‘สุทธิพงษ์’ ติวเข้มข้าราชการ สถ. สนองนโยบายรัฐบาล-มหาดไทย ดูแลทุกข์สุขประชาชน

‘อธิบดี สถ.’ ติวเข้ม ขรก.สถ. สนองนโยบาย รบ.-มท. ดูแลทุกข์สุขประชาชน

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่โรงแรมริเวอร์ไซต์ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เป็นประธานบรรยายพิเศษเรื่อง การขับเคลื่อนบทบาทภารกิจของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ในการสัมมนาเชิงปฎิบัติการ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในระดับพื้นที่ โดยมีผู้บริหารกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ท้องถิ่นจังหวัด ท้องถิ่นอำเภอ กว่า 250 คน เข้าร่วมการสัมมนา

นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า ฝากถึงนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย (มท.) และ สถ.ขอให้ร่วมกันผลักดัน ขับเคลื่อนนโยบายให้สัมฤทธิผล เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จะต้องมีการสร้างความรับรู้และความเข้าใจ ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รวมถึงคนในองค์กร ให้ได้รับรู้ถึงการปฏิบัติงานในด้านต่างๆ ที่ล้วนแล้วแต่ทำขึ้นเพื่อ “บําบัดทุกข์ บํารุงสุข” ให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะด้านการบริหารงบประมาณในด้านการของบประมาณเพื่อการบริหารหรือพัฒนาที่จำเป็นต้องมีกรอบ มีนโยบาย มีการวางแผนที่ดีสอดคล้องตามยุทธศาสตร์ต่างๆ หรือแผนงานต่างๆ โดยคำนึงถึงบริบท บทบาทหน้าที่ ภารกิจที่รับผิดชอบ และความต้องการของพี่น้องประชาชน รวมถึงทางด้านการเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้ และทำความเข้าใจในกฎหมาย ระเบียบใหม่ๆ ที่มีการบังคับใช้ และแนวทางต่างๆ ในการทำงาน เนื่องจากกระบวนการทำงานในปัจจุบันมีการประเมินความคุ้มค่า มีการติดตามตรวจสอบรายงานผล หากไม่รู้ ไม่เข้าใจ หรือไม่ปฏิบัติ ก็อาจเป็นเหตุให้โดนกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และอาจโดนฟ้องร้องได้ จึงขอฝากให้ทุกท่านได้เรียนรู้ และช่วยพัฒนาตนเองและเพื่อนร่วมงานให้เป็นผู้บริหารที่ดีในอนาคต

นายสุทธิพงษ์กล่าวอีกว่า ขอฝากเรื่องทัศนคติในการทำงานด้วยว่า ไม่ว่าเราจะมีความสามารถที่ดี (ability) รวมทั้งมีความรู้ดี (knowledge) แค่ไหนก็ตาม เราก็จำเป็นต้องมีทัศนคติที่ดี (attitude) เป็นสำคัญ ถึงจะสามารถทำสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นกับประเทศชาติ ประชาชนหรือเพื่อการ Change for Good ได้ ที่นอกจากการมีทัศนคติที่ดีแล้ว (attitude) จะต้องมีความรู้ความสามารถ และมีการกระตุ้น ปลุกเร้าให้คนร่วมทำให้บรรลุผลด้วย ซึ่งทัศนคติในการทำงานที่ดีนั้น จะทำให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นคงอยู่ได้ และพี่น้องประชาชนจะได้รับสิ่งดีๆ จากการที่กรมฯ ส่งเสริมสนับสนุน อปท.ในการทำหน้าที่เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน เพราะทุกวันนี้ พวกเราอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ มากมาย รวมถึงอยู่ท่ามกลางความข้องใจ ความสงสัยของพี่น้องประชาชน ท้องถิ่นจังหวัด และท้องถิ่นอำเภอ จึงเป็นเสมือนโซ่ข้อกลางของกระทรวงและกรม ในการนำนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นงานที่หนักที่สุด เพราะต้องรับเรื่องราวต่างๆ จากผู้บังคับบัญชาไปถ่ายทอดให้ทั้ง 7,851 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้นำไปปฏิบัติต่อ แล้วยังต้องรับเรื่อง รับปัญหา รับข้อสงสัยจากทุก อปท. ซึ่งจำนวนบุคลากรก็น้อย ท้องถิ่นอำเภอก็ยังไม่มีในโครงสร้าง จึงต้องแบ่งคนจากท้องถิ่นจังหวัดไปช่วยงาน ซึ่งทางกรมฯก็พยายามจะขอความเห็นใจจาก กพร. และ กพ.ให้อนุมัติคำขอปรับปรุงโครงสร้างให้มีท้องถิ่นอำเภอเป็นภูมิภาคให้อยู่ งานที่หนักเช่นนี้ ท้องถิ่นจังหวัดทุกคนจึงจำเป็นต้องมีความรอบรู้ ความเข้าใจในงาน เพื่อถ่ายทอดสื่อสารไปให้ถึงผู้ปฏิบัติให้ได้

Advertisement

“ดังนั้น นอกจากต้องรอบรู้ในระเบียบกฎหมาย ข้อสั่งการแล้ว การทำงานของท้องถิ่นจังหวัด และท้องถิ่นอำเภอ ต้องมีความเป็นระบบ โดยคำนึงถึงวงรอบของห้วงเวลาวันสำคัญของชาติ วันสำคัญของโลก เพื่อวางแผนการทำงานล่วงหน้าให้เกิดสิ่งที่ดีแก่ท้องถิ่น โดยอาศัยวันสำคัญเป็นสื่อกลางสร้างงาน ไม่ใช่รอเวลาใกล้แล้วจึงดำเนินการ ซึ่งวัฏจักรของวงรอบงาน ที่ทุกท่านทราบอยู่แล้วว่า แต่ละห้วงเวลาจะเกิดอะไรขึ้น จึงควรซักซ้อมดำเนินการล่วงหน้าตามแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า โดยไม่ต้องรอให้เกิดขึ้นก่อน เช่น ช่วงเปิดเทอมก็จะมีเรื่องอาหารกลางวัน มีการสุ่มตรวจ มีการเยี่ยมดูแล ก็ต้องทำตั้งแต่ต้น ไม่ใช่รอให้มีปัญหาก่อน ถึงดำเนินการทำตามมาตรการที่วางไว้ ซึ่งอาจจะไม่ทันการ หรือเกิดความเสียหายไปแล้ว

“แต่ทั้งหมดนั้นต้องเกิดจากใจ เกิดจากแพชชั่นที่อยากทำดี นักวิชาการถึงบอกว่า ทัศนคติที่ดีในการทำงานมีความสำคัญเป็นลำดับแรก เพราะเมื่อเราทุกคนมีทัศนคติที่ดี มีความต้องการทำสิ่งๆ ดีให้เกิดขึ้น ศึกษาทำความเข้าใจเนื้องานแล้ววางแผนดำเนินการล่วงหน้าแล้ว ที่สำคัญที่สุดคือ ทุกท่านต้องเป็นผู้ที่สามารถประสานได้ทุกฝ่าย หรือที่คุ้นเคยกันว่าผู้ประสาน 10 ทิศ การทำงานถึงจะสำเร็จ งานถึงจะได้ผลดี เพราะไม่ใครในโลกนี้สามารถทำงานให้สำเร็จได้เพียงคนเดียว การมีทีมงาน หรือหลักการประชารัฐ จึงเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อพัฒนาท้องถิ่น เพื่อให้เกิดความผาสุกแก่ประชาชนในพื้นที่ แก้ไขปัญหาเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง และกรมฯก็มีความเชื่อมั่นว่าพวกเราจะได้ประสบการณ์ ทักษะ แนวคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อดูแลทุกข์สุขของประชาชนได้อย่างดีเยี่ยมต่อไปแน่นอน” อธิบดี สถ.กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image