09.00 INDEX กระบวนท่า กลยุทธ์ อะแซหวุ่นกี้ กระหน่ำ ดาวรุ่ง พิธา อนาคตใหม่

ท่วงทำนองการอภิปรายจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่เอ่ยปากชมเนื้อหาการอภิปรายของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในประเด็นกระดุม 5 เม็ดทางเศรษฐกิจการเกษตร

ได้กลายเป็น “ขีปนาวุธ” อันคมแหลมทะลวงลงไปอย่างลึกซึ้งในทางการเมือง

เมื่อประสานกับท่วงทำนองสุภาพ นุ่มนวล แบบสุภาพบุรุษชายชาติทหารแห่ง จปร.ของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ยิ่งทำให้ส่งพลานุภาพอย่างรุนแรง

ไม่เพียงแต่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จะได้รับคำชมที่สำแดงความใจกว้าง หากภายในคำชมเชยนั้นได้ชูให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กลายเป็นเป้าในทางการเมือง

Advertisement

จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน

ไม่ว่าการพูดของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จะมีเป้าหมายอย่างไร เป็นการชมเชยอย่างจริงใจ หรือว่าดำเนินไปในท่วงทำนองแบบ “อะแซหวุ่นกี้”

นั่นก็คือ เล่นบท “หลวงมุ่งกระแทกกลาง”

Advertisement

แต่เมื่อมี ส.ส.และ ส.ว.นำไปขยายผลด้วยการชม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในแบบตามน้ำ ขณะเดียวกัน ก็นำเอาไปเปรียบเทียบกับการอภิปรายของคนอื่นในพรรคอนาคตใหม่และพรรคเพื่อไทย

เท่ากับฉายชัดว่า “ขีปนาวุธ” อันปล่อยออกมาจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้แสดงบทบาทในการ “เสี้ยม” อย่างเต็มพิกัด

แม้จะมิได้มีการออกชื่อแต่เท่ากับเป็นการนำเอา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไปเปรียบเทียบและโจมตี น.ส.พรรณิการ์ วานิช โดยอัตโนมัติ

ยิ่งกว่านั้น ยังก่อให้เกิดความขุ่นมัวระหว่าง “ติ่ง” พรรคเพื่อไทยกับพรรคอนาคตใหม่

กลายเป็นประเด็น กลายเป็นปัญหาเขม่นในทางการเมืองขึ้น

กระบวนท่าในแบบ “แผนลึกอะแซหวุ่นกี้” เช่นที่เกิดขึ้นในกรณีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จึงดำเนินไปในแบบ “กระสุนที่เคลือบน้ำตาล”

ภายนอกเป็น “น้ำตาล” หวานเอมโอช แต่เมื่อหมดจากน้ำตาลก็กลายเป็น “กระสุน”

กระสุนแบบนี้จะซึมลึกและค่อยๆ ทำลาย แต่ก็มีความร้ายแรงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากระสุนจริง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image