ตามที่ปรากฏข้อมูลการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่ผ่านมา พบว่า นายพิษณุ พลธี ส.ส.เขต 6 จังหวัดปทุมธานี พรรคภูมิใจไทย มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 5,064 บาท เป็นเงินฝากธนาคาร ทั้งนี้ นายพิษณุแจ้งว่า ก่อนหน้านี้มีรายได้ประจำเป็นเงินเดือนจาก อบจ. 1 เดือน จำนวน 14,000 บาท ส่วนเงินเดือน ส.ส.ระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม-ธันวาคม 2562 รวมจำนวน 829,700 บาท มีรายจ่ายประจำ ประกอบด้วย รายจ่ายส่วนตัว 600,000 บาท ค่าอุปการะมารดา 180,000 บาท รวมรายจ่าย 780,000 บาท นายพิษณุแจ้งว่า อาศัยอยู่บ้านของมารดาย่านคลองหลวง จ.ปทุมธานี ระบุด้วยว่ายานพาหนะที่ใช้คือรถยนต์จากบุคคลหนึ่ง ซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นเพื่อน
ย้อนอ่าน : เจอแล้ว! ส.ส.จนสุด ทั้งเนื้อทั้งตัวมี 5 พัน อยู่บ้านแม่-ยืมรถเพื่อน ‘สิระ’ เสียงดังรวย 500 ล้าน
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พบเป็นบ้านปูนสีขาว 2 ชั้น หลังคาสีน้ำเงิน ไม่มีรั้วกั้น อยู่ริมคลองห้า ภายในบ้านมีรถสิบล้อเสริมกั้นข้างและท้าย ใช้บรรทุกกรงไก่เพื่อส่งบริษัทแปรรูปไก่สด จำนวน 2 คัน ด้านหน้ารถติดสติ๊กเกอร์ กำนันอ้วน บารมี พ่อ หรือนายสุทธิพงษ์ พลธี และพบรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 6กย 4488 กรุงเทพมหานคร และรถกระบะ สีขาว ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 2ณข 4729 กรุงเทพมหานคร
จากการสอบถามนางสมนึก พลธี ภรรยานายสุทธิพงษ์ พลธี อดีตกำนัน ต.คลองห้า อดีตนายก อบต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นแม่ของนายพิษณุ พลธี กล่าวว่า ตนเองเป็นเจ้าของบ้าน ดูแลธุรกิจการรับส่งไก่แทนสามี โดยพักอาศัยอยู่กับลูกชายคือนายพิษณุ พลธี หรือเอ้ อายุ 39 ปี และลูกสาว อายุ 33 ปี ทรัพย์สินที่บ้านเป็นของตนเองทั้งหมด ส่วนลูกชายยังไม่มีครอบครัว ต้องขอเงินแม่ใช้ตลอด ซึ่งเมื่อก่อนนั้นสามีเป็นหัวหน้าครอบครัว หลังจากที่สามีได้เสียชีวิตลง ตนเองต้องดูแลลูกๆ และทำธุรกิจแทนสามี โดยมีลูกชายช่วยเหลือดูแลด้วย ส่วนรถตู้ที่ลูกชายใช้อยู่ ได้ยืมจากเพื่อนมาใช้ เท่าที่ทราบข่าวว่า ส.ส.พิษณุ พลธี มีเงินในบัญชีเพียง 5,000 กว่าบาทนั้น เป็นเรื่องจริง เพราะเขาไม่ได้มีธุรกิจอะไรเลย
นางสมนึกกล่าวอีกว่า ลูกชายตนเองเป็น ส.อบจ.ปทุมธานี 2 สมัย ด้วยการชักนำจากพ่อของเขา ภายหลังจากนายสุทธิพงษ์เสียชีวิต ลูกชายก็คิดจะลาออกจาก ส.อบจ.ปทุมธานี เพื่อมาลงนายก อบต.คลองห้า แทนพ่อ ซึ่งก็ทำให้ผู้ที่จะลงสมัครนายก อบต.คลองห้า ต่างหนักใจที่จะลงแข่งขัน ประกอบกับมีการเลือกตั้ง ส.ส. ทางพรรคภูมิใจไทยหาคนลง ส.ส.เขตนี้ในนามพรรคภูมิใจไทย ซึ่งทุกคนก็ปฏิเสธ ลูกชายของตนเองไม่มีทางเลือกจึงตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.ในนามของพรรคภูมิใจไทย แต่ไม่มีเงินเลย ประกอบกับนักการเมืองท้องถิ่นจับมือกันช่วยเหลืออย่างเต็มที่ จึงได้รับเลือกตั้งมาอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งลูกชายเป็น ส.อบจ.ก็แสดงบัญชีทรัพย์สินเท่าที่เป็นข่าว 5,000 กว่าบาท ลาออกจาก ส.อบจ.ก็มีเงินในบัญชี 5,000 กว่าบาท หลังจากที่ได้เป็น ส.ส.ก็แสดงทรัพย์สิน 5,000 กว่าบาทเช่นกัน เพราะเขาต้องขอเงินแม่ใช้
