วิสัยทัศน์ 3 เจ้ากระทรวง สาธารณสุข-คมนาคม-ศึกษาธิการ

ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ-ศักดิ์สยาม ชิดชอบ-อนุทิน ชาญวีรกูล

หมายเหตุเป็นแนวคิด นโยบาย และเป้าหมายการบริหารงานของรัฐมนตรีว่าการ 3 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และกระทรวงศึกษาธิการ กับภารกิจสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

สัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนเรื่องการแบ่งงานของกระทรวงคมนาคม และจะมีการมอบนโยบายให้กับหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงคมนาคมต่อไป โดยต้องรอการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาเรียบร้อยก่อน โดยวันที่ 18-19 กรกฎาคม จะให้ผู้บริหารระดับสูงแต่ละหน่วงยงานมาบรรยายสรุปการดำเนินงาน เพื่อได้รับทราบรวมถึงปัญหาอุปสรรคที่ติดขัด และหลังจากที่รัฐบาลแถลงนโยบายแล้วกระทรวงคมนาคมจะเริ่มทำงาน โดยรัฐมนตรีทั้ง 3 คนของกระทรวงคมนาคมก็ได้ทำการบ้านกันมาแล้ว ต้องทำงานเป็นทีมเป็นคมนาคมเอฟซีหรือคมนาคมยูไนเต็ด

ผมตั้งใจจะเข้ามาทำหน้าที่และเข้ามาทำงานให้ดียิ่งขึ้นไป แม้รัฐมนตรีที่เข้ามาร่วมกันทำงานจะมาจาก 3 พรรค แต่การทำงานร่วมกันไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะเคยทำงานร่วมกันมาแล้ว ทั้งนี้ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ เป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขณะที่นายถาวร เสนเนียม ก็เป็นรุ่นพี่มหาลัยธรรมศาสตร์เช่นกัน เราจะร่วมกันทำงาน เพราะภาระงานของกระทรวงคมนาคมกว้างมาก และจากที่เปิดรัฐสภามาพบว่า ปัญหาของประชาชนที่มีการยื่นกระทู้มาเป็นเรื่องเกี่ยวกับคมนาคมจำนวนมากถึง 80% อาทิ เรื่องถนน การต่อสัมปทานทางด่วน และอื่นๆ แต่ไม่หนักใจ เข้าใจถึงปัญหาของประชาชน ต้องช่วยกันจะทำอย่างไรที่จะสามารถทำงานให้ได้เร็วที่สุด ทุกเรื่องต้องเร็วหมด เพราะทุกเรื่องเป็นเรื่องสำคัญ

Advertisement

เมื่อมีนโยบายออกมา ฝ่ายข้าราชการประจำจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักและนำไปปฏิบัติ แต่เรื่องสำคัญที่ต้องทำให้เกิดขึ้นคือ ความรอบคอบ รวดเร็ว สมัยก่อนที่เคยมีประเด็นว่า ทำงานไม่ฉลาด สมัยที่พวกเรา 3 คนมาอยู่ที่กระทรวงคมนาคม ต้องไม่มีเรื่องค่าโง่ ถือเป็นคำสัญญา สมัยนี้ทำผิดต้องติดคุกด้วยไม่ใช่แค่ถูกปลดออกเท่านั้น

ขณะนี้แม้ว่าจะยังไม่ได้แบ่งงาน แต่ก็ทำงานเป็นทีม หรือแม้แบ่งงานกันแล้วก็ต้องช่วยกันทำงาน เพราะไม่มีทางที่คนคนเดียวจะสามารถพิจารณาอะไรได้รอบคอบเท่ากับการร่วมกัน ผมเชื่อมั่นในรัฐมนตรีช่วย เชื่อมั่นในปลัดกระทรวง เชื่อมั่นในผู้บริหารระดับสูง รวมทั้งจะมีการสร้างไลน์กลุ่มเพื่อง่ายต่อการสื่อสาร มีอะไรที่เป็นข้อสงสัยอยากซักถามยินดีตลอด ทั้งผมและรัฐมนตรีช่วย ไม่มีความลับ

อนุทิน ชาญวีรกูล
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

Advertisement

นโยบายเร่งด่วนคือ เน้นการปรับปรุงและยกระดับการให้บริการของสถานพยาบาล ในการดูแลประชาชนผู้ป่วยให้ได้รับความสะดวกเป็นหลัก รวมถึงพยายามสร้างองค์ความรู้ให้ประชาชนรักษาตนเองในเบื้องต้น เพื่อลดอัตราเจ็บป่วย ผู้ป่วยติดเตียง และความแออัดในโรงพยาบาล ตลอดจนการอบรมบุคลากรทางการแพทย์ในเรื่องการรักษาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น

สำหรับนโยบายการใช้กัญชาทางการแพทย์จะพยายามผลักดันเข้าสู่ระบบประกันสุขภาพ เพื่อให้สามารถจ่ายยาและให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และงบประมาณของรัฐ โดยก้าวแรกจะเร่งผลักดันเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ ส่วนหน่วยงานอื่น คือสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จะประสานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) และเลขาธิการ ป.ป.ส. เบื้องต้นพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

ในส่วนของกัญชงจะต้องเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ ตอนนี้เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เตรียมปลดล็อกสารซีบีดี ซึ่งเป็นสารสกัดสำคัญในกัญชง ปัจจุบันรอคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยกำชับว่าถ้าปลดแล้ว ต้องปลดเลย ไม่ใช่ต้องมานั่งแก้กฎหมายอีก ถ้าทำต้องทำให้จบ ไม่ใช่ขายผ้าเอาหน้ารอด ส่วนกัญชาเสรีเพื่อสันทนาการก็เป็นเรื่องของแต่ละบ้าน เป็นผลพลอยได้

กรณีราชวิทยาลัยเด็ก และราชวิทยาลัยจิตแพทย์ ที่มีความห่วงใยเรื่องการใช้กัญชาในเด็ก ตอนนี้จะทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ก่อน ทุกอย่างมีคุณประโยชน์และโทษ โดยกัญชาต้องอยู่ภายใต้การควบคุมการใช้ อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่ก็ต้องควบคุมการใช้ และในอนาคตจะนำร่องให้เริ่มปลูกภายในครัวเรือนไม่เกิน 6 ต้นในบ้านที่มีผู้ป่วย เพื่อใช้รักษาโรคภายในบ้านเรือนของตนเองได้ เช่น การเจริญอาหาร เป็นต้น แต่สิ่งที่จะไม่เกิดขึ้น คือ การซื้อขายและการพกพากัญชาออกนอกสถานที่ กัญชาต้องถูกควบคุม โดยเน้นเรื่องหลักจะต้องเพื่อทางการแพทย์

ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

นโยบายการศึกษามีหลายประเด็นที่ถือเป็นวาระเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ โดยเฉพาะเยาวชนให้มีความรู้ความสามารถ มีทักษะที่จะสามารถแข่งขันในศตวรรษที่ 21 ได้ ในขณะที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ต้องพัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อมในการปรับตัว ให้มีความรู้พื้นฐาน และปรับทักษะของตนเองเพื่อรองรับการแข่งขัน ผมจะพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เทียบเท่าสากล และอยากให้ผู้บริหาร ศธ.นำนโยบายเหล่านี้ไปต่อยอดบูรณาการกับเรื่องที่ทำอยู่ในปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ระหว่างนี้ขอศึกษาข้อมูลของ ศธ.ที่มีอยู่เบื้องต้นก่อน และมาดูว่าจะสามารถแก้ไขจุดอ่อน แก้ไขปัญหา พัฒนาการศึกษา และต่อยอดการทำงานด้านการศึกษาได้อย่างไรบ้าง แม้ขณะนี้การศึกษาไทยไม่ได้อยู่ในสถานะที่เป็นเลิศมากนัก แต่ถ้าผู้บริหารทุกคนเปิดกว้างในการช่วยกันแก้ปัญหาการศึกษา จะทำให้เดินไปข้างหน้าง่ายขึ้น ผมจะฟังเสียงสะท้อนจากพื้นที่และข้าราชการครูเป็นหลัก พร้อมกับดึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมกันขับเคลื่อนงานการศึกษา

ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จะต้องพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ทุกคนมีความรู้เบื้องต้น และเท่าเทียมกัน ยังมีเด็กหลายกลุ่มที่มีศักยภาพ และพร้อมรับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ต้องหาเด็กกลุ่มนี้ให้เจอ และพัฒนาสนับสนุนความสามารถ สร้างเด็กเหล่านี้ให้เป็นช้างเผือก เชื่อว่าเด็กเหล่านี้มีจำนวนมาก ถ้าวางแผนพัฒนาเด็กเหล่านี้อย่างเหมาะสม เด็กกลุ่มนี้จะกลายเป็นผู้นำของประเทศในอนาคต รวมถึงการพัฒนาการศึกษาเด็กปฐมวัยเป็นเรื่องที่ตนและรัฐมนตรีช่วยอีก 2 คน ให้ความสนใจและให้ความสำคัญมาก เนื่องจากการศึกษาปฐมวัยเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาการศึกษา เพราะเด็กเหล่านี้จะแบกภาระในการพัฒนาประเทศ ดังนั้นต้องสร้างความพร้อมให้เด็กเหล่านี้มีคุณภาพ เติบโตไปพัฒนาให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้

บุคลากรครูเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเยาวชนทุกคน ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่อยากจะพัฒนาเป็นอย่างแรก เพราะครูเป็นหลักในการพัฒนานักเรียนให้มีความรู้ความสามารถ อยากพัฒนาครูให้เข้าสู่ศตวรรษที่ 21 จะขอไปดูข้อมูลว่าอะไรที่ทำให้การพัฒนาครูติดขัด หรือทำให้ช้าลง ต้องสร้างเส้นทางพัฒนาครูให้กว้าง และสะดวกต่อการพัฒนามากขึ้น มองว่าปัจจุบันความสามารถในการสอนของครูต้องได้รับการต่อยอด ต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต คุณภาพการทำงานของครู ต้องสร้างขวัญกำลังใจ ส่งเสริมให้ครูมีความพร้อมในการเป็นแม่พิมพ์พ่อพิมพ์ของชาติ นโยบายพัฒนาครูต่างๆ ต้องได้รับการตอบสนองจากครูด้วยถึงจะเดินหน้าต่อไปได้ และทุกอย่างจะต้องมีตัวชี้วัด มีกรอบระยะเวลาในการดำเนินงาน และสามารถจับต้องได้ และต้องสร้างครูให้มีมาตรฐานเท่ากัน และภายใน 1 ปีนี้ จะต้องคืนครูสู่ห้องเรียนให้ได้เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ จะต้องมีการปรับหลักสูตรให้มีความทันสมัยต่อโลกยุคดิจิทัล นำเทคโนโลยีในยุคดิจิทัลเข้ามาผสมผสาน พัฒนาหลักสูตรให้เหมาะสมกับการศึกษาที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเรื่องทั้งหมดจะมอบนโยบายให้ผู้บริหารและองค์กรหลัก ศธ.ไปพัฒนาการศึกษาให้เหมาะสม ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ตั้งเป้าว่าภายใน 1 เดือน จะต้องเกิดขึ้นให้ได้ และต้องมีกรอบการดำเนินงานที่ชัดเจน

ส่วนจะมีแนวทางทบทวนนโยบายเก่าหรือไม่ เช่น โครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร หรือคูปองพัฒนาครู ที่มีเสียงสะท้อนจากพื้นที่ว่า เป็นการสร้างภาระให้ครู เรื่องนี้ต้องเข้าไปดูรายละเอียดของคูปองพัฒนาครูว่า มีข้อดีข้อเสียอย่างไร ถ้าหากมีอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องในการพัฒนาความรู้ความสามารถครู จะต้องมาดูรายละเอียดถึงที่มาที่ไปว่ามีขึ้นมาได้อย่างไร ควรมี หรือไม่มี

เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงผมกล้าตัดสินใจแน่นอน เมื่อดูรายละเอียดแล้ว สามารถวิเคราะห์ถึงความเหมาะสมว่า คูปองพัฒนาครูควรมีหรือไม่ ส่วนเรื่องการทบทวนนโยบายเก่าหรือแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ก็เป็นเรื่องสำคัญ อะไรที่ทำให้การพัฒนาการศึกษาไทยติดขัดหรือล่าช้า แต่จะขอดูรายละเอียดเหล่านี้ก่อน เพราะการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ต้องมีการประเมิน ศึกษา และวางแผนอย่างรอบคอบ ส่วนปัญหาทุจริตในกระทรวง มีฝ่ายกฎหมายที่จะดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปด้วยดี รวมถึงการวิเคราะห์ภาพรวมการใช้งบประมาณของ ศธ.ว่ามีปัญหาที่ผูกพันกับการทุจริตอย่างไร เพื่อแยกแยะและให้ ศธ.ใช้งบประมาณได้อย่างเหมาะสม โดยคาดว่าก่อนสิ้นปี 2562 จะดำเนินการตรวจสอบแล้วเสร็จ

กรณีมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ที่ไม่มีประวัติการทำงานด้านการศึกษา เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน ที่มองว่าประสบการณ์การทำงานด้านการศึกษา วัดกันที่จุดใด ผมมีความสามารถในการบริหารแน่นอน มีความสามารถในการรับฟังปัญหาและแก้ไขปัญหา สามารถแยกแยะถึงความเหมาะสมได้ ส่วนเรื่องความรู้ความสามารถด้านการศึกษา ก็ยินดีน้อมรับคำวิจารณ์ อย่างไรก็ตาม ผมมีที่ปรึกษาด้านการศึกษาจำนวนมาก พร้อมให้ข้อเสนอแนะทั้งจากไทยและต่างประเทศ จากผู้ทรงคุณวุฒิในทุกภาคส่วน เพื่อวางแผน หาแนวทางในการบริหารและพัฒนาการศึกษาให้ก้าวไปข้างหน้า มั่นใจว่าทีมงานที่มีทั้งหมดจะสามารถทำงานผสมผสานกัน และผลักดันให้การศึกษาไทยได้รับการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ ก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image