‘ทวี’โพสต์โวยโครงการอีอีซี ทำ’ผู้หญิงแสมสาร’ เครียดกลัวโดนไล่ที่-เส้นเลือดแตกเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ(ปช.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า กรณีนางวันเพ็ญ แก้วใส ชาวแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี อายุ 53 ปี เดินทางมายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ที่อาคารสภาผู้แทนราษฎรต่อตัวแทนพรรคฝ่ายค้าน เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา ประเด็นการยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม เป็นผลสืบเนื่องจากความกังวล ความกลัว ที่ คสช. ประกาศ โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะกระทบกับปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัย ของประชาชน ต.แสมสารเต็มพื้นที่ เนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ มีประชากร ประมาณ 6,700 คน มีบ้านพักอาศัยประมาณ 2,500 ครัวเรือน ปัญหาที่ดินเกิดจาก กองทัพเรือ โดยฐานทัพเรือสัตหีบ แสดงความเป็นเจ้าของพื้นที่ ขอขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุ อ้างคลุมพื้นที่แบบเหมารวมเต็มพื้นที่ทั้งตำบล ยกเว้นที่มีโฉนด ทราบว่ามีเพียง 2 แห่ง คือ วัดช่องแสมสาร และ วิหารหลวงพ่อดำ ซึ่งตั้งอยู่บนเขาเจดีย์ ที่เป็น โบราณสถานสำคัญ ของตำบลแสมสารเท่านั้น โดยรัฐได้จัดที่ราชพัสดุบางส่วนให้ชาวบ้านได้เช่าเพื่อเป็นอาศัย ประกอบอาชีพและเป็นที่ส่วนราชการใช้ประโยชน์ เมื่อประกาศเป็นเขต อีอีซี ที่ให้สิทธิคนต่างชาติสามารถเช่าได้ 50 ปี และสามารถต่อได้อีก 49 ปี รวมเป็นเวลา 99 ปี

“หลังจากเสร็จการยื่นหนังสือ นางวันเพ็ญ มีอาการเครียด ได้แสดงถึงความกังวลและพูดกับลูกๆ ต่อปัญหา ที่ดิน เป็นระยะ จนเกิดอาการ หน้ามืด วูบ กระทันหัน ญาติจึงได้รีบนำส่ง ร.พ.กรุงเทพ-พัทยา แพทย์ได้วินิจฉัย ว่า เลือดออกในสมองแตกเฉียบพลัน นางวันเพ็ญ ได้พัก รักษาตัวอยู่เพียง3 วัน และได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ผมและตัวแทนพรรคฝ่ายค้านได้ไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพ ณ วัดช่องแสมสาร”เลขาธิการพรรค ปช.กล่าว

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ฐานทัพเรือสัตหีบ เหมาคลุมขึ้นทะเบียนที่ดินทั้งตำบลแสมสารเป็นที่ราชพัสดุ ชาวบ้านและนักวิชาการหลายๆท่านเห็นว่า อาจขึ้นทะเบียนไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะที่ขึ้นทะเบียนต้องเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า แต่ความจริงสภาพที่ดินไม่ได้รกร้างว่างเปล่า เพราะมีหมู่บ้าน ได้กลายเป็นตำบล วัด โรงเรียน ตลาด ที่มีผู้อาศัยอยู่หลายพันคน มีหลักฐานทางจดหมายเหตุ ทะเบียนนักเรียน เอกสาร สค.1 โบราณวัตถุ โบราณสถาน ซึ่งปัจจุบันที่เป็นหลักฐานสำคัญว่าเป็นที่ดินของชุมชน ไม่ใช่ฐานทัพเรือสัตหีบ ทั้งนี้ ทรัพยากรที่ดินถือเป็นสมบัติของชาติ ซึ่งสมบัติของชาติต้องเป็นสมบัติของประชาชน ไม่ใช่สมบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ และรัฐบาลจะต้องตระหนักว่า ประชาชนดำรงอยู่มิใช่เพื่อรัฐบาล แต่รัฐบาลต่างหากที่ดำรงอยู่เพื่อรับใช้ประชาชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image