“เสี่ยลาว”ทิ้งเพื่อไทย ซบ พปชร. เผยมีคดีค้างใน ป.ป.ช. ยัน ไม่เป็นเงื่อนไขต่อรอง
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม เวลา 14.30 น.ที่พรรคพลังประชารัฐ นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พรรคเพื่อไทย ได้เดินมาทางสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ในฐานะ ประธาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เป็นตัวแทนพรรคในการต้อนรับ พร้อมมอบเสื้อแจ๊กเก็ตพรรคให้ใส่ทันที
โดยนายพรศักดิ์กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐนั้น ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น ยืนยันว่าไม่ได้ถูกบังคับหรือมีการต่อรองและไม่เคยมีคดีอาญาอะไร ตามที่มีข้อสังเกต เพราะถ้ามีการต่อรองจริง ตนคงมาก่อนการเลือกตั้งแล้ว แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ ได้มีคนจากพรรคการเมืองอื่นๆ มาทาบทามให้ไปร่วมงานด้วย
สำหรับคดีที่มีเรื่องเดียวคือในการร่วมประชุม ครม. แล้วรับทราบมติ ครม.กรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนสี ที่ขณะนี้เรื่องยังอยู่ในชั้นสอบสวนของอนุ ป.ป.ช. ยืนยันว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีรับจำนำข้าวใดๆ ตามที่มีกระแสข่าวออกมา ที่ตนตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐเพราะการชักชวนของนายสุชาติ ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2554-2557 รู้จัก รู้ใจกันมาเคยทำงานร่วมกันในการทำหน้าที่กรรมาธิการงบประมาณ ตนต้องการทำงานช่วยเหลือชาวศรีสะเกษที่ยังสามารถพัฒนาได้ อาทิ แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่ต้องส่งเสริม เป็นต้น
เมื่อถามว่า ก่อนย้ายมาได้มีการพูดคุยกับแกนนำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายพรศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีใครรู้มาก่อน เพิ่งจะรู้กัน 2 วัน ก่อนที่ตนจะมาซึ่งก็ได้พูดคุยกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ก็ไม่มีปัญหาอะไรและไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพรรคเพื่อไทย เพราะที่ผ่านมาตนให้ความเคารพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับความเมตตามาตั้งแต่สมัยอยู่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้เมื่อได้พูดคุยกับคุณหญิงสุดารัตน์แล้วก็คงจะไปถึงท่าน
“ที่กลัวที่สุดคือการมาพรรคพลังประชารัฐในครั้งนี้จะถูกมองว่าเพราะมีคดีหรือมาต่อรองใดๆ หรือมีค่าตัว เพราะถ้ามาก็ต้องมานานแล้ว แต่ก็ทำงานให้พรรคเพื่อไทยอยู่ เมื่อเห็นว่าการเมืองจบแล้วจึงตัดสินใจมาช่วยงานไม่ถึง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา” นายพรศักดิ์กล่าว
ด้านนายสุชาติกล่าวว่า สาเหตุที่ตนชักชวนเพราะต้องการให้มีตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐในทุกภาค ยังไม่ได้มองไปถึงการทำงานฐานเสียงในพื้นที่ภาคอีสาน แต่เห็นว่านายพรศักดิ์มีความรู้ ความสามารถ ในการทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดให้แก่ประชาชน ส่วนจะมีการชักชวนใครอีกหรือไม่ก็ต้องดูเป็นรายกรณีไป อย่างที่บอกว่านักการเมืองอยู่ตรงไหนก็ทำงานได้ และเราก็ยังไม่ได้วางแผนว่าจะไปทาบทามใครต่อไป ส่วนจะมองถึงการปักธงยก จ.ศรีสะเกษ หรือไม่ เป็นเรื่องอนาคต เราต้องทำพื้นที่ การจะชวนใครก็ต้องดูเป็นรายจังหวัด เพราะตนมีพี่มีน้องและมีเพื่อนอยู่ทุกพรรค ไม่ได้แบ่งแยกว่าใครอยู่พรรคไหน และยืนยันว่าการชักชวนนายพรศักดิ์ เข้าพรรคไม่ได้มีการต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น
