รัฐบาล จ่อ บรรจุ “ภาษาโคดดิ้ง” เป็นวิชาย่อยในหลักสูตร เริ่มเรียนตั้งแต่ประถมฯ แจงเรียนได้ไม่ต้องซื้อคอมพ์แจก เพราะเป็นวิชาสอนให้มีตรรกะ-เข้าใจหลักคำนวณ “บิ๊กตู่” ฝากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ดูแลเด็กชนะคณิต-วิทย์โอลิมปิก ให้ทำงานตรงความเชี่ยวชาญ-ประเทศได้ประโยชน์สูงสุด
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในช่วงเริ่มต้นการประชุม นายกรัฐมนตรีได้ฝากเรื่องสำคัญคือ การพัฒนาและเตรียมความพร้อมบุคลากรของประเทศไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงระดับอุดมศึกษา ซึ่งได้มีการพิจารณามาเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ และวันนี้เป็นการรายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุมคือ การบรรจุเนื้อหาเกี่ยวกับภาษาโคดดิ้ง (Coding) ซึ่งบางคนฟังแล้วเข้าใจว่าเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ จำเป็นต้องซื้อคอมพิวเตอร์มาแจก แต่นายกฯชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ไม่ใช่ เพราะหากลองไปดูหลักสูตรหรือเนื้อหาที่แท้จริง ภาษาโคดดิ้งเป็นวิชาที่สอนเด็กตั้งแต่ 5-6 ขวบ ให้รู้จักมีตรรกะในการคิดเป็นขั้นเป็นตอน มีความคิดสร้างสรรค์และเข้าใจหลักในการคำนวณ จะทำให้เด็กมีความเชี่ยวชาญทางคณิตศาสตร์เร็วขึ้น โดยจะเป็นภาษาที่ประเทศไทยจะให้ความสำคัญนอกเหนือจากภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ และทั่วโลกให้ความสำคัญกับภาษาโคดดิ้ง การเรียนเรื่องนี้จะทำให้เด็กไทยสามารถสื่อสารกับเด็กอีก 7 พันล้านคนทั่วโลกได้ โดยนายกฯได้คุยกับรัฐมนตรีในกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เกี่ยวกับการปฏิรูปเนื้อหา ที่ต้องการให้เพิ่มวิชาโคดดิ้งเป็นวิชาย่อยให้วิชาหลักของหลักสูตรการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาขึ้นไป โดยกระทรวงดีอีจะมีโครงการอบรมครูเพื่อให้สามารถนำไปสอนเด็กต่อได้ ทั้งนี้ คาดว่าทั้ง 2 กระทรวงจะมีการชี้แจงข้อมูลเรื่องนี้ต่อไป
นางนฤมลกล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกฯได้พบกับนักเรียนและอาจารย์ที่ชนะการแข่งขันคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ในที่ประชุมวันนี้ นายกฯจึงได้ฝากกระทรวงที่เกี่ยวข้องให้ดูแลเด็กเหล่านี้ ทั้งที่ชนะการแข่งขันในปีนี้และปีที่ผ่านมา เพื่อดูว่าจะให้การสนับสนุนต่อยอดได้อย่างไร ทั้งเรื่องการศึกษาและการหางานทำ เพื่อให้เด็กได้ทำอาชีพที่ตรงกับความเชี่ยวชาญและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ นอกจากนี้ นายกฯยังแจ้งข่าวดีที่ธนาคารโลกปรับอันดับประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ของประเทศไทยขึ้นเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนรองจากสิงคโปร์ ซึ่งเรื่องโลจิสติกส์ไม่ใช่แค่การขนส่งทางถนนหรือรถไฟเท่านั้น แต่เป็นเรื่องโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด โดยนายกฯฝากให้สื่อแจ้งไปยังประชาชน ว่าประเทศไทยมีข่าวดีมากมาย ฝากนำเสนอข่าวดีเยอะๆ หน่อย
