“ยุทธพงศ์”บี้เละ “บิ๊กตู่-มท.1” ตอบปราบโกง ส.ว.-ส.ส. ซัดกันนัว “ส.ส.ขี้ข้าโจร-เลียบูธทหาร”

“ยุทธพงศ์” บี้ “บิ๊กตู่-มท.1” ตอบนโยบายปราบโกง ยกปมปภ.ซื้อรถดับเพลิง-ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ส่อน่าสงสัย จี้ให้แจงแหล่งที่มางบประมาณ ด้านส.ส.เพื่อไทย-ส.ว. ซัดนัว “ส.ส.ขี้ข้าโจร-เลียรองเท้าทหาร”

เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 26 กรกฎาคม ที่หอประชุมใหญ่ทีโอที ถ.แจ้งวัฒนะ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย(พท.) ได้อภิปรายนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของรัฐบาล โดยยกตัวอย่างการจัดซื้อรถดับเพลิงของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)กระทรวงมหาดไทย ที่มีการกู้เงินมาซื้อรถดับเพลิง ปี 2562 ประมาณ 7,746 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 72 โดยที่ผ่านมาก็มีการซื้อมาทุกปีแต่ไม่เคยนำมาใช้ ซื้อมาจอดไว้เป็นพิพิธภัณฑ์มีมูลค่า 100 กว่าล้านบาท หากไม่เชื่อให้ไปดูได้ที่ศูนย์ปภ.เขต และเป็นการซื้อมาจากบริษัทเพียงบริษัทเดียว ซึ่งเรื่องนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ได้ชี้มูลและมีการดำเนินคดีแล้ว ถ้าไม่จริงตนท้าให้ฟ้องเลย เพราะเป็นเรื่องที่น่าสงสัยว่ามีการล็อกสเปกเกิดขึ้นหรือไม่ จึงขอฝากถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าได้ไปตรวจสอบหรือยัง และฝากถึงนายกรัฐมนตรี ต้องจัดการพวกที่ฮั้วประมูลด้วย

นายยุทธพงศ์กล่าวว่า นอกจากนั้น ยังมีเรื่องการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 จ.ชลบุรี ซึ่งมีการแข่งขันระหว่างบริษัทที่ทำเรื่องพลังงาน และไม่เกี่ยวกับเรื่องท่าเรือ ได้เสนอประมูล 12,000 ล้านบาท แต่กลับตีตกเอกสารของอีกบริษัทที่เสนอ 2.6 หมื่นล้านบาท แล้วใครจะเชื่อถือในนโยบายที่เขียน สิ่งที่ตนพูดว่ากู้มาโกง ไม่ได้พูดลอยๆ แต่มีข้อมูลตามที่ระบุ และรู้สึกโกรธแทนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสากรรม ที่ถูกกั๊กจากกลุ่มดังกล่าว จนนายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ต้องไปขอให้นายสุริยะได้เป็นรัฐมนตรี ดังนั้น นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)ขอให้ตรวจสอบด้วย รวมทั้งการกู้เงินมาใช้จ่ายซึ่งปีนี้กู้มา 2 ล้านล้านบาท หากบริหารอีก 4 ปี คงจะไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านบาท รวมกันถึง 5 ล้านล้านบาท ขอให้ชี้แจงให้ชัดเจนด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างอภิปราย นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพปชร.ได้ลุกขึ้นประท้วงตามข้อบังคับข้อที่ 43 ว่าไม่ได้อภิปรายในประเด็น เพราะเรื่องรถดับเพลิงไม่ได้เกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล ทำให้นายยุทธพงศ์ลุกขึ้นสวนว่าจะประท้วงอะไร เพราะไม่ได้เอ่ยถึงกลุ่มสามมิตร แล้วจะกลัวอะไร ในเมื่อนายกฯนั่งอยู่ตรงนี้ด้วย จากนั้นนายสิระ ได้ประท้วงให้ตรวจสอบเอกสารที่นำมาแสดงในสภาฯเกี่ยวกับเรื่องการประมูลท่าเรือแหลมฉบังว่าได้รับอนุญาตหรือยัง ในระหว่างนี้ ส.ส.พรรคพปชร.ได้ลุกขึ้นประท้วงนายยุทธพงศ์ ที่พูดส่อเสียด กล่าวหา ไม่อยู่ในข้อบังคับ จนเกิดการโต้เถียงชุลมุน จนส.ส.พรรคพท.และพรรคพปชร. สลับกันลุกขึ้นประท้วงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ซึ่งทำหน้าที่ประธานรัฐสภา ขอให้ควบคุมการอภิปรายให้อยู่ในประเด็น พร้อมถอนคำพูดเสียดสีกล่าวหา ขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวประท้วงด้วยว่า ประธานต้องทำหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งในการควบคุมการประชุมเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับ เนื่องจากนายยุทธพงศ์อภิปรายในเรื่องการทำงานของรัฐบาลในอดีต ซึ่งพรรคภท.ไม่ได้ร่วมรัฐบาลด้วย

Advertisement

ขณะที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งนั่งฟังอยู่ได้ลุกขึ้นกล่าวต่อประธานฯว่า “เดี๋ยวผมขอไปพบประธานไอเคโอก่อน เดี๋ยวกลับมา” พร้อมกับเดินออกนอกห้องประชุมทันที ด้านนายยุทธพงศ์ กล่าวว่า พอพูดเรื่องปราบโกง นายกฯเลยทนฟังไม่ได้ หนีออกจากห้องประชุม จนเกิดประท้วงอีก ทำให้นายยุทธพงศ์ ยอมถอนคำพูดว่านายกฯหนีการประชุม แต่ขอให้นายกฯตอบคำถามของตนภายใน 3 วัน ว่าจะเอาเงินจากไหนมาทำนโยบาย และจะปราบทุจริตอย่างไร พร้อมกับขอถอนคำพูดที่พูดถึงส.ส.ที่ลุกขึ้นมาประท้วงปกป้องนายกฯรัฐมนตรี ในทำนองตัวประกอบ 10 บาท

ด้านนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า หากนายยุทธพงศ์ไม่ถอนคำพูดที่เสียดสี ตนก็พูดได้ว่าท่านเป็นส.ส.ขี้ข้าโจร ซึ่งนายยุทธพงศ์ สวนกลับทันทีว่า ไม่เหมือนคนเลียรองเท้าทหารเข้ามา

ด้านนายอนุชา กล่าวว่า ขอชี้แจงที่ถูกพาดพิงว่าเมื่อก่อนเคยอยู่กลุ่มสามมิตรจริง และเคยพูดจริงว่าไม่เป็นรัฐมนตรีก็ได้แต่ขอให้นายสุริยะได้ทำหน้าที่เพราะตนเป็นลูกผู้ชายพอ ทั้งตน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เคยอยู่พรรคการเมืองหนึ่ง แต่มียุคหนึ่งที่ต้องออกมาเพราะไม่สามารถทำการเมืองได้ จากนั้น นายพรเพชรได้ให้นายกิตติศักดิ์ถอนคำพูดส.ส.ขี้ข้าโจร แต่ปรากฏว่านายกิตติศักดิ์ไม่ยอมถอน ส่วนนายยุทธพงศ์ ยอมถอนคำพูดเลียรองเท้าทหาร เพื่อให้ดำเนินการอภิปรายต่อไปได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image