“จุรินทร์”ยัน 3 เงื่อนไขที่ต้องบรรจุในนโยบายรัฐบาล ประกันรายได้-แก้รธน.-บริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์ โยนนายกฯคุมปม”ร.อ.ธรรมนัส”ถูกวิจารณ์ มีมลทิน
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. เวลา 08.30 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เรียกรัฐมนตรีของพรรคหารือ ถึงนโยบายและการทำงานของรัฐมนตรี โดยนายจุรินทร์กล่าวภายหลังการหารือกับรัฐมนตรีพรรคเกี่ยวกับการจัดทำนโยบายรัฐบาลว่า ได้มอบหมายให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ และนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปหารือกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อจัดทำนโยบายรัฐบาลร่วมกัน โดยยังยึด 3 ประเด็นหลักที่เป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล คือ การประกันรายได้เกษตรกร ในเรื่องของข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอย่างน้อยที่สุดจะต้องแก้หมวดของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นในอนาคตทำได้ง่ายขึ้น เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดเงื่อนไขให้แก้ยาก นอกจากต้องใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมรัฐสภาแล้ว ยังต้องใช้เสียงฝ่ายค้านไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 และ ส.ว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 รวมทั้งต้องทำประชามติด้วยให้เหลือแค่ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภาเท่านั้น เหมือนรัฐธรรมนูญในอดีต เพราะหากไม่เริ่มต้นแบบนี้ อาจนำไปสู่การฉีกรัฐธรรมนูญในอนาคตอีก ซึ่งเชื่อว่าทุกฝ่ายไม่ประสงค์ให้เกิดขึ้น
“ข้อเสนอนี้เป็นการปลดกุญแจล็อกสำคัญ เปิดประตูสู่ประชาธิปไตย โดยได้เสนอให้กำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องทำภายใน 1 ปีและมั่นใจว่ามีโอกาสประสบความสำเร็จสูง เนื่องจากการเป็นการแก้ไขในหมวดที่ไม่กระทบผู้ใด และยังจะเสนอเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ให้กำหนดไว้ในนโยบายรัฐบาลด้วย” นายจุรินทร์กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสวิจารณ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเคยถูกถอดยศและถูกศาลออสเตรเลียพิพากษาจำคุกในคดียาเสพติดทำให้ถูกมองว่าภาพของ ครม.มีมลทิน นายจุรินทร์กล่าวว่า เมื่อเข้าบริหารราชการแผ่นดิน ทุกคนมีหน้าที่บริหารด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องกำกับดูแลให้เป็นไปตามนั้น ส่วนเรื่องคุณสมบัติก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นการทำหน้าที่จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากทุกคนตั้งใจทำหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ประชาชน ก็จะเป็นที่ยอมรับได้
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า สำหรับการทำงานในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ต้องรอเข้าเฝ้าทูลละอองธุรีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อน จึงจะเข้าทำหน้าที่ก่อน โดยเรื่องเร่งด่วนที่ต้องผลักดันคือนโยบายประกันรายได้ เพราะเป็นเป้าหมายหลักที่พรรคจะต้องเข้าไปดูแล ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการนัดหารือกับรัฐมนตรีช่วย
