เปิดใจ! ‘เต้ มงคลกิตติ์’ ลั่นฝ่ายค้านอิสระ อยู่ข้างปชช. เปรียบตัวเป็น ‘จ๊กก๊ก’ ของ ‘เล่าปี่’

จากกรณีที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์หรือเต้หัวหน้าพรรคไทยศิริไลย์  ประกาศลาออกอย่างเป็นทางการจากพรรคร่วมรัฐบาล ขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านอิสระ จนเกิดการตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น เต้ มงคลกิตต์ ทำเกินธงไปหรือเปล่า หรือเป็นเพราะไม่ได้ตำแหน่งทางการเมือง ถูกลอยแพหรือเปล่า

ล่าสุดรายการโหนกระแสวันที่ 15 ส.ค โดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอยในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัดออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.45 – 14.25 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ เต้ มงคลกิตต์ ถึงทุกเรื่องที่เกิดขึ้น

คุณออกมาเป็นฝ่ายค้านอิสระ อึดอัดยังไง?

“ผมมองว่าผมออกมาเป็นฝ่ายค้านอิสระ ไม่ได้อยู่รัฐบาลหรือฝ่ายค้านนะ ผมมองว่ามีอิสระในความคิดในการตัดสินใจ เรารับเรื่องร้องเรียนมาหลายเรื่อง แต่กระทบรัฐบาลบ้าง กระทบคดีเก่าฝ่ายค้านบ้าง เพราะฉะนั้นถ้าเราไปอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เราต้องทำตามมติพรรค มติวิป ซึ่งมันจะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 124 ซึ่งผู้แทนราษฎรมีเสรีภาพในการตัดสสินใจ แสดงความคิดเห็น การพูดในสภา ปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวม ใครมาระงับยับยั้งความคิดพวกนี้หรือใช้วิธีอย่างใดอย่างหนึ่งของสมาชิการัฐสภา มีความผิดถึงขั้นถอดถอนนะ”

Advertisement

 

ตอนนี้หลายคนหลายมุมมอง บอกว่าคุณเหมือนนิ้วกลาง ไปทางซ้ายก็ไม่ได้ ไปขวาก็ไม่ได้ รัฐบาลก็ไม่เอา ฝ่ายค้านก็ไม่เอา คุณเลยต้องออกมาเป็นอิสระ?

“มุมผม ผมเป็นตัวเอง อีกอย่างประชาชนเลือกผมมา 6 หมื่นกว่าคะแนนเสียง นโยบายเราคือปราบโกง ถ้าเราไปอยู่ฝ่ายรัฐบาล แล้วตรวจสอบทุจริตอะไรมากเกินไป เพื่อนๆ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลก็จะตำหนิเอา ผมก็มองเขาเป็นเพื่อน เขาก็คงกลัวผมนั่นแหละ สมมติอยู่ฝายเดียวกันก็อย่าตรวจสอบกัน”

Advertisement

 

แต่ดอกแรกคุณเล่นเรื่องการบินไทยก่อนเลย?

“ก็ใช่ อันนั้นเป็นโควต้า ท่านชวนให้ผมมาเองนะ เรื่องกระทู้สด เพราะฝ่ายรัฐบาลเขาไม่ได้ให้ผม”

 

ทำไมต้องใส่กันขนาดนั้น?

“ต้องถามว่าสิ่งที่ผมพูดผลประโยชน์ผมหรือพี่น้องประชาชน แล้วผมเป็นใคร ผมเป็นผู้แทนราษฎร คือผู้แทนปวงชนชาวไทย มีหน้าที่รักษาผลประโยชน์ ในเมื่อเราไม่ได้อยู่ฝ่ายบริหาร เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้เต็มความสามารถ”

 

วันแรกเลย คุณไปยกมือให้ฝั่งรัฐบาลทำไม?

“ถ้าผมไม่ยกมือ แล้วคสช.จะอยุ่ต่อมั้ย อยู่ต่อนะ ถ้าผมกับเพื่อนๆ อีกสิบพรรคเป็นสิบเอ็ดพรรค ถ้าไปไปซ้ายก็เปิดสวิตซ์ ไปขวาก็ไปไม่ได้ เพราะไม่มีสว.มาด้วย พอเปิดสวิตช์ปุ๊บ แถลงนโยบาย ถวายสัตย์ครบถ้วนเรียบร้อย คสช.หมดภารกิจ ก็ส่งต่อทหารกลับ เข้ากรมกอง ยุ่งเกี่ยวได้บ้างเล็กน้อย รายการนายกพบประชาชนก็ไม่มีแล้ว อย่างน้อยมีการตรวจสอบถ่วงดุล สมัย 5 ปีที่ผ่านมา นายกฯ ต้องมาตอบคำถามในสภาหรือเปล่า เพราะสภามีแต่สนช. เป็นทหารเหมือนกัน แต่ตอนนี้มีตัวแทนประชาชนเกือบ 500 คน เขาต้องมาตอบคำถาม นี่คือการเปิดพื้นที่ให้ประชาธิปไตยขับเคลื่อนไปได้”

 

ลักษณะที่ทำเหมือนเป็นแกะดำหรือเปล่า?

“ผมไม่ใช่แกะดำ ผมเป็นแกะขาว  แกะขาวในหมู่อะไร ก็ไม่ทราบ ผมตัวขาว ก็เป็นแกะขาว”

 

วันนี้เหมือนมีหลายคนบอกว่าคุณเองทำเกินธง คุณถูกผลักดันจาก 10 พรรคเล็กให้ออกมาเป็นเหมือนหน้าเสื่อ แล้วคุณทำเกินธง เลยทำให้รัฐบาลมองว่าคุณทำไม่ถูก เขาเลยเก็บพรรคเล็กได้ตำแหน่งกันไป แต่คุณลอยแพ อยู่กลางทะเล ทำยังไง?

“ผมไม่ได้อยู่กลางทะเล ผมอยู่บนอากาศ มองซ้ายมองขวาได้ ตอนนี้มีเสรีภาพ บินได้ คือการอยู่ฝ่ายรัฐบาล ทำอะไรไม่ได้ทุกอย่างนะ มีมติโน่นนี่ ทุกอย่างต้องเกรงใจกัน เพื่อนฝูงก็เยอะ ถ้าผมให้เพื่อนฝูงเยอะใครเสียประโยชน์ ถ้าผมอยากให้เพื่อนส.ส. รักผม รัฐมนตรีรักผม ครม.รักผม ก็ต้องทำตามใจเขา แล้วประชาชนเป็นไง พะงาบๆ”

 

คุณจะบอกว่าคุณทำทุกอย่างเพื่อประชาชน?

“อ้าว แล้วผมมาเป็นผู้แทนราษฎรทำไม ถ้าไม่ทำเพื่อประชาชน”

 

คุณกับกลุ่มสิบพรรค เขาดันคุณมาเป็นหน้าเสื่อหรือเปล่า ให้คุณเป็นทัพหน้า ?

“ผมเป็นนักรบ เมื่อรบเสร็จก็ต้องเดินหน้าต่อ พวกพี่ๆ เขาก็ไปจัดการขยับพื้นที่ได้ต่อ”

คุณมีการพูดคุยกันมั้ย?

“ยังอยู่ห้องประชุมเดียวกัน กินข้าวด้วยกัน ประชุมด้วยกัน”

 

นั่งห้องเดียวกัน กินข้าวด้วยกันแล้วแยกวงหรือเปล่า?

“ต่างความคิดแค่นั้นเอง ก็มีพี่ๆ ประมาณ 3-4 คนก็รักผมอยู่นะ แต่มีพี่ๆ บางคนเป็นนายทหารขู่ผมอยู่ทุกวัน ระวังตัวนะ ระวังความปลอดภัยนะ”

 

เขาขู่ทำไม?

“เขาบอกว่ารัฐบาลไม่แฮปปี้ ที่เป็นนายทหารอยู่ในกลุ่มสิบ”

 

คุณบอกเขายังไง?

“ผมบอกว่าผมผ่านสมรภูมิรบนี้มาประมาณ 20 กว่าปีแล้ว เรื่องความกลัวของผมสะกดไม่เป็น”

 

เขาตอบว่ายังไง?

“เขาอึ้ง ผมก็บอกว่าพี่มาอยู่กับผมดีกว่า อยู่กับเขาไป เดี๋ยวเขาก็หลอกอีกรอบนึง”

 

นิยามคำว่าฝ่ายค้านอิสระ?

“นี่คือการเติบโตของระบอบประชาธิปไตย ตอนนี้ความเจริญไม่ใช่มีแค่ฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล นี่คือความสวยงาม ที่เราจะมีฝ่ายค้านอิสระยืนข้างประชาชนในอนาคต ถ้ามีเพื่อนสมาชิกที่มีความคิดเห็นแบบผม บางเรื่องก็สนับสนุนรัฐบาล บางเรื่องไม่สนับสนุน ก็มาอยู่ตรงกลาง”

 

คุณคนเดียวการผลักดันกฎหมาย จะเข้าไปทำได้ยังไง?

ความชอบธรรม การผลักดันกฎหมายไม่ได้อาศัยเสียงส.ส.อย่างเดียว ต้องอาศัยความชอบธรรมด้วย ถ้าผมทำตามความชอบธรรมเขาต้องสนับสนุน ถ้าไม่สนับสนุนเขาก็ต้องถูกด่าเอา วันนี้เพื่อนสมาชิกเห็นผมแล้วก็อยากมาอยู่ด้วย มีประมาณ 4 ท่านก็อยากมาอยู่ด้วย พี่ดำรง แกก็ออกมาอยู่ตรงกลางแล้ว อาจไม่ได้อยู่กับผม แต่แนวคิดเหมือนกัน เขาขอเป็นฝ่ายค้านอิสระประจำรัฐสภา แนวคิดเหมือนกัน แต่ผมกรุยทางให้พี่ๆ มาก่อน ซึ่งถ้าเป็นฝ่ายค้านต้องทำตามมติวิป แต่ผมจะทำตามฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็ได้ แล้วแต่เรื่องๆ ไป”

 

ทำไมไม่เป็นฝ่ายรัฐบาลอิสระ?

“เพราะคอนเซ็ปต์นี้เราขอยืมมาจากน้องไอติม ชื่อนี้โอเคนะ ดูเท่ดี”

 

คุณก็อยู่ในรัฐบาล น่าจะเป็นรัฐบาลอิสระ?

“คอนเซ็ปต์นี้มันใช้ได้”

 

คุณเต้บอกว่าไม่ได้ทำเกินธง?

“มีเกินธงของเพื่อนผมหรือเกินธงของผม”

 

คุณบอกถ้าเพื่อนคุณให้เป็นทัพหน้าแล้วไปต่อสู้?

“ผมเป็นทัพหน้า พวกพี่ๆ เขาเป็นแม่ทัพหลังกับทหารกองเสบียง ผมก็ไปรบก่อน พอรบเสร็จ ยึดพื้นทีได้ปุ๊บ พี่ๆ ก็เข้าประจำพื้นที่ ผมก็ไปต่อคนเดียวก่อน แต่ถ้าพวกพี่เขารู้สึกว่าเราน่าจะรุกคืบแกก็ต้องตามผมมาต่อ”

 

เมื่อไหร่?

“ก็อยู่ที่จิตใจพวกพี่เขา ผมธนูขึ้นสายแล้วต้องยิง ไม่ว่ามีผลประโยชน์ตำแหน่งหน้าที่การงานมาล่อตาล่อใจ”

คุณบอกว่าพี่ให้ไปสู้สัก 50 แต่คุณสูู้ถึง 75?

“เพราะความคิดพี่ๆ กับผมแตกต่างกัน ผมก็มีอุดมการณ์พรรค อุดมการณ์ตัวเอง ต้องการเป้าหมาย ในการทำพรรคการเมืองเพื่ออะไร ผมเคยบอกพี่หนุ่มไปแล้วว่าผมต้องการสร้างประวัติศาสตร์การเมืองไทยว่าผมต้องการแข่งขันทำประโยชน์ให้พี่น้องประชาชน กับส.ส.ท่านอื่น ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอบ 2475 มา”

 

ผมเคยถามว่าคุณอยากนั่งตำแหน่งอะไร คุณบอกกระทรวงศึกษา?

“ศึกษาบ้าง คลังบ้าง”

 

เป็นเพราะคุณไม่ได้ไปนั่งตรงนั้นหรือเปล่า?

“แรกๆ ความรู้สึกก็อยากไปนั่ง แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ผมรู้สึกว่าถ้าผมรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยไป ผมก็คงทำอะไรไม่ได้มาก ผลงานที่จะทำไปข้างหน้าก็ต้องยาก เพราะต้องเกรงใจ ทั้งที่ตามโควต้าตามสิทธิ์ พรรคผมได้อยู่แล้ว แต่ถ้าได้ไปปุ๊บ อีกอย่างอนาคตมีการเลือกตั้งซ่อมตั้ง 40-50 เขต อาจจะยุบสภาก็ได้ ถ้าผมหวังผลประโยชน์เฉพาะหน้าผมก็ต้องเอาตำแหน่ง แต่ผมไม่ได้คิดแค่นี้ไง ผมคิดไกลกว่านั้น ผมคิดที่ยืนทางการเมืองของผม และความสามารถ อยากให้พรรคการเมืองผม ตัวผม มีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจนในการทำประโยชน์ในด้านนโยบายปราบคอรัปชั่น ปราบคอรัปชั่นไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายบริหารก็ได้นี่ ปกป้องผลประโยชน์ก็ทำผลงานให้พี่น้องประชาชนได้”

 

ทำไมไม่เข้าฝ่ายค้านไปเต็มๆ?

“ถ้าผมไปอยู่ฝ่ายค้านแล้วผมจะไล่บี้โครงการรับจำนำข้าวได้ไง ถูกมั้ย โครงการทุจริตสนามฟุตซอล ผมจะไล่บี้ยังไง”

 

คุณคนเดียวจะไปไล่บี้ยังไง?

“ก็ปัจจุบันคดีสนามฟุตซอลผมเป็นคนดำเนินการเมื่อ 5 ปีที่แล้วนะ ตรวจมา 30จังหวัดนะ”

 

คุณไหวเหรอ?

“ก็ทำมาแล้ว”

 

คุณคนเดียว หันซ้ายก็ชก หันขวาก็ชก ถ้าเขาชกพร้อมกันที่คุณ ทำยังไง?

“ผมว่าเขาไม่ได้มานั่งชกผมนะ เขาบอกว่าเฮ้ย ขอเคลียร์ดีกว่ามั้ย ผมก็บอกไปเคลียร์ ปปช. โน่น เพราะผมไม่ได้เป็นคนฆ่าคุณ ผมเป็นแค่บุรุษไปรษณีย์ ส่งเอกสารไปยังหน่วยงานตรวจสอบ”

 

ปัญหาเหมือนแรงน้อยหรือเปล่า?

“แต่ผมก็ทำสำเร็จมาทุกเรื่องนะในสิบกว่าปีที่ผ่านมา”

 

คุณมีโอกาสเห็นด้วยกับฝ่ายค้าน?

“เป็นบางเรื่อง รัฐบาลก็บางเรื่อง ถ้าเรื่องจัดซื้อเครื่องบินก็คงไม่ให้ ไม่ยอม ถ้าซื้อ 38ลำ บอกว่าเราขาดทุนไปครึ่งปี 7 เดือน อีกพันล้านแล้วจะรับประกันได้ยังไงว่าจะไม่ขาดทุนเพิ่มเติม อย่าลืมว่าเป็นหนี้สาธารณะเพิ่มนะ”

 

ฝากดูเรื่องค่ายาแพง?

“ค่าคอมมิชชั่นมันเยอะ ยาต้นทุนซื้อมาจากต่างประเทศ เม็ดละบาท มาขายให้ประชาชนเม็ดละร้อย ยิ่งยาความดันขายเป็นหมื่น เส้นเลือดเปราะด้วย ไอ้ยาที่ต่างประเทศซื้อมา หมอนี่ที่จัดยาให้เรา ยังไม่เคยกินเลย”

 

เห็นคุณนิยาม รัฐบาล ตัวคุณ และฝ่ายค้านเหมือนสภาสามก๊ก?

“เดิมทีมีแค่สองก๊ก ตอนนี้มีผมเพิ่มมาเป็นก๊กที่สาม เป็นก๊กตั้งใหม่”

 

คุณเป็นก๊กอะไร?

“เป็นจ๊กก๊ก เป็นก๊กของเล่าปี่ ตอนนี้เติบโตจากคนทอเสื่อมาเป็นนายอำเภอแล้ว ตอนนี้ฝ่ายค้าน รัฐบาลจะให้ทำอะไรเราก็ทำ แต่เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง”

 

เล่าปี่มีกวนอู เตียวหุย จูล่ง มีขงเบ้ง แล้วคุณมีใคร?

“ตอนนี้ผมมีขงเบ้งแล้วนะ แต่ยังไม่บอกว่าเป็นใคร  แต่มีแล้ว กวนอู เตียวหุย ทหารราบ มีครบหมดแล้ว แต่ปิดไว้ก่อน แล้วสมาชิกผมหมื่นห้าพันคนนะ ยังไม่รวมแฟนคลับ ที่พร้อมรับสมัครมาเป็นสมาชิกพรรคหรือเรียกว่าทหารราบ”

 

แต่แฟนคลับตอนนี้บางคนจากเมื่อก่อนเขาไม่เห็นด้วย ไม่ชอบ ตอนนี้เปลี่ยน?

“ตอนนี้ผมอยากหาจิวยี่ สุมาอี้ ลิโป้ มาร่วมงานด้วย ช่วงแรกเสบียงเราน้อย เราก็ยืมเสบียง แล้วใครเป็นโจโฉ (หัวเราะ)”

 

ในสภาตอนนี้คนที่เป็นดาวเด่นๆ รุ่นใหม่ มีคุณ มีปารีณา คุณช่อ คุณธนาธร คุณเองมีปัญหากับใครมั้ย?

“ตอนไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในสภา ทั้งสองคนก็สวยดีนะ เป็นฝ่ายค้านกับรัฐบาลที่สวย ก็แค่นั้นเอง ผมไม่มีอะไรกันเลย”

 

คุณวัน?

“ไม่มีอะไรกันแล้ว เจอหน้าก็ไหว้”

 

เขาไม่จับมือด้วย?

“เราไม่ได้เปิดประเด็นอะไรเรื่องนี้ ไม่มีอะไรกันแล้ว เจอก็ยกมือไหว้ แกก็รับไหว้ปกติ”

 

ล่าสุดไปยืนคุยกับสื่อ พูดถึงการประกาศว่ารัฐบาลเองไม่เหลียวแล เปลี่ยนสิ่งที่เคยคุยกันเอาไว้?

“ทางการเมืองเขาเรียกว่าไม่รักษาคำพูด”

 

ตอนแรกมีอะไร?

“ทางการเมือง มีการดีลระดับนโยบายไว้ พอคุยครั้งที่หนึ่ง ที่สอง ไม่จบ ครั้งที่สามก็ไม่ต้องคุยแล้ว”

 

เคยถูกทาบทามหรือเสนอ?

“มีแหละ แต่ไม่พูดแล้ว  เขาเสิร์ฟให้ตอนเรากินอิ่มแล้ว ไม่อยากกินแล้ว เสิร์ฟให้ผิดจังหวะ มันประกาศไปแล้วมาเสิร์ฟตอนนี้ไปเพื่ออะไร มันหมดเวลาแล้ว อีกอย่างนโยบายพรรคพลังประชารัฐ กับพรรคศิวิไลซ์ก็ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง ขึ้นภาษีน้ำมันให้ประชาชน 76 ล้านคน ผมเอาด้วยเหรอ ถูกเปล่า มีแนวโน้มกู้ไอเอ็มเอฟ มาใช้หนี้เก่ากับธนาคารเดิม ผมจะเห็นด้วยเหรอ ผมไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ผมบอกให้มีวิธีอื่นแก้ไข มาถามผม ผมจะบอกวิธีการแก้ไขทั้งหมดให้ แต่ถ้าไม่เชื่อ ประเทศก็เสี่ยง”

 

อีกเก้าท่าน พี่ๆ คุณ วันนี้ทำยังไงต่อไป ?

“การตัดสินใจเป็นอิสระของแต่ละพรรค เขามีสมาชิกพรรคกันอยู่ อะไรที่พี่สบายใจก็อยู่ตรงนั้น ไม่สบายใจก็มาอยู่กับผม”

 

น้อยใจมั้ย?

“นักรบไม่มีน้อยใจ ต้องไปข้างหน้าอย่างเดียว”

 

เจ็บใจมั้ย?

“โดยปกติคุณหนุ่มมนุษย์เราเกิดมาได้ กว่าจะเป็นมนุษย์คนนึงได้ เราต้องแข่งขันกับ 500 ตัวนะ เราต้องทิ้งเพื่อนเราหมดเหมือนกันนะ กว่าเราจะเกิดเป็นมนุษย์ได้”

 

คุณเปรียบเทียบเป็นอสุจิเหรอ?

“(หัวเราะ) คนเราต้องมีพี่มีน้อง อีกหน่อยเขาก็ตามมาเอง”

 

คุณเปรียบเทียบกับตัวอสุจิ เกิดก่อน นำมาก่อน แล้วเดี๋ยวเขาตามมาเอง?

“ถูกต้อง แต่ตอนนี้เขาอยู่ที่นั่น ใช่ว่าใจเขาจะอยู่ที่นั่นร้อยเปอร์เซ็นต์”

 

คุณคิดเองหรือเปล่า?

“ก็ลองไปถามใจเขา เมื่อวานพรรคพลังผืนป่าก็มาแล้ว”

 

ถ้ารัฐบาลเสนอตำแหน่งให้ วันนี้เสนอตำแหน่งใหญ่ให้เลย ไปมั้ย?

“ถ้าเมื่อสองเดือนที่แล้วโอเค แต่ ณ วันนี้ไม่ใช่ เวลามันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าเมื่อสองเดือนที่แล้ว ความรู้สึกผมจะดีกว่านี้ แต่ ณ ตรงนี้มันเลยจุดเดิมแล้ว”

 

ถ้าสองเดือนก่อนเสนอตำแหน่งให้คุณมา คณก็กลับไปช่วยฝั่งรัฐบาล?

“ก็อาจเกรงใจสักครึ่งนึง ทำงานตามนโยบายพรรคสักครึ่งนึง เพราะประชาชนส่วนนึงไม่ค่อยชอบ ก็ได้อย่างเสียอย่าง ไม่มีใครได้ทุกอย่าง”

 

ถ้าสองเดือนก่อนคุณรับตำแหน่ง เรื่องงบซื้อเครื่องบิน คุณจะค้านเขาเหรอ?

“ก็ค้านเหมือนเดิมแต่อาจจะเบาลงเพราะเกิดความเกรงใจ แต่ประชาชนก็เสียหายมากขึ้น สมมติผมไปเกรงใจ พอเกรงใจปุ๊บการทำหน้าที่ฝ่ายบริหารกับส.ส. ต่างกันนะ ถ้าไปอยู่กับรัฐบาลก็ต้องปกป้องรัฐบาล มันจะไม่อิสระ ซึ่งตอนนี้กลับไปเป็นไม่ได้”

 

วันนี้ให้กลับ จะกลับมั้ย ?

“ส.ส. เป็นได้อย่างเดียวคือเป็นรัฐมนตรีเท่านั้น แต่ตอนนี้ไม่อยากได้แล้ว ตอนนี้ไม่กลับ เพราะเลยจุดนั้นไปแล้ว”

 

ไม่ใช่เขาไม่เอา แต่คุณไม่เอาเอง?

“ถูกต้อง มันเลยจุด มันเลยจุดระเบิดไปแล้ว ต้องล้างกระดานใหม่ คุยกันใหม่”

 

ทรานซิสเตอร์รู้สึกยังไง?

“ไม่มผลหรอกครับ ในเมื่อใจออกห่างแล้ว ไม่มีทางที่วิทยุทรานซิสเตอร์จะไปกระตุ้นเสียงเขา ใจเขาออกห่างไปแล้ว เหมือนชายหญิงเลิกกันจะกลับมาคืนดีได้มั้ย ต้องให้ระยะเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ให้ระยะเวลาเยียวยาหัวใจ”

 

มีอะไรอยากบอกกับประชาชน  วันนี้คนชอบคุณมาก?

“ผมจะทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรอย่าเต็มความสามารถ รับเรื่องร้องเรียนประชาชน 77 จังหวัด เพราะตนนี้ผมไม่ได้อยู่ฝายบริหาร ผมอยู่ฝ่ายประชาชน เป็นฝ่ายค้านอสิระ ยืนข้างประชาชนอย่างเต็มที่ คนเดียว ณ ปัจจุบัน สภาผู้แทนราษฎร ณ ปัจจุบันได้ก้าวหน้าไปอีกขั้นนึงแล้ว มี 3 ฝ่าย ไม่ใช่มีสองฝ่ายเหมือนแต่ก่อน เพราะฉะนั้นทุกเรื่องผมรับหมด และแก้ปัญหาหมด”

 

คุณมีขงเบ้งเป็นแบ็ก?

“มีแล้ว มีหลายคน”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image