ประโยชน์ไม่ลงตัว โวยรัฐมนตรีฝั่งพปชร.แบ่งงานกินรวบกรมหลัก เหลือแต่เศษเนื้อสร้างผลงานไม่ได้ อัดบริหารแบบเผด็จการคสช.
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. มีรายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการแบ่งงานในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี น่าจะสร้างรอยร้าวให้เกิดขึ้นภายในรัฐบาล อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ ที่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ แบ่งงานให้กับรมช.ดูในลักษณะแบ่งกันดู แต่ไม่ยกกรมหรือหน่วยงานใดให้รับผิดชอบ เหมือนกับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลอื่นๆที่ผ่านมา คือ สำนักปลัดกระทรวง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ) สำนักงานการอาชีวะศึกษา(สอศ.) สำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา โดยในส่วนของคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ดูแลสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(องค์การมหาชน) สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ และงานเสี้ยวหนึ่งของกรมอาชีวศึกษา คืองานในส่วนของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตรในวิทยาลัยอาชีวะศึกษา ถือเป็นการแบ่งงานที่ไม่มีหน่วยงานหลักในการแบ่งเบาภาระหรือเป็นหน่วยงานที่สามารถสร้างผลงานให้จับต้องเป็นรูปธรรม เปรียบเหมือนเป็นงานสร้างภาพออกงานตัดริบบิ้นโชว์ไปวันๆ แต่รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงกลับรวบอำนาจหน่วยงานและกรมสำคัญไว้ในมือทั้งหมด
ขณะที่นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ จากพรรคภูมิใจไทย แม้จะเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการลำดับที่สอง แต่ได้ดูแลสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) กิจการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานที่สร้างฐานทางการเมืองและมวลชนที่มองว่ามีความสำคัญทางการเมืองพอสมควร
สำหรับกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็มีการแบ่งงานให้รัฐมนตรีช่วยจากสองพรรคร่วมแบบเสียมิได้ โดยยึดเอากรม กอง ที่เคยควบคุมไว้เป็นหลักๆเหมือนในยุคคสช. โดยยังคงดูกรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) สำนักงานปลัดกระทรวง การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และงานหลักอื่น ส่วนนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.จากพรรคประชาธิปัตย์ ให้ดูแลกรมที่ดิน กรมป้องกันและบรรเทาสารณภัย การประปานครหลวง และองค์การกำจัดน้ำเสีย ด้านนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.จากพรรคภูมิใจไทย ให้รับผิดชอบกรมโยธาธิการและผังเมือง องค์การตลาด และการประปาภูมิภาค ซึ่งเป็นการแบ่งงานที่ผิดฝาผิดตัว เพราะรัฐมนตรีว่าการควรจะดูงานในส่วนกลางของกทม. เช่น องค์การกำจัดน้ำเสีย ขณะที่ส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่นควรให้รมช.ดูแทน
ทั้งนี้ มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการแบ่งงานดังกล่าว โดยเฉพาะกรมที่เกี่ยวข้องกับงานท้องถิ่นมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งที่ตัวเองไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ยังเลือกบริหารงานแบบยุบอำนาจเหมือนคสช.อีก
