“เสรีพิศุทธ์” เสียดาย เสียน้องไปอีกคน หลัง “บิ๊กตู่” ประกาศตัดขาด ยัน ไม่ได้ยั่วให้โมโห
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงระหว่างที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายบรรยากาศในที่ประชุมกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ส.ส.พลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นประท้วงหลายครั้ง โดยเฉพาะ ในประเด็นที่กล่าวหาว่า โกงเลือกตั้งมาเป็นรัฐบาล ทำให้ นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงขอให้ถอนหลายครั้ง แต่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันไม่ถอนคำพูด ทำให้มีการประท้วงไปมาระหว่าง ส.ส.ซีกรัฐบาล รวมไปถึง ส.ว. กับ ส.ส.ฝ่ายค้าน และขอให้นายพรเพชร วินิจฉัย แต่นายพรเพชร ระบุว่า เรื่องนี้เป็นข้อกล่าวหา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ถอนก็บึนทึกเอาไว้ ซึ่งหากพูดไม่จริงต้องรับผิดชอบเอง ทำให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ลุกขึ้นอภิปรายประเด็นนี้อีก แต่ถ้าเป็นตนจะไม่ด้านอยู่ต่อ
ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นอภิปราย “โดยไม่ขออนุญาตประธานด้วยอารมณ์ฉุนเชียวว่า เรารู้จักกันมานาน ท่านเป็นรุ่นพี่ผม แต่งงานวันเดียวกัน แต่วันนี้ไม่ถือว่าเป็นรุ่นพี่อีกแล้ว เพราะท่านไม่เกียรติผม เคยพูดว่า จะชักปืนยิงผม ถ้ายิงจริง ท่านก็ติดคุกไปแล้ว ท่านพูดจาหยบคาย เหรียญรามาผมก็ได้ แต่ไม่เคยอวดอ้างอำนาจ ให้ไปทบทวนตัวเอง” ก่อนที่จะทิ้งเอกสารลงบนโต๊ะ และเดินออกจากห้องประชุมทันทีไปด้านหลังห้องประชุมด้วยสีหน้าโมโห โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีบางส่วน เดินตามไปทันที ท่ามกลางเสียงฮือฮาจากสมาชิก ทำให้นายพรเพชร พยายามตัดบทโดยใช้ค้อนทุบแล้วยื่นขึ้นเพื่อควบคุมการประชุม และสั่งพักการประชุม 10 นาที
เมื่อเวลา 21.20 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังถูกประธานสั่งให้ออกนอกห้องประชุมว่า ที่พูดในที่ประชุม เพราะได้ยินชาวบ้านพูดมา ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดพี่ตัดน้องนั้น ตนเสียใจที่เสียน้องไปคนหนึ่ง ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ดีที่แซวเรื่องนาฬิกาก็ไม่โกรธ ที่เตือนไปเพราะหวังดี เกรงว่าพอนักข่าวไปถ่ายภาพจะเป็นเรือนที่ยืมเพื่อนมา และระหว่างการประชุมพูดคุยอะไรกันไม่มีการพูดคุยอะไรกัน เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ คุยไม่รู้เรื่องคุยไม่รู้เรื่อง เขาเคยตัวเสียแล้ว และหลังจากนี้ไม่ต้องเคลียร์ใจอะไรกัน หากเจอกันข้างนอก ถ้าเขายกมือไหว้ตน ตนก็คุยด้วย เราเป็นรุ่นพี่ แก่กว่า ตนคงไม่ยกมือไหว้เขาก่อนอย่างแน่นอน คนไทยถือเรื่องวัยวุฒิเป็นสำคัญ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า การทำหน้าที่ของนายพรเพชร วิชิตชลชัย ไม่วางตัวเป็นกลางเลย พวกเราก็รู้ว่าประธานมาจากไหน เขาก็เลือกให้มาเป็นประธาน สนช.และเป็นประธานวุฒิสภา ก็ไม่เป็นกลางมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ที่พูดในที่ประชุมไม่ได้คิดยั่ว พล.อ.ประยุทธ์ เพียงพูดถึงคุณสมบัติและความสามารถเท่านั้น ทั้งนี้เชื่อว่าหากประธานในที่ประชุมเป็นนายชวน หลีกภัย สถานการณ์คงจะเบากว่านี้
