ในเมื่อกรณี”ถวายสัตย์ปฏิญาณตน”เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมของคณะรัฐมนตรีที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัวของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมายอมรับว่า
“ผมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”
อันเท่ากับเป็น “การสารภาพ” ต่อสาธารณะด้วยความองอาจ ห้าวหาญในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นนายกรัฐมนตรีที่มี พื้นฐานมาจากชายชาติทหาร
ทั้งที่เป็นชายชาติทหารอันผ่านการฝึกอบรมมาด้วยระบบ เกียรติศักดิ์ หรือ HONOR SYSTEM คำถามที่ตามมาก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรับผิดชอบอย่างไร
1 รับผิดชอบในทางกฎหมายตามหลักนิติธรรม 1 รับผิดชอบในทางการเมืองตามหลักจริยธรรม
ตามหลักนิติธรรมอาจต้องรอการพิจารณา 1 ผู้ตรวจการแผ่นดินและสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร
แต่ไม่ว่าจะออกมาอย่างไร 1 มีหนทางเดียวเท่านั้น
นั่นก็คือ ไม่ว่าผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่ว่าสำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ
กระนั้น ผลสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ
การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและครม.เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมนั้นมีความแจ่มชัดเข้าลักษณะอันเรียกได้ว่าเป็นความผิดสำเร็จ
1 จากคำสารภาพยอมรับผิดโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยตัวเอง
1 จากคลิปข่าว “ในราชสำนัก”
ความจริง กรณีนี้ตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เองก็รู้ตั้งแต่เมื่อกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม และก็มีการทักท้วงในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม
เหตุใดจึงยังปล่อยให้ยืดเยื้อคาราคาซังกระทั่งมาถึงวันนี้อีก
หากพิจารณาพยานหลักฐาน หากพิจารณาจากที่รับรู้ในสังคมจึงแทบไม่ต้องมีคำวินิจฉัยอะไรอีกเพิ่มเติม เพียงแต่จะหาทางออกเช่นใดจึงจะเหมาะสมและถูกต้อง
1 รับผิดชอบทางนิติธรรม 1 รับผิดชอบทางจริยธรรม
ในเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนยันว่า “ผมจะขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”
สังคมจึงอยากรู้ว่าจะ “รับผิดชอบ” อย่างไร