บทนำ : อย่าฝืน รธน.

ห้วงเวลานี้ได้เกิดข่าวสารการทำงานของฝ่ายการเมืองที่กระทบกระทั่งกับฝ่ายราชการ ข่าวหนึ่ง คือ กรณี พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ออกเอกสารข่าวชี้แจงโครงการก่อสร้างเรือนจำ ระบบเสริมความมั่นคง อุปกรณ์ควบคุมผู้ต้องขัง ขณะเดียวกันได้เตือนฝ่ายการเมืองว่า อาจตกเป็นเครื่องมือของผู้สูญเสียผลประโยชน์ กรณีดังกล่าวนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรับทราบและส่งสัญญาณไปยังทีมงานการเมืองให้ระมัดระวัง ขณะเดียวกัน ได้ปรากฏข่าวและคลิปกรณี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐจากกรุงเทพฯ ลงตรวจพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ตและแสดงกิริยาต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ แสดงความไม่พอใจที่ตำรวจมิได้จัดกำลังเข้ามาดูแล ส.ส.และทีมงาน ซึ่งเมื่อคลิปเผยแพร่ออกสู่สาธารณะ ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

ทั้งนี้ในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 185 รัฐธรรมนูญปี 2560 มีบทบัญญัติเป็นข้อห้ามมิให้ ส.ส.และ ส.ว.เข้าไปแทรกแซงการทำงานฝ่ายราชการเอาไว้ โดยระบุว่า ส.ส.หรือ ส.ว.ต้องไม่ใช้สถานะหรือตําแหน่งกระทําการใดๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่าย หรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

สำหรับข้อห้ามมี 3 ข้อ คือ 1.ห้ามก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติราชการหรือการ
ดําเนินงานในหน้าที่ประจําของข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น 2.ห้ามมีส่วนร่วมในการใช้จ่ายเงินงบประมาณหรือให้ความเห็นชอบในการจัดทําโครงการใดๆ ของหน่วยงานของรัฐ เว้นแต่เป็นกิจการรัฐสภา 3.ห้ามเกี่ยวข้องกับการบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย โอน เลื่อนตําแหน่ง เลื่อนเงินเดือนหรือการให้พ้นจากตําแหน่งของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างหน่วยราชการ หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น

การที่รัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติเช่นนี้แสดง
ว่าต้องการมิให้เกิดปัญหาการทำงานระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายราชการประจำ ฝ่ายการเมืองจำเป็นต้องปฏิบัติตาม และเมื่อปรากฏว่ามีการฝ่าฝืนก็สมควรแสดงความรับผิดชอบ หรือดำเนินการไปตามกฎ เพื่อรักษาภาพลักษณ์ฝ่ายการเมืองที่เคยถูกกล่าวหาและตำหนิเรื่องการเข้าไปก้าวก่ายและแทรกแซงฝ่ายราชการ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image