เมื่อ “บิ๊กเจี๊ยบ” เปล่งออร่า จับตา “บิ๊กแกละ” นิ่ง จับกระแส “บิ๊กตู่” รีเฟรช ครม. ผลัดใบ รมต.ทหาร

พล.อ.ธีรชัย นาควานิช (ซ้าย) พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ (ขวา)

เมื่อ “บิ๊กเจี๊ยบ” เปล่งออร่า จับตา “บิ๊กแกละ” นิ่ง ดูเกม “บิ๊กป้อม” วางตัวแม่ทัพ ถึงคิว “ตู่เล็ก” เต็ง แม่ทัพ 1 จับกระแส “บิ๊กตู่” รีเฟรช ครม. ผลัดใบ รมต.ทหาร

แม้ว่าในเวลานี้ ชื่อของ นายทหารหมวกแดงรบพิเศษ บิ๊กเจี๊ยบ พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผช.ผบ.ทบ. จะเป็นที่รู้กันใน ทบ. ว่า เป็น “เต็งหนึ่ง” ผบ.ทบ.คนใหม่

แต่ ท่าทีของ บิ๊กแกละ พลเอกพิสิทธิ์ สิทธิสาร เสธ.ทบ. ก็ยังคง “นิ่ง” ไม่หวั่นไหว ประหนึ่งเปี่ยมไปด้วยความหวัง

หากดูบรรยากาศใน ทบ. เวลานี้ ดูคล้ายๆ จะย้อนกลับไปเหมือน ตอนที่ บิ๊กโด่ง พลเอกอุดมเดช สีตบุตร เป็น ผบ.ทบ. ในช่วงชิงดำเก้าอี้ ผบ.ทบ. กัน ระหว่าง บิ๊กหมู พลเอกธีรชัย นาควานิช ผช.ผบ.ทบ. กับ บิ๊กติ๊ก พลเอกปรีชา จันทร์โอชา ผช.ผบ.ทบ.

ในเวลานั้น รู้กันดีว่า พลเอกอุดมเดช สนับสนุน น้องชายนายกฯ ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ จึงมอบหมายให้พลเอกปรีชาออกงานแทนบ้าง และการมาติดตามร่วมงานกันมากที่สุด

Advertisement

มาตอนนี้ พลเอกธีรชัยก็มอบพลเอกเฉลิมชัย ออกงานต่างๆ แทน หรือหากไปงานก็จะมีพลเอกเฉลิมชัยเคียงข้างเสียมากกว่าที่จะมีพลเอกพิสิทธิ์ ที่ส่วนใหญ่จะไปร่วมคณะเฉพาะที่เป็นการฝึก หรือลงใต้

ในบรรดานายทหารสายบิ๊กหมูรู้ดีว่า พลเอกธีรชัยจะเสนอชื่อ พลเอกเฉลิมชัย เป็น ผบ.ทบ. แน่

อีกทั้งพลเอกธีรชัยมองว่า พลเอกพิสิทธิ์เป็นนายทหารในสายของพลเอกอุดมเดช และเป็นทีมอุทยานราชภักดิ์

Advertisement

ไม่แค่นั้น การแสดงออกของ บิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ยังทำให้ใครๆ เชื่อว่า สนับสนุนพลเอกเฉลิมชัย เป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ ทั้งการเข้าไปทักทาย พูดคุย หยอกล้อ บ่อยๆ ทุกครั้งที่เจอหน้า

อีกทั้งฐานข้อมูลเดิมพลเอกประยุทธ์เคยไม่ยอมให้พลเอกพิสิทธิ์ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คุมกำลัง ในสมัยที่เป็น ผบ.ทบ.

ในยามนี้ พลเอกเฉลิมชัยจึงมีประกายออร่าเปล่งแสงออกมาจากจำนวนนายทหารที่ห้อมล้อม โดยเฉพาะในงานที่พลเอกธีรชัยมอบหมายให้

ยิ่งเมื่อใด ที่พลเอกเฉลิมชัยซึ่งเป็นนายทหารรบพิเศษ และเป็นนักกีฬา ลงสนามเตะฟุตบอล ก็จะมีจำนวนนายทหารที่อยากมาร่วมสนามด้วยมากขึ้น

แต่ว่ากันว่า พลเอกเฉลิมชัยเป็นนายทหารที่มีความเสมอต้นเสมอปลาย และทำตัวติดดินเป็นนายทหารธรรมดา เช่นเดิม

แม้จะเห็นเป็นนายทหารที่เงียบๆ นิ่งๆ แต่ทว่า ในเวลางาน ก็มีความดุดัน เข้มงวด ไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่คงมีแต่ บิ๊กป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ นายกฯ และ รมว.กลาโหม เท่านั้น ที่ดูจะยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกพลเอกเฉลิมชัย นายทหารสายรบพิเศษ มาเป็น ผบ.ทบ. หรือไม่

แถมพลเอกเฉลิมชัย มีอายุราชการถึงกันยายน 2561 หากได้เป็น ผบ.ทบ. จะนั่ง 2 ปี จะทำให้มีเพาเวอร์มากกว่าเป็นแค่ปีเดียว

จุดนี้ จึงอาจกลายเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พลเอกพิสิทธิ์ นายทหารสายบูรพาพยัคฆ์ ที่รู้กันดีว่าเป็นน้องรักอีกคนของพลเอกประวิตร ยังคง “นิ่ง” อยู่

แต่หากถามใครๆ ในกองทัพ แม้แต่นายทหารนอกราชการ ต่างก็เห็นพ้องกันว่า พลเอกเฉลิมชัยมีบุคลิกที่นิ่งกว่า และเติบโตมาตามไลน์ แม้จะเป็นรบพิเศษไม่ใช่บูรพาพยัคฆ์ แต่ก็มีความสุขุม นุ่มนิ่ง เหมาะที่จะดูแลสถานการณ์ช่วงเปลี่ยนผ่านที่แสนอ่อนไหว

ส่วนปัญหาที่เกรงกันว่า พลเอกเฉลิมชัยซึ่งไม่ได้โตมาในกองทัพภาคที่ 1 และไม่ได้สนิทสนมใกล้ชิดกับ ผบ.หน่วยคุมกำลัง ในเวลานี้ ก็ไม่ใช่ปัญหา

เพราะในเวลานี้มีข่าวสะพัดว่า พลเอกประวิตรได้เคาะแล้วว่า จะให้ บิ๊กตู่ (เล็ก) พลตรีกู้เกียรติ ศรีนาคา รองแม่ทัพภาคที่ 1 ขึ้นเป็น แม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่ ในการโยกย้ายกันยายนนี้

เพื่อที่จะมาเป็นแม่ทัพที่คุมกำลังข้างกายพลเอกเฉลิมชัย ที่จะเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่

ทั้งนี้ ก็ด้วยเหตุผลอันแยบยลที่ว่า หากต้องให้พลเอกเฉลิมชัย เป็น ผบ.ทบ. จริงๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่า จะเกิด “ภาวะแข็งข้อ” หรือขัดขืน

เพราะคนที่คุมกำลังหลัก หรือกำลังในการปฏิวัติรัฐประหาร คือ แม่ทัพภาคที่ 1

เรียกได้ว่า ตั้ง พลตรีกู้เกียรติ มา “กั๊ก” ไว้เลย

หากว่า พลเอกประวิตรห่วงว่า พลเอกเฉลิมชัยจะฟัง บิ๊กแอ้ด พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี หรือ บิ๊กบัง พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. และอดีตประธาน คมช. มากกว่า ตนเองหรือพลเอกประยุทธ์

เพราะหากมองรอยร้าวในอดีต ระหว่าง พลเอกประวิตร กับ พลเอกสุรยุทธ์ หรือแม้แต่กับ พลเอกสนธิ ที่เป็น เพื่อน ตท.6 ก็ยังคงแจ่มชัด

ดังนั้น การตั้งแม่ทัพภาคที่ 1 ที่วางใจได้พันเปอร์เซ็นต์ อย่างพลตรีกู้เกียรติ จึงเป็นการวางหมากป้องกันไว้ก่อน

เพราะรู้กันดีว่า พลตรีกู้เกียรติ นั้นเป็นน้องรักของทั้งพลเอกประยุทธ์และพลเอกประวิตร ที่เติบโตมาในสายบูรพาพยัคฆ์ด้วยกัน

แบบที่พลเอกประวิตรเคยพูดต่อหน้าบรรดา ผบ.หน่วยคุมกำลัง ใน พล.ร.2 รอ. เลยว่า ฝากให้พลตรีกู้เกียรติดูแลแทน

นี่จึงเป็นคำตอบว่า เพราะเหตุใดที่ผ่านมาทั้งบิ๊กตู่และบิ๊กป้อม ยังไม่ยอมให้พลตรีกู้เกียรติเป็น พลโท เสียที

แต่กลับให้ทั้ง บิ๊กแดง พลโทอภิรัชต์ คงสมพงษ์ เพื่อน ตท.20 ของพลตรีกู้เกียรติ ขึ้นเป็น พลโท แม่ทัพน้อยที่ 1 นำรุ่นไปแล้ว

เช่นเดียวกับ บิ๊กณัฐ พลโทณัฐ อินทรเจริญ ลูกรักของบิ๊กป้อมที่ขึ้นเป็น พลโท รองเสนาธิการทหารบก นำรุ่นไปแล้ว

ทั้งนี้เพราะ พลเอกประยุทธ์และพลเอกประวิตร ได้ตกลงใจนานแล้วที่จะให้ พลตรีกู้เกียรติ เป็นแม่ทัพภาคที่ 1

ส่วน พลโทณัฐ ลูกเลิฟของ บิ๊กป้อม นั้น ก็ให้ร้องเพลงรอไปก่อน เพราะมีอายุราชการถึงปี 2564

ส่วนพลโทอภิรัชต์นั้น แม้จะเป็นน้องรักของพลเอกประยุทธ์ แต่ก็ไม่ใช่น้องรักของพลเอกประวิตร

ทั้งนี้อาจเพราะ พลโทอภิรัชต์ ไม่ใช่ บูรพาพยัคฆ์ แต่เป็น นายทหารในสายวงศ์เทวัญ

อีกทั้งพลเอกประยุทธ์ก็ให้รางวัลด้วยการให้เป็น ประธานบอร์ดกองสลากฯ ไปแล้ว ก็อาจจะให้มาเติบโตใน บก.ทบ. หรือทางข้างมากกว่าที่จะให้เป็นแม่ทัพภาคที่ 1

แต่นั่นย่อมอาจหมายถึงการที่พลโทอภิรัชต์ จะพลาดเก้าอี้ ผบ.ทบ. ในอนาคต ด้วยก็เป็นได้ หากไม่ได้เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในโยกย้ายกันยายนนี้ แถมเขามีอายุราชการถึงปี 2563 พร้อมพลตรีกู้เกียรติเพื่อนรัก ตท.20 อีกด้วย

ว่ากันว่า หากพลเอกพิสิทธิ์ ได้เป็น ผบ.ทบ. เขาก็คงจะต้องการพลโทอภิรัชต์เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คู่ใจ เพราะเขาเป็นพี่น้อง ที่เติบโตมาจาก ร.11 รอ. ด้วยกัน เป็นวงศ์เทวัญ ด้วยกัน

เพราะหลังจากที่พลเอกพิสิทธิ์ ออกจาก พล.ร.2 รอ. เข้ากรุง ก็มาอยู่ ร.11 รอ. มาเป็นวงศ์เทวัญ ยาวจนเป็น ผบ.ร.11 รอ. และเป็น ผบ.พล.1 รอ. เลยทีเดียว

ดังนั้น เก้าอี้แม่ทัพภาคที่ 1 จึงอาจเป็นดัชนีชี้วัด ว่าใครจะเป็น ผบ.ทบ. ได้ด้วยเช่นกัน

แต่ที่ไม่ได้ทำให้บรรยากาศในกองทัพตึงเครียดก็เพราะ ทั้งพลเอกเฉลิมชัยและพลเอกพิสิทธิ์ยังคงเป็นพี่น้อง ตท.16 และ ตท.17 ที่ยังพูดคุย ทำงานร่วมกันอย่างปกติ ไม่ได้มีการแก่งแย่งเก้าอี้ ผบ.ทบ. กัน

แต่พร้อมๆ กับการเฝ้ารอคอยว่า ใครจะเป็น ผบ.ทบ. คนใหม่นั้น ก็มีการจับตามองว่า ผ.ทบ.คนปัจจุบัน อย่าง พลเอกธีรชัย ที่กำลังเคาต์ดาวน์ จะเกษียณราชการอยู่แล้วนั้น จะได้กลับบ้านหรือว่า มาใส่สูท เข้าร่วม ครม.บิ๊กตู่

เพราะมีข่าวสะพัดออกมาเป็นระยะๆ ว่า พลเอกประยุทธ์เตรียมเก้าอี้ รมต. ไว้รองรับ น้องรัก ที่กำลังจะเกษียณ คือ พลเอก ธ. ธีรชัย และ พลเอก ก. กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผช.ผบ.ทบ. หรือ บิ๊กโชย ที่จะเกษียณกันยายนนี้

ต้องไม่ลืมว่า พลเอกประยุทธ์ได้พยายามหาจังหวะที่จะให้ พลเอกกัมปนาท มานั่งเป็น รมต. มาหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่มีจังหวะเหมาะๆ

แต่ในห้วงที่รัฐบาลจะทำงานมาครบ 2 ปีในเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ จะมีการปรับ ครม. ที่จะไปสอดรับ กับการเกษียณราชการของ ผบ.เหล่าทัพ ชุดนี้พอดี

ทั้ง บิ๊กติ๊ก พลเอกปรีชา จันทร์โอชา น้องนายกฯ ที่จะเกษียณจาก ปลัดกลาโหม บิ๊กเต้ พลเอกสมหมาย เกาฏีระ ผบ.สูงสุด พลเอกธีรชัย ผบ.ทบ. และ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผบ.ทอ.

แต่หลายคนเชื้่อว่า พลเอกประยุทธ์ คงไม่กล้าเอาน้องชายมาร่วม ครม. ให้มี 2 จันทร์โอชา ใน ครม. เดียวกันแน่

แต่สำหรับดีกรี ผบ.ทบ. นั้น พลเอกธีรชัยจึงถูกจับตามอง ว่า เมื่อเกษียณแล้ว อาจร่วม ครม. ที่เชื่อว่าทั้ง พลเอกประยุทธ์และพลเอกประวิตร สนับสนุนหากมีตำแหน่งว่าง

ส่วน พลเอกกัมปนาท ก็เป็น แกนนำ ตท.16 ที่เชื่อกันว่ามีส่วนในการผลักดันให้ พลเอกเฉลิมชัย ได้ชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ. เพราะเป็นเพื่อนรัก โดยมี บิ๊กจุก พล.อ.อ.ถาวร มณีพฤกษ์ รอง ผบ.สส. เพื่อนอีกคนที่ อยู่หน้าห้องพลเอกประวิตร ที่พยายามจะช่วยชี้แจง โน้มน้าวใจ ให้เลือกพลเอกเฉลิมชัย เป็น ผบ.ทบ.

จึงถือว่า เป็นพลังของ เตรียมทหาร รุ่น 16 ด้วยก็ว่าได้

แม้ว่า พล.อ.ประวิตร จะสยบกระแสข่าวการปรับ ครม. ที่จะให้พลเอกธีรชัย และพลเอกกัมปนาท ที่จะเกษียณมาเป็น รมต. เพราะนายกฯ ยังไม่เคยพูดเลย ทำงานอย่างเดียว ตอนนี้รัฐบาลเหลือเวลาอีกปีกว่า พยายามทำสิ่งที่นายกฯ วางเอาไว้

โดยชี้ว่า ไม่ใช่ว่าจะต้องเสมอไป ผบ.เหล่าทัพ ที่เกษียณ จะต้องมาเป็นรัฐมนตรี เพราะอาจจะกลับไปอยู่บ้าน เหมือนตนเอง เมื่อครั้งที่เกษียณไปกว่า 10 ปีที่แล้ว

แต่ก็ยังเชื่อกันว่า ในฐานะอดีต ผบ.ทบ. คงไม่เกษียณไปอยู่บ้านเฉยๆ

ตอนนี้ข่าวที่มาแรงใน ทบ. คือ พลเอกธีรชัย ไม่ได้เป็น รมช.มหาดไทย. แต่ทว่า จะเป็น รมช.กลาโหม มาทำงานกับ พลเอกประวิตร พี่เลิฟ

เพราะมีรายงานว่า พลเอกประยุทธ์ จะย้ายสลับกระทรวงรัฐมนตรี รวมถึง พลเอกอุดมเดช รมช.กลาโหม ด้วย เพื่อที่จะเปิดทางให้ พลเอกธีรชัย มาเป็น รมช.กลาโหม มาช่วยงาน พี่ป้อม

ท่ามกลางการจับตามองว่า หาก พลเอกอุดมเดช ต้องถูกย้ายกระทรวง แม้จะให้เป็นรัฐมนตรีว่าการ เขาจะพร้อมรับหรือไม่

อีกทั้งรู้กันดีว่า มีแผลในใจกับพลเอกธีรชัย เมื่อถึงสถานการณ์นั้น พลเอกอุดมเดช อาจต้องตัดสินใจ แบบที่ไม่มีใครคาดฝัน ก็เป็นได้

แต่ย่อมไม่ส่งผลดีต่อภาพพจน์ คสช. แน่นอน

แต่ทว่า เก้าอี้ รมต. ก็เป็นความหวังของ นายทหารที่จะเกษียณชุดนี้กันหลายคน เพราะใน ผบ.เหล่าทัพ นั้น ก็มี พลเอกธีรชัย ในฐานเะ อดีต ผบ.ทบ. และ อดีต เลขาธิการ คสช. ที่คงต้องหาเก้าอี้มารองรับ

ไม่แค่นั้น ข่าวสะพัดคือ พลเอกประยุทธ์ จะมีการให้ รัฐมนตรีทหารบางคน ออกไปพักผ่อน เพราะว่า ร่วมชะตากรรมในการงานมา 2 ปีแล้ว หลังการรัฐประหารและการเป็นรัฐบาล คสช.

เพราะยังคงเหลือเวลา อีกกว่า 1 ปี ที่จะต้องทำงานในนามรัฐบาล คสช. ไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งและรัฐบาลใหม่

อีกทั้งจะเป็นช่วง การเปลี่ยนผ่านทางการเมือง และหรือ การเปลี่ยนผ่านประเทศ ในห้วงเวลา 1-3 ปีนี้

คนที่จะมาเป็น รมต. และ ผบ.เหล่าทัพ ในช่วงเวลานับจากนี้จึงต้องผ่านการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันแล้วว่า เอาอยู่ ดูแลสถานการณ์ได้

บางกระแสระบุด้วยว่า นอกจากการปรับ ครม. แล้ว ในโอกาสที่ต้องมีการปรับ คสช. ด้วย เพราะ ผบ.เหล่าทัพ เกษียณราชการกันหลายคนนั้น พลเอกประยุทธ์ในฐานะหัวหน้า คสช. ก็ต้องตั้งสมาชิก คสช. จาก ผบ.เหล่าทัพ ชุดใหม่ ด้วยอยู่แล้ว

พลเอกประยุทธ์อาจถือโอกาสนี้ ปรับ คสช. และ รมต. ไปพร้อมกันในคราวเดียวเลย

เพราะจากนี้ พลเอกประยุทธ์ไม่ใช่ว่าจะอยู่แค่เลือกตั้งในปี 2560 เท่านั้น แต่อาจอยู่ต่อในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง จึงอาจจำเป็นต้องรีเฟรชทีมรัฐบาล และ คสช.ใหม่ ให้พร้อมรับสถานการณ์ช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image