“สุดารัตน์” ชี้ เศรษฐกิจวันนี้ไม่ใช่วิกฤต แต่เป็นหายนะ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 สิงหาคม ที่วัดสุวรรณาราม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า เราเห็นด้วยว่าควรกระตุ้นเศรษฐกิจ และคิดว่าต้องใช้เงินจำนวนมากพอที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้จริง โดยมาตรการที่ออกมานั้น มีทั้งสิ่งที่เราเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เรื่องที่เห็นด้วยคือการยกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในนโยบายของพรรคเพื่อไทยมาตลอด และรัฐบาลได้นำนโยบายนี้ไปดำเนินการต่อ
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ส่วนเม็ดเงินที่ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 3 แสนล้านบาทนั้น เป็นห่วงสองประเด็นคือ 1.ขณะนี้เปรียบเสมือนหน้าแล้ง มีน้ำน้อยมาก มีเม็ดเงินน้อยมาก แต่ใน 3 แสนล้านบาทนั้นประกอบด้วยการพักหนี้และการให้สินเชื่อเป็นจำนวนกว่า 1 แสนล้านบาทไปแล้ว ดังนั้นจึงเหลือเม็ดเงินที่ลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆ อยู่น้อยมาก 2.ในภาวะที่มีน้ำน้อย รัฐบาลต้องเลือกวิธีการรดน้ำ จะหยดที่โคนต้น หรือจะสเปรย์ทิ้ง ตนเห็นว่ามาตรการของรัฐบาลที่ออกมาเป็นการใช้น้ำไม่คุ้มค่า เพราะใช้วิธีสเปรย์เบี้ยหัวแตก ไม่ได้อัดลงไปตรงจุด เช่น แม้การท่องเที่ยวจะเป็นหนึ่งในวิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ถ้าเทียบกับการอัดเงินลงไปที่เกษตรกรฐานราก ให้เขามีเงินไปจับจ่ายในตลาด ทำให้เอสเอ็มอีฟื้น เมื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศมีเงินซื้อ ของในตลาดก็ขายได้ โรงงานก็ผลิตได้ น่าจะมีผลดีมากกว่า ขณะที่การท่องเที่ยวนั้นมีข้อติดขัดหลายอย่าง เช่น ถ้าจะเอาเงินรัฐไปเที่ยว 1,000 บาท ต้องควักเงินตัวเองอีก 2,000 บาท ทั้งที่ตอนนี้ประชาชนก็ไม่มีให้ควัก
“จึงอยากติง 2 เรื่อง คือยาไม่แรงพอ และวิธีการสะเปะสะปะ ใช้วิธีสเปรย์แบบไม่เกิดประโยชน์ เพราะน้ำจะระเหย ไม่ลงถึงราก เราในฐานะนักการเมืองที่ใกล้ชิดประชาชนลงพื้นที่ได้ฟังความทุกข์ยากทั้งในเมืองและชนบท สิ่งที่เราอยากเห็นคือการนำเงินลงไปกระตุ้นอย่างเพียงพอ เลิกซื้ออาวุธ เลิกซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น เศรษฐกิจวันนี้ไม่ใช่วิกฤตแต่เป็นหายนะ หวังว่าในการประชุม ครม. สัปดาห์หน้าจะได้ทบทวนสิ่งที่ฝ่ายค้านติติงด้วยความหวังดี ” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
