เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่รัฐสภา เกียกกาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธาน โดยก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นหารือต่อที่ประชุมกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม ไม่เข้าร่วมประชุมสภาฯ เพื่อตอบกระทู้ถามสดของส.ส.ฝ่ายค้านว่า พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่ไม่มาตอบ เพราะเข้าสู่การตรวจสอบผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว แต่ตนกังวลว่า หากรอจะไม่ทันการณ์ กว่าจะส่งไปถึงศาลพิจารณาต้องใช้เวลานาน ซึ่งอาจจะกระทบต่อการดำเนินการของการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะที่ผ่านมาเป็นที่น่าสังเกตุว่า การประชุมครม.ไม่มีมติเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจเลย อาจจะมีผลต่อเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของประเทศก็ลดลง จึงอยากขอความชัดเจน หากท่านไม่มาตอบ 3 ครั้งให้ทำหนังสือชี้แจงว่า เพราะอะไร อย่างไรก็ตาม ตนขอเสนอให้สามารถยื่นกระทู้สดล่วงหน้าได้ 1 วันก่อนการประชุมเพื่อกำหนดหมายงานล่วงหน้าให้รัฐมนตรีมาร่วมประชุมด้วย
นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ตนมีความพยายามที่จะตั้งกระทู้สดเรื่องดังกล่าวถึง 2 ครั้งแล้ว ซึ่งในข้อบังคับการประชุม กำหนดว่า นายกฯหรือรัฐมนตรีที่ถูกต้องกระทู้ถาม ต้องมาตอบ เว้นแต่ เว้นแต่มีเหตุจำเป็น ต้องแจ้งเป็นหนังสือต่อประชุมสภา ระบุว่า จะมาตอบได้เมื่อไร นายกฯอาจติดภารกิจจริง แต้ต้องแจ้งเหตุผลให้ประธาานแจ้งส.ส.ทราบด้วย แล้วต้องกำหนดว่าจะมาตอบเมื่อไร การตั้งข้อหารือเรื่องนี้ อยากให้ครม.ถวายสัตย์ฯโดยสมบูรณ์ ตอบมาว่าครบหรือไม่ ถ้าตอบว่าไม่ครบ จะได้ช่วยกันหาทางออก เริ่มต้นกระบวนการใหม่ หากคิดล้มนายกฯ คงเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว
ด้าน นายศุภชัย ชี้แจงว่า ในฐานะผู้รับผิดชอบงานด้านกระทู้ถามสด ตนไม่อยากให้ สมาชิกสรุปว่า นายกฯ หนีสภา หรือ เลี่ยงการตอบกระทู้ เพราะเข้าใจว่านายกฯ มีภารกิจมาก หรือบางกรณีมีภารกิจที่กำหนดงานไว้ล่วงหน้า ซึ่งตนไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด ทั้งนี้เชื่อว่าโอกาสต่อไปนายกฯ จะมาตอบ หรือมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาตอบต่อไป ส่วนข้อเสนอของนายจิรายุนั้น สามารถนำไปกำหนดไว้ในร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาวาระสองเพื่อให้ประธานได้ปฏิบัติ เนื่องจากประธานไม่สามารถทำสิ่งที่ขัดกับข้อบังคับการประชุมได้
