เด่นชัดแล้วว่าจะมี ส.ส.จากพรรคเศรษฐกิจใหม่ 4 คนจะเข้าไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ
นี่คือสีสันวันเข้าพรรคของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
นี่คือสีสันเนื่องในการเข้าดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์
เป็นอันว่า 6 คนที่พรรคเศรษฐกิจใหม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เมื่อเดือนมีนาคมจะคงเหลือเพียง 1 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ และ 1 คือ นายนิยม วรรธนดิฐกุล
ความแจ่มชัดของข่าวนี้มิได้ออกมาจากพรรคพลังประชารัฐหากมาจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ และจะแจ่มชัดมากยิ่งขึ้นจากการแถลงของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ
นี่คือความแปรเปลี่ยนภายใน”คณิตศาสตร์”การเมือง
หากถือว่าคำประกาศของพรรคไทยศรีวิไลย์ทำให้เกิดฝ่ายค้านอิสระ 1 เสียง
คำประกาศของพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 เสียง
การที่พรรคพลังประชารัฐได้ 4 เสียงไปจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ถือว่าได้กำไร
กระนั้น คณิตศาสตร์การเมืองก็ยังหวาดเสียว
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงาน พรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)เองก็ยอมรับ
“ตอนนี้รัฐบาลมีเสียงทั้งหมด 253 เสียง หากตัดเสียงประธานสภา รองประธานสภา ออกไป 3 ก็จะเหลือ 250 ถือว่าเป็นเสียงที่พอดี”
การได้อีก 4 จากพรรคเศรษฐกิจใหม่เท่ากับตัวเลขทะยานไปยัง 254
เป้าหมายหลักจึงมิใช่พรรคเศรษฐกิจใหม่ หากแต่ยังเน้นไปยังพรรคเพื่อไทย เน้นไปยังพรรคอนาคตใหม่มากกว่า
นี่ย่อมเป็น”กลยุทธ์”ที่จะต้อง”เดินหน้า”
การจัดสรรตำแหน่งที่บรรดาอดีตส.ส.แปรพักตร์ทั้งหลายได้รับการ ปูนบำเหน็จและได้รับการช่วยเหลือในทางคดีความนับเป็นเรื่องเย้ายวนอย่างยิ่ง
เย้ายวนไปยังพรรคเพื่อไทย เย้ายวนไปยังพรรคอนาคตใหม่
แม้กระทั่งบุคคลที่เคยอยู่ใน”บัญชีรายชื่อ”ของพรรคเพื่อชาติยังถูก”พลังดูด”
นี่ย่อมเท่ากับเป็น”สัญญาณ”ที่ไม่เคยหยุดนิ่งทางการเมือง