09.00 น. INDEX สโลแกน “3 ไม่” ศูนย์ปราบโกง “ไม่อายพม่า”เปรี้ยวจี๊ด “สุดขีด

ภายในสโลแกน “ไม่ล้ม ไม่โกง ไม่อายพม่า” ของศูนย์ปราบโกงประชามติ
ล้วนทำให้ “เปรี้ยว”จนแทบ”เข็ดฟัน”
ความน่าสนใจอย่างยิ่งยวดก็คือ ทั้ง “3 ไม่”นี้ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะโยนความผิดตามมาตรา 61 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ได้
เพราะมิได้ “ก้าวร้าว รุนแรง หยาบคาย”
เพราะมิได้เป็นการปลุกระดม มิได้เป็นการแสดงท่าทีว่ารับหรือไม่รับ
ไม่ล้ม ก็คือ ไม่ล้มประชามติ
ไม่โกง ก็คือ ดำเนินการติดตามกระบวนการทำประชามติเพื่อมิให้มีการโกงเกิดขึ้น
ไม่อายพม่า อาจจะ “กำกวม”
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ผลการเลือกตั้งทั่วไปของเมียนมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 เป็นคำตอบได้อย่างดี
“ชาวบ้าน” ออกมาใช้สิทธิ”ถล่มทลาย”

ถามว่าในบรรดาสโลแกน “3 ไม่”ทั้งหมดของศูนย์ปราบโกงประชามติ
คำไหนที่ “เปรี้ยว”จิ๊ดที่สุด
ตอบได้เลยว่า คือ คำว่า “ไม่อายพม่า” เพราะเท่ากับเป็นการท้าทายอย่างแหลมคม
เหมือนกับคำว่า “ไม่อายลาว”
เหมือนกับคำว่า “ไม่อายเขมร”
เพราะคนไทยถือตัวอย่างเงียบๆมาอย่างยาวนานแล้วว่ามีความเหนือกว่า พม่า เหนือกว่า ลาว เหนือกว่า เขมร
บทสรุปที่ว่า อย่างนี้ก็อายพม่าแย่ จึงเท่ากับดูถูก
บทสรุปที่ว่า อย่างนี้ก็อายลาว อย่างนี้ก็อายเขมร จึงเท่ากับดูถูก
ในเรื่องของ”การเมือง” และ”การเลือกตั้ง”ก็เช่นกัน

ต้องยอมรับว่า ชาวเมียนมาตกอยู่ในความยึดครองของทหารมาอย่างยาวนาน
ยาวนานตั้งแต่ยุคของ นายพลเนวิน เมื่อปี 2505
ต่อเนื่องมายังยุคของ ตานฉ่วย ต่อเนื่องมายังยุคของ เต็ง เส่ง และกระทั่ง มิน อ่อง หล่าย
แต่การเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 เกิดพลิกผัน
ชาวพม่ามากกว่าร้อยละ 90 เลือกพรรคของ นางอองซาน ซูจี มีเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นที่เลือก”พรรคทหาร”
ทั้งที่ “ทหาร” ยังมากด้วย”กระบอกปืน”
เท่ากับชาวเมียนมาแสดงให้เห็นว่า ด้วยกระบวนการ”เลือกตั้ง” สามารถเอาชนะปากกระบอกปืนของ”ทหาร”ได้
เพราะในคูหาทุกคนล้วน 1 สิทธิ 1 เสียง
สโลแกนที่ว่า “ไม่อายพม่า” จึงท้าทายและแหลมคมยิ่ง
ท้าทายต่อความรู้สึกชาวบ้าน แหลมคมต่อ”ประชามติ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image