เหมือนกับคำพูดของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ที่อ้างคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อตอนยึดอำนาจในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จะอยู่ในประเด็นที่ว่า
“ผมเตรียมการเรื่องนี้มา 3 ปีกว่าแล้ว”
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ต้องการจะโยงให้เห็นมากยิ่งไปกว่านั้น
นั่นก็คือ ยิ่งไปกว่าเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
นั่นก็คือ ต้องการให้มีการพิสูจน์ทราบในทางเป็นจริงว่า การเตรียมการกว่า 3 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในทางเป็นจริงคืออะไร
จะเป็นมากยิ่งกว่าการฝึกกำลังพลอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอบหรือไม่
ในทางการข่าวมีความจำเป็นต้องให้ความสนใจการเคลื่อนไหว 2 ส่วนประสานเข้าด้วยกัน
ส่วนหนึ่ง คือการเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ขณะเดียวกัน ส่วนหนึ่ง คือการเคลื่อนไหวของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
หากย้อนกลับไปอ่านไทยรัฐฉบับวันที่ 7 สิงหาคม 2554
จะสัมผัสได้ถึงเหตุผลในการปฏิเสธตำแหน่งเลขาธิการพรรคและไม่รับตำแหน่งกรรมการบริหาร
“ผมอยากจะไปบอกกับประชาชนคนไทยทั้งหลายว่าในขณะนี้ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างพรรคการเมืองกับพรรคการเมืองแล้ว มันเป็นเรื่องของลัทธิบางลัทธิที่ต้องการจะครอบงำประเทศไทย”
ขณะเดียวกัน รายงานของสยามรัฐวันที่ 3 สิงหาคม 2554 ก็เสนอคำปราศรัยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ณ กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์
ภายใต้หัวข้อเรื่อง “ประยุทธ์” ปลุกใจ “บูรพาพยัคฆ์ เตือนทหารอย่าฆ่ากันเอง ย้ำสถาบันต้องอยู่ตลอดกาล”
ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ปรากฏพร้อมกันในเดือนสิงหาคม หลังการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554
นั่นคือ 3 ปีก่อนรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
เพียงแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เน้นในเรื่องกำลังพล ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เน้นในเรื่องมวลชน
นี่ย่อมไม่เกี่ยวกับ “รัฐประหาร” โดยตรง
