จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (บิ๊กตู่ 2) และมีข้อกังขาว่าคุณสมบัติของ ครม.หลายราย ที่ไม่มีความเหมาะสม โดยเฉพาะนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จากคดีปล่อยกู้กรุงไทย 9.9 พันล้านบาท ให้เครือบริษัทกฤษดามหานคร เมื่อปี 2546 ที่สุดท้ายแล้วคณะกรรการ 3 ราย ของธนาคารกรุงไทยที่อนุมัติถูกตัดสินจำคุก แต่นายอุตตม 1 ใน 5 คณะกรรมการที่ร่วมอนุมัติรอด โดยอ้างว่าเป็นผู้คัดค้านนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวันชัย บุนนาค ทนายความอิสระ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า
“ทนายวันชัย บุนนาค ต้องบอกไปยังพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า รมต.อุตตม สาวนายน ได้สร้างกรรม คือ การกระทำทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไว้ที่ธนาคารกรุงไทย/ธปท./ตร./คตส.และศาลฎีกา–ชัดแจ้ง ชัดเจน เป็นเอกสารไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เลยนะ ท่านนายกรัฐมนตรี ทั้งประชาชนและตัว รมต.อุตตม ไม่มีหนทางไปบิดเบือนข้อเท็จจริงและเอกสารทั้งหมด
วันที่ 8 ธ.ค.2547 นายอุตตม สาวนายน ให้การต่อผู้ตรวจการธนาคารพาณิชย์/ของ ธปท.ไว้ในหน้า 2 แผ่นที่ 2 ชัดเจนว่า ก่อนการประชุมพิจารณาปล่อยสินเชื่อ ราย บ.โกลเเด้นฯ กลุ่มกฤษดามหานคร ในวันที่ 9 ธ.ค.2546 ฝ่ายเลขาฯคณะกรรมการบริหารได้จัดส่งรายละเอียดเกี่ยวกับลูกหนี้ให้ศึกษาก่อน 2 วัน นายอุตตมเห็นว่าเป็นกรณีปกติ เป็นโครงการใหญ่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนการประชุมไม่มีผู้ใดติดต่อให้นายอุตตม-เป็นพิเศษในเรื่องการพิจารณาสินเชื่อ ส่วนเรื่องอื่นๆ ฟังคนอื่นเล่ามา และฟังนายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ ที่เป็นกรรมการบริหารอีกคนเล่าให้ฟังมาแล้ว นายอุตตมเอามาให้การกับเจ้าพนักงาน
วันที่ 25 ก.พ.2548 นายอุตตม สาวนายน ให้การกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไว้ชัดๆ ทำนองว่า หลังจากปล่อยสินเชื่อไปแล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยตรวจพบว่า ธ.กรุงไทย สาขาพระปิ่นเกล้า จ่ายเช็คเงินให้กู้แก่บริษัท โกลเด้นฯ แยกเป็นหลายฉบับ (11 ฉบับ) ถ้ากรณีปกติจะจ่ายเช็คเป็นฉบับเดียว ธ.กรุงไทย จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ผลปรากฎว่ามีผู้บกพร่อง ขาดความรอบครอบ จึงให้มีการสอบสวนเชิงลึกต่อไป
ก่อนการอนุมัติสินเชื่อไม่มีผู้ใดมาขอให้นายอุตตมพิจารณาปล่อยสินเชื่อเป็นกรณีพิเศษ มีแต่เพียงฟังคำบอกเล่าของนายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์เท่านั้น นายอุตตม ให้การว่าทราบจากการตรวจสอบของ ธปท.ในภายหลังว่า การพิจารณาปล่อยสินเชื่อในวันที่ 9 ธ.ค.2546 มีการให้ข้อมูลลูกหนี้ไม่ครบ
**ขอแย้งหน่อยนะ–อ้าวๆ ปล่อยสินเชื่อ 9,900 ล้านนะครับ–คณะกรรมการบริหารมีอำนาจต้องมีหน้าที่รับผิดชอบด้วยนะ-ต้องเรียกดู/ต้องขอข้อมูลลูกหนี้–ให้ครบถ้วนก่อนวันที่ 9 ธ.ค.2546 วันที่ลงมติปล่อยสินเชื่อนะครับ–ถ้าไม่ขอเอง–อย่าโยนความรับผิดให้บุคคลอื่นๆ นะครับ
วันที่ 16 ก.พ.2550 นายอุตตม สาวนายน ให้การกับ คตส. ชัดๆ ในหน้าที่ 4 แผ่นที่ 6 ทำนองว่าการปล่อยสินเชื่อให้ลูกหนี้/รวมถึง-ราย บ.โกลเด้นฯ ธนาคารต้องตรวจสอบยอดหนี้ที่แท้จริงที่บริษัทดังกล่าวมีอยู่กับธนาคารกรุงเทพ เจ้าหนี้เดิม นั้นต้องตรวจสอบก่อนนำเสนอคณะกรรมการบริหารพิจารณา แล้วก็อ้างถึงอะไรต่อมิอะไรที่นายอุตตมเห็นเป็นการผิดปกติก่อนวันที่ 9 ธ.ค.2546 วันที่ลงมติปล่อยสินเชื่อ 9,900 ล้านบาท
**ขอแย้งหน่อยนะ ถ้ากรรมการบริหารเห็นว่าผิดปกติต้องค้านต้องไม่ปล่อยสินเชื่อในวันที่ 9 ธ.ค.2546 นะครับ จึงจะอ้างว่าได้ทำการรักษาผลประโยชน์ของธนาคารกรุงไทย–ได้ นะครับ** ปล่อยกู้ไปแล้วอ้างภายหลัง *น่าละอาย*
และ*อาจเป็นคนไม่น่าคบ*
จากการที่นายอุตตม สาวนายน ให้การกับ ธปท./ตร./คตส. นั้น/ประชาชนอย่างเราๆ ต้อง งง งง งง จริงๆ ว่า ในการพิจารณาวิเคราะห์คุณสมบัติผู้ขอกู้-เป็นเดือนๆ-จน-ถึง-วันที่ 9 ธ.ค.2546 นั้นนายอุตตมฯ ได้แสดงออก ได้กระทำการไม่เห็นด้วย ได้กระทำการคัดค้าน การปล่อยสินเชื่อให้ บริษัท โกลเด้นฯ-กลุ่มกฤษดามหานคร วงเงิน 8,000+500+1,400 รวม 9,900 ล้านบาท- ตอนไหน/ที่ไหน/อย่างไร/วิธีการคัดค้านแบบไหน–เพราะ วันที่ 9 ธ.ค.2546 นายอุตตมเห็นว่า เป็นกรณีปกติ และไม่มีใครมาขออะไรกับนายอุตตม-ให้พิจารณาปล่อยสินเชื่อเป็นพิเศษ
ภาคประชาชน งง งง งง กันต่อไป คตส.สรุปว่า มีพยานหลักฐานว่า นายอุตตม สาวนายน ไม่ได้ร่วมกระทำความผิดกับคณะกรรมการ 3 คน-ซึ่งร่วมกันลงมติปล่อยสินเชื่อ 9 ธ.ค.2546 ที่ คตส.มีคำสั่งฟ้อง/ โดยคตส.ลงมติ 2 มิ.ย.2551 ใครหนอ ใครกัน คนไหนล่ะ ตรัสรู้ได้เกินกว่า -คำพูดของนายอุตตม–ที่บอกว่า ทราบว่า-หลังจากปล่อยกู้ไปแล้ว ธปท.ตรวจพบความผิดปกติ–แล้วใครเหรอ ครับ-ที่เชื่อว่า–นายอุตตม ไม่ได้ร่วมกระทำผิด
เพราะความผิดสำเร็จไปตั้งแต่ 9 ธ.ค.2546- วันที่ลงมติปล่อยสินเชื่อ 9,900 ล้านบาทแล้ว นายอุตตม มารู้ภายหลังเมื่อ ธปท.ตรวจพบความผิดปกติ แล้ว ไม่ได้ร่วมทำผิด วันที่ 9 ธ.ค.2546 ได้หรือ
ทั้งๆ ที่ นายอุตตมไม่มีพยานเอกสารหลักฐานใดๆสักชิ้นเดียวที่ไม่เห็นด้วยในวันที่ 9 ธ.ค.2546 ประกอบคำให้การของนายอุตตมฯที่ให้การ-กับ-ธปท./ตร./คตส.—-มีเพียงนายอุตตมฯ ตนเดียวที่ไม่ งง และดีใจจริงๆ ให้การปากเปล่าทั้งสิ้น– เจ้าหน้าที่สอบสวนทุกหน่วยและ คตส.เชื่อว่าไม่ได้ร่วมทำผิด 555 แปลกแต่จริง ที่นี่ประเทศไทย
หลังจาก นายอุตตม สาวนายน ดีใจจากการไม่ถูกฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง –ในคดีหมายเลขดำที่ อม.3/2555
วันที่ 16 ก.ค.2557 นายอุตตม สานายน ก็ไปให้การเป็นพยานในคดี อม.3/2555 ในฐานะพยานของโจทก์– เบิกความชัดๆทำนองว่า นายอุตตมให้การว่า ” ข้าฯมาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ เพราะข้าฯ เป็นกรรมการบริหารที่ร่วมประชุมพิจารณาให้สินเชื่อแก่บริษัทโกลเด้นฯ จำเลยที่ 19 เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2546″ และ “ก่อนการประชุมไม่มีผู้ใดติดต่อกับข้าฯเป็นพิเศษในการพิจารณาสินเชื่อรายนี้ * และอื่นๆ ที่ฟังจากการเล่าของนายชัยณรงค์ มาอีกที แล้วมาให้การในศาล
และใน**หน้าที่ิ 6**นายอุตตมให้การว่า ” ข้าฯไม่ได้ขอดูข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด หากข้าฯทราบว่ายอดหนี้ Refinance ที่บริษัท โกลเด้นฯจำเลยที่ 19 ตกลงไว้กับธนาคารกรุงเทพฯมีเพียง 4,500 ล้านบาทแล้ว ข้าฯจะไม่อนุมัติวงเงินสินเชื่อดังกล่าว ” **ขอเน้นๆ ตรงนี้ว่า*** นายอุตตมครับ ท่านเป็นกรรมการบริหารที่มีอำนาจหน้าที่ และต้องมีความรับผิดชอบ–ต่อธนาคารกรุงไทย/ธนาคารของรัฐ-นะครับ ต้องรักษาผลประโยชน์ของธนาคารกรุงไทย/ธนาคารของรัฐด้วยนะครับ ที่นายอุตตมให้การต่อ ธปท./ตร./คตส./-การปล่อยสินเชื่อเป็นกรณีปกติ และธนาคารได้ตรวจสอบข้อมูลลูกหนี้-กับ-มูลหนี้ที่มีกับ ธ.กรุงเทพ เจ้าหนี้เดิมแล้ว จึงปล่อยสินเชื่อในวันที่ 9 ธ.ค.2546 ไม่มีใครมาขออะไรเป็นพิเศษจากนายอุตตม–เลยนะครับ
พอถึงเวลาให้การที่ศาลฎีกา-นายอุตตมกลับให้การว่า นายอุตตมไม่ได้ขอดูข้อมูล และถ้านายอุตตมทราบว่า บริษัท โกลเด้นฯ-มีหนี้-กับ-ธ.กรุงเทพ เจ้าหนี้เดิม เพียง 4,500 ล้านบาท แล้ว จะไม่อนุมัติ วงเงิน Refinace ให้รายนี้ ไฉน นายอุตตม เชื่อมั่นในอภินิหารอันใดหรือ จึงให้การต่อศาลฎีกาเยี่ยงนี้
เพราะคือ การบอกว่า นายอุตตมเป็นกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย/ธนาคารของรัฐที่ละเลยต้อหน้าที่และการต้องมีต้องทำการโดยรักษาษาผลประโยชน์ของธนาคารกรุงไทย ในวันที่ 9 ธ.ค.2546 แต่นายอุตตมละเลยไม่ขอดูเอกสารมูลหนี้-ของ บ.โกลเด้นฯ-กับ-ธ.กรุงเทพ-เจ้าหนี้เดิม ว่าแท้จริงมีเพียง 4,500 ล้าน-อาจจะเป็นการจงใจหรือเลินเล่ออย่างร้ายแรงได้เลยเชียวนะ-เพราะปล่อยสินเชื่อไป 9,900 ล้านเลยนะ นายอุตตม พูดเองด้วยนะ
ใครๆก็ไม่ได้บิดเบือนนะ
ที่ไปให้การที่ศาลฎีกานั้น ถ้าหากเป็นเท็จ ความผิดฐานเบิกความเท็จจะไปขาดอายุความ 15 ก.ค.2567 เลยนะท่าน
ไม่ต้องพูดเรื่อง-เคยถูกศาลตัดสินจำคุกมาก่อน ตาม รธน.2560 มาตรา 160(7)-สำหรับ-รายนายอุตตม รมต.คลัง
เพราะความเสียหายของธนาคารกรุงไทยครั้งนั้น จากการที่นายอุตตม ร่วมลงมติปล่อยสินเชื่อมากมายจริงๆ
และศาลฎีกาตัดสินจำคุก กรรมการที่ร่วมอนุมัติสินเชื่อไป 3 คนๆ ละ 18 ปี เมื่อ 26 ส.ค.2558 แต่อภินิหารรอดไม่ถูกฟ้อง 2 คน (ศาลฎีกาจึงไม่มีโอกาสตัดสิน-นายอุตตม)
ถามพลเอก ประยุทธ์จันทร์โอชา และนายอุตตม สาวนายน ว่า นายอุตมมมีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ ให้การแบบนี้ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเพียงประโยคสั้นๆชัดเลยว่า ไม่ได้รักษาผลประโยชน์ของธนาคารของรัฐ/ธนาคารกรุงไทย-และธนาคารรัฐเสียหายไปแล้วจริงอย่างนี้แล้วนายอุตตมยังเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์
เป็นที่ประจักษ์- (รธน.2560 มาตรา 160(4)-ของคนจะเป็น รมต.ว่าการกระทรวงการคลัง มากำกับสถาบันการเงินของประเทศไทย ได้อีกหรือท่านนายก
**ท่านนายกรัฐมนตรีจะไม่พิจารณาปรับเปลี่ยนเอาออกจาก รมต.จริงๆหรือท่านนายก**
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ฝ่ายค้านจะต้องดำเนินการตามช่องทางใน รธน.2560 กับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอุตตมฯ เพื่อให้ศาล รธน.วางบรรทัดฐานต่อไป ต้องบอกนายกรัฐมนตรีว่า *ไม่ใช่ฝ่ายค้านล้มล้างรัฐบาล*นะท่านนายก
ทนายวันชัย บุนนาค
17 ก.ค.2562
