้องแพ่งและทางวัดก็แสดงเจตนาและมีการชดใช้ไปแล้ว เพราะว่าในหลักการทำบุญไม่มีคนรู้ว่าเป็นเงินบาปหรือเงินบุญแต่เมื่อรู้ว่าเป็นเงินบาปก็นำไปคืน แต่ที่น่ากลัวคือการสร้างสถานการณ์ เรื่องความรุนแรงและอาวุธ ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้นที่วัดพระธรรมกาย ทางวัดจึงต้องระมัดระวัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image