ไม่ว่าชะตากรรม “มาตรา 61 วรรคสอง” ร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559
จะดำเนินไปอย่างไร ขัด หรือไม่ขัดต่อ”รัฐธรรมนูญ”
แต่กระบวนการ “ประชามติ” ก็ยังจะเดินไปยังวันที่ 7 สิงหาคม อย่างแน่วแน่ มั่นคง ทำไม
เพราะว่า “ท่าที” ของแต่ละคนล้วนปรากฏอย่างเด่นชัด ณ เบื้องหน้า “ประชาชน”
ประชาชน 50.5 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นของภาคอีสาน 17 ล้านคน ภาคกลาง 12.9 ล้านคน (รวมกทม. 4.4 ล้านคน)
ภาคเหนือ 9.2 ล้านคน ภาคใต้ 6.8 ล้านคน
ไม่ว่าท่าที นายมีชัย ฤชุพันธุ์
ไม่ว่าท่าที น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ว่าท่าที นายจาตุรนต์ ฉายแสง
ล้วนแล้วแต่มี “โลโก้”
ท่าทีของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ แจ่มชัดอย่างยิ่งว่าเป็นท่าที “รับ” ร่างธรรมนูญ
ท่าที น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แจ่มชัด ท่าที นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล นายวัฒนา เมืองสุข แจ่มชัด
เป็นไปตาม “แถลงการณ์” ของ “พรรคเพื่อไทย”
ไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะปรากฏตัว ณ ที่ใด ไม่ว่า นายจาตุรนต์ ฉายแสง จะปรากฏตัว ณ ที่ใด
ล้วนติดไว้ด้วยโลโก้ “ไม่รับ” ร่างรัฐธรรมนูญ
ยิ่งเสียงจาก นายจตุพร พรหมพันธุ์ ยิ่งเสียงจาก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ยิ่งแจ่มชัด ไม่อ้อมค้อม
“ไม่รับ” ร่างรัฐธรรมนูญ
ไม่ว่าคนที่เคยเลือก “พรรคเพื่อไทย” เมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 จะคิดอย่างไร
แต่บนใบหน้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บ่งบอก
เมื่อเดินทางไปยัง “กาฬสินธุ์” เมื่อเดินทางไป “บึงกาฬ” เมื่อปิ๊กบ้านที่ “เชียงใหม่”
ภายใน “รอยยิ้ม” นั้นก็คือ “ไม่รับ”
ไม่ว่ากระบวนการ “วินิจฉัย” มาตรา 62 วรรคสอง ของพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559
จะออกมาอย่างไร
“ขัด” หรือ “ไม่ขัด”
ทิศทางของ”ร่างรัฐธรรมนูญ”ที่ยืนยันเมื่อเดือนมีนาคม ทิศทางของพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559
เมื่อเดือนเมษายน
ก็จะต้อง”เดินหน้า”สถานเดียว
ผู้มีสิทธิออกเสียง 50.5 ล้านคนทั่วประเทศรออยู่ ณ คูหาการลงประชามติเรียบร้อยแล้ว
ลง”ประชามติ”สถานเดียว
“รับ” หรือ”ไม่รับ” ไม่มีหนทางสายอื่น
