‘กอล์ฟ’นำทีมกลุ่มLGBT ทวงคำพูดพรรคการเมือง เคยหาเสียงหนุนหลากหลายทางเพศ

“กอล์ฟ ธัญญ์วาริน” ปลุกสร้างประวัติศาสตร์การเมือง นำทีมกลุ่ม LGBT ทวงคำพูดพรรคการเมืองเคยหาเสียงหนุนหลากหลายทางเพศ ลั่น ครั้งนี้มีหลักฐานใครโหวตให้ มั่นใจ มีฝ่ายรัฐบาลเอาด้วย

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 21 สิงหาคม ที่รัฐสภาเกียกกาย นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ และ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่(อนค.) ร่วมแถลงข่าวเรียกร้องให้ ส.ส.พรรคการเมืองอื่นที่เคยหาเสียงเรื่องความหลากหลายทางเพศ ร่วมลงมติสนับสนุนให้มีการตั้งกรรมาธิการ(กมธ.)สามัญด้านความหลากหลายทางเพศ โดยมีภาคประชาชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ เดินทางมาให้กำลังใจเพื่อสนับสนุนให้มีการลงมติตั้งกมธ.ดังกล่าว

นายธัญญ์วารินกล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญที่จะมีการลงคะแนนเสียงโหวตการตั้งกมธ.สามัญเพื่อสิทธิความหลากหลายทางเพศและความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์รัฐสภาไทย อันเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนและน.ส.ณธีภัสร์ได้อภิปรายแปรญัตติเพื่อขอตั้งกมธ.สามัญแยกเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คณะ เพื่อบริหารจัดการแก้ปัญหาให้ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศซึ่งถูกกดทับเชิงโครงสร้างในสังคมไทย ตนจึงต้องการทวงถามพรรคการเมืองต่างๆที่เคยหาเสียงไว้ จำกันได้หรือไม่ว่าหาเสียงกับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศเอาไว้อย่างไร วันนี้จะเป็นวันพิสูจน์ว่าพรรคไหน ส.ส.คนไหนลงคะแนนให้ เพราะการลงคะแนนครั้งนี้มีหลักฐานชัดเจน

“ในกมธ.วิสามัญยกร่างข้อบังคับสภานั้นไม่มีผู้มีความหลากหลายทางเพศ จึงไม่แปลกที่พวกท่านจะเห็นว่าควรมีกมธ.แค่ 35 คณะ แต่ปัญหาของคนกลุ่มนี้มีความแตกต่าง เราถูกเลือกปฏิบัติและมีอคติทางเพศในทุกมิติ ดังนั้น สิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาคือความรู้ความเข้าใจ ทั้งด้านการศึกษา ระเบียบราชการ การแพทย์ การทหาร วันนี้มั่นใจว่าจะมีฝ่ายรัฐบาลลงคะแนนเสียงให้ และขอยืนยันว่านี่คือปัญหาปากท้อง ถ้าทุกคนเห็นว่าเราเป็นคน การที่ถูกเลือกปฏิบัติทางเพศนั้นมีปัญหาโดยตรงต่ออาชีพการงานของเรา” นายธัญญ์วารินกล่าว

Advertisement

ด้านน.ส.ณธีภัสร์กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เรามีความจริงใจต่อคนกลุ่มนี้ ตั้งแต่เริ่มหาเสียงจนได้เข้ามาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เราทำงานเพื่อคนกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง ทุกคนคงได้เห็นว่ากลุ่มคนหลากหลายทางเพศประสบปัญหาอย่างมากในสังคมไทยปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการถูกเลือกปฏิบัติ หรือกฎหมายที่รองรับ หรือสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการดำรงชีวิต หน้าที่อย่างหนึ่งของส.ส.คือการแก้ปัญหาให้ประชาชน ดังนั้น การที่กมธ.ยกร่างข้อบังคับการประชุมสภา ให้เหตุผลว่าจะไม่มีทรัพยากรเพียงพอ ตนคิดว่าเรื่องนี้ต้องร่วมกันแก้ไข ส่วนที่กมธ.ระบุว่าให้นำด้านสิทธิความหลากหลายทางเพศไปต่อท้ายกมธ.ด้านเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และกลุ่มชาติพันธุ์ ตนขอชี้แจงว่า อนุกรรมการนั้นไม่มีอำนาจวินิจฉัย ถ้ามีปัญหาหรือความเดือดร้อนของกลุ่มนี้ เท่ากับเราต้องส่งให้กมธ.ชุดใหญ่วินิจฉัย แต่ในกมธ.ชุดใหญ่มีผู้เชี่ยวชาญ 7 ประเด็นอยู่ร่วมกัน ดังนั้น อาจส่งผลให้การวินิจฉัยมีความล่าช้า เกิดความผิดพลาดได้

ด้านน.ส.ชุมาพร แต่งเกลี้ยง นักกิจกรรมและตัวแทนเครือข่ายด้านสิทธิความหลากหลายทางเพศ กล่าวว่า เราอยากส่งเสียงไปยังพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล หลายคนเคยยืนยันว่าจะผลักดันสิทธิความหลากหลายทางเพศ เช่น กฎหมายสมรสอย่างเท่าเทียม การรับรองคำนำหน้านาม เป็นต้น การพิจารณากฎหมายเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศในครั้งต่อไป จะไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์ของรัฐสภาไทย แต่เป็นประวัติศาสตร์ของรัฐสภาระดับเอเชีย เราจะเป็นประตูบานแรกที่จะนำไปสู่การยอมรับความหลากหลายในมิติอื่นๆในอนาคต

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image