หลังจากผ่านสถานการณ์”มติพรรค”เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐเมื่อคืนวันที่ 4 มิถุนายน อันนำไปสู่การขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 มิถุนายน
พรรคประชาธิปัตย์จะเข้าเผชิญกับสถานการณ์สำคัญอีกครั้งในการแถลงนโยบายในที่ประชุมรัฐสภาวันที่ 25 กรกฎาคม
นั่นก็คือ ประเด็นของการแก้ไขเพิ่มเติม”รัฐธรรมนูญ”
แม้คำยืนยันจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสานกับคำยืนยันจาก นายจุติ ไกรฤกษ์ ตลอดจน นายนิพนธ์ บุญญามณี มีการบรรจุเรื่องแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแน่นอน
แต่หากนำเอา”เม็ดใน”ของ”ถ้อยคำ”มาสังเคราะห์อย่างจริงจังก็ชวนให้นึกถึงบทเพลงหลังรัฐประหารที่ว่า
เราจะทำตาม”สัญญา”ขอ”เวลา”อีกไม่นานขึ้นมาโดยพลัน
ที่น่าศึกษาน่าจะเป็นคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับคำพูดของ นายนิพนธ์ บุญญามณี
ในนโยบายเขียนไว้ว่า “สนับสนุน”
แต่ภายใต้คำว่าสนับสนุนนั้น “ทุกคนยอมรับโดยสนับสนุนให้มีการแก้ไข ในทุกกฎหมายแก้ไขได้แต่ไม่ได้กำหนดกรอบเวลา ก็แก้ไขกันไป”
“เมื่อไรก็เมื่อนั้น อยู่ที่จะทำเร็วหรือทำช้า”
เช่นเดียวกับประโยคที่ว่า “ใครเสนอมาก็พร้อมรับฟังความคิดเห็น ใครจะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าชื่อของประชาชน หรือ ส.ส.ส.ว.
ส่วนใครจะเป็นเจ้าภาพนั้นไม่ได้หารือ”
ข่าวรอบด้าน กับ Line@มติชนนิวส์รูม คลิกเป็นเพื่อนกัน ได้ที่นี่
นั่นไม่เพียงแต่จะปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น หากที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ ไม่ได้เป็นเรื่องของรัฐ บาลแม้ว่าจะเป็นการบรรจุไว้ในนโยบายของรัฐบาลก็ตาม
ประชาชนที่อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มาตั้งแต่ปี 2489 ก็ย่อมจะเข้าใจว่าผลจะเป็นอย่างไร
ดุจเดียวกับบทเพลงเราจะทำตาม”สัญญา”ขอเวลาอีกไม่นาน
บทเรียนแห่งการรอคอยดูเอกภาพระหว่าง”คำพูด”กับ”การกระทำ”
ไม่ว่าจะเป็นบทเพลงเราจะทำตาม”สัญญา”ขอเวลาอีกไม่นานไม่ว่าจะเป็นคำยกย่องที่ว่า “ดีแต่พูด”
บทเรียนจากประสบการณ์ของประชาชนจะพิสูจน์อีกคำรบหนึ่งในกรณีการแก้ไขเพิ่มเติม”รัฐธรรมนูญ”