‘จุรินทร์’ ฟิตสั่ง พณ.จัดเวทีฟื้นการค้าชายแดนไทย-มาเลย์ เชื่อ เพิ่มมูลค่าส่งออก-แก้ปัญหา ศก.ฐานราก

แฟ้มภาพ

‘จุรินทร์’ สั่ง ‘พาณิชย์’ จัดเวทีฟื้นการค้าชายแดนไทย-มาเลย์ เชื่อ เพิ่มมูลค่าส่งออกไทย-แก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานราก

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 กรกฎาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมร่วม ศอ.บต.และภาคเอกชน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า หลังจากการรับฟังปัญหาของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทราบว่ามีปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน สะพาน สนามบิน ท่าเรือ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องพืชผลทางการเกษตร เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน ลองกอง และในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้มีลักษณะเพิ่มเติมคือเรื่องของผลไม้ อาทิ ทุเรียน ลองกอง ซึ่งลองกองจะออกพร้อมกันในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้ความช่วยเหลือในเรื่องของการตลาด ตนจึงสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ดูแล ไม่ต้องรอให้ลองกองล้นตลาดแล้วค่อยมาคิดหาวิธีแก้ โดยกระทรวงพาณิชย์จะเข้ามาดูลู่ทางในการระบายลองกองไปทั้งในและต่างประเทศ

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ส่วนประมง สภาพปัญหาคือทำอย่างไรให้การประมงทั้ง 4 ภาคส่วน คือ 1.ประมงพื้นบ้าน 2.ประมงพาณิชย์ 3.การแปรรูปอาหารทะเล และ 4.การส่งออก สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน โดยตนได้เสนอกฎหมาย 2 ฉบับ คือ 1.พระราชบัญญัติสภาการประมงแห่งชาติ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการเสนอแนะแก้ปัญหา และร่วมตัดสินใจร่วมกัน 2.พระราชบัญญัติการจัดตั้งกองทุนอนุรักษ์ทะเลไทยเพื่อการพัฒนาการประมงอย่างยั่งยืนบรรจุเข้าไว้ในนโยบายของรัฐบาลแล้ว

นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการค้าและการลงทุน ซึ่งประเด็นคือการส่งเสริมสนับสนุนอุตสาหกรรมฮาลาลให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น และสนับสนุนให้ครบวงจรตั้งแต่การผลิตแปรรูปและส่งออกรวมทั้งการตลาดด้วย หากบริหารจัดการประสบผลสำเร็จก็เท่ากับเป็นการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้ 5 จังหวัดใช้แดนภาคใต้ด้วย รวมถึงเรื่องการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ถือว่าทำตัวเลขได้สูงสุดเมื่อเทียบกับชายแดนอื่น ไม่ว่าจะเป็นลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม ถ้าสามารถทำให้คึกคักและเพิ่มยอดได้ ก็เท่ากับเป็นการเพิ่มยอดการส่งออกของไทยไปในตัว

Advertisement

“เชื่อว่าการค้าไทย-มาเลเซียมีอุปสรรคบางประการ ตนจึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ไปจัดเวทีระดมความคิดจากทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งส่วนราชการ เอกชน ฝั่งไทยและฝั่งมาเลเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หาแนวทางเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าของ 2 ประเทศ และเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าการส่งออกของฝั่งประเทศไทยไปในตัวด้วย”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image