“เพื่อไทย”เก๋ไม่เบา จัดมีทแอนด์กรี๊ด จับมือดาวสภา เจอยิงคำถาม รู้สึกอย่างไรเจอบิ๊กตู่ครั้งแรก

“เพื่อไทย” จัด มีทแอนด์กรี๊ด จับมือดาวสภา “สุทิน-ชลน่าน-จิรายุ-จิราพร” ปชช. ยิงคำถาม “รู้สึกอย่างไรตอนเจอพล.อ.ประยุทธ์ ครั้งแรกในสภา”

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 25 สิงหาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการจัดกิจกรรม “จับมือดาวสภาเพื่อไทย” ซึ่งประกอบด้วย น.พ. ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. และน.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนทั้งที่ลงทะเบียน และวอร์คอินเข้ามาร่วมงานกว่า 200 คน

ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพท.กล่าวเปิดกิจกรรม ว่า พรรคพท.ยุคใหม่เราปรับเปลี่ยนหลายเรื่อง เรื่องหนึ่งคือเราเดินเข้าหาประชาชนอย่างไม่หยุดยั้ง แม้เราจะเป็นฝ่ายค้าน เพราะเราตระหนักว่า พี่น้องประชาชนได้เลือกพรรคเราเป็นอันดับ 1 ในสภา บุญคุณตรงนี้เราจะไม่ลืม ซึ่งเรารู้ว่าปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้หนักมาก แถมยังซ้ำเติมด้วยภัยแล้ง เมื่อเราสำนึกในบุญคุณพี่น้อง เราจึงต้องทำงานหนักเพื่อพี่น้องประชาชน เราเดินสายรับฟังปัญหาของพี่น้องมาแก้ไข ทุกข์ของพี่น้องคือทุกข์ของพท. เราจะไม่รอช้าที่ขะแก้ไขภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมแก้จน” คือใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งกิจกรรมพบดาวสภาเป็นกิจกรรมที่เราจะจัดให้บ่อยที่สุด อาจจะสัปดาห์ละครั้ง เพื่อให้เรากับพี่น้องประชาชนได้มีโอกาสมาพบปะกันให้มากที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการพบปะดาวสภาครั้งนี้ คำถามที่ประชาชนเป็นผู้ตั้งคำถาม และได้รับความสนใจมากคือคำถามที่ว่า ดาวสภาทั้ง 4 คน รู้สึกอย่างไรเมื่อครั้งได้เจอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในสภาครั้งแรก

Advertisement

ซึ่งนายสุทิน กล่าวว่า ตนสอนเด็กพิการอยู่ 17 ปี ตนยังนั่งคิดอยู่เลยว่า ถ้าวันหนึ่งตนได้เป็นรัฐมนตรี ตนจะแถลงนโยบายโดยการพูดไปด้วย ทำภาษามือไปด้วย เพื่อคนพิการจะได้รับรู้นโยบายของตนไปด้วย ทั้งนี้ ตนอยากสอนลูกศิษย์สักคนหนึ่งให้แถลงนโนยบายโดยไม่ต้องอ่าน สอนให้ถวายสัตย์ปฏิญาณให้ครบ ทั้งนี้ การเป็นส.ส.ครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะได้มีโอกาสเข้าสภา เพื่อไปพูดความรู้สึกของประชาชน เราทราบว่าประชาชนตั้งตารอการเข้าสภาของพล.อ.ประยุทธ์ทุกครั้ง ที่ผ่านมายังพูดความรู้สึกออกไปไม่หมด เรารับหน้าที่ครั้งนี้เพื่อเข้าไปพูด หนี้หัวใจ ที่ประชาชนมีต่อพล.อ.ประยุทธ์ เพราะท่านมีวาระซ่อนเร้น และกับดักที่สร้างขึ้นมาเยอะมาก แต่กับดักที่ท่านสร้างมานี้จะวกกลับมาทำร้ายตัวเอง ตนอยากให้จับตาดูการยุบพรรคเล็กไปพรรคใหญ่ ตนเชื่อว่าจะมีวาระซ่อนเร้นอีกหลายกรณี เมื่อก่อนตอนเห็น พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร นั้น ตนเห็นพวกเขาเป็นเหมือนเสือ เป็นสิงห์ แต่ตอนนี้เห็นเป็นมด เป็นแมว ที่ผ่านมาพวกเขาเก่งในที่ของเขา ตนจึงไม่กลัวแม้แต่น้อย

โดยนายสุทินได้ร้องเพลง “เทพีบ้านไพร” ขับกล่อมแฟนๆที่มาร่วมงานในวันนี้ด้วย

ขณะที่นายจิรายุ กล่าวว่า ตนเคยทำงานเป็นนักข่าวอยู่ทำเนียบ ได้พบนายกรัฐมนตรีมาหลายคน แต่ละคนก็มีบุคลิกและนิสัยแตกต่างกันไป เท่าที่เห็นพล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนหนึ่งที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ หากท่านรักประชาชน รักบ้านเมืองจริงๆ พล.อ.ประยุทธ์ จะมาหุนหันพลันแล่น พูด ปัดโถ่! ต่อหน้าพี่น้องประชาชนไม่ได้ ประชาชนจะสงสัยว่าผู้นำประเทศไม่มีความอดทน

Advertisement

ส่วนน.พ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนเข้าไปเจอในสภาก็รู้สึกว่าท่านเหมือนแมว เราพบว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนคิดเร็ว ทำเร็ว แต่ทำไปแล้ว ก็พบว่าเป็นสิ่งที่ผิด แต่ที่น่าเห็นใจคือ พล.อ.ประยุทธ์ มักจะเชื่อมั่นในสิ่งผิดๆ อยู่เสมอ ท่านคือตัวตลก ที่กำลังบ่อนทำลายประเทศ ส่วนที่ถามถึงการทำงานร่วมกันของฝ่ายค้านนั้น ฝ่ายค้านเราแบ่งงานเป็น 2 ขา คือ นอกสภา เป็นการทำงานเพื่อประชาชน และในสภา ทำงานฝ่ายวิปพรรคฝ่ายค้าน เราคิด และทำงานร่วมกัน โดยเราจะทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ให้พี่น้องประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด ส่วนการรณรงค์เราแยกกันรณรงค์ แต่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ทั้งนี้ ฝ่ายกฎหมายเราได้ยกร่างฉบับแก้ไขเรียบร้อยแล้ว รอเพียงฉันทมติจากประชาชนให้ตั้ง สสร. เราทำงานไปด้วยกัน ไม่ได้แยกกัน ในสภาเราก็ทำงานร่วมกัน

ฟาก น.ส.จิราพร กล่าวว่า ตนเป็นส.ส.สมัยแรก ครั้งนี้ที่เข้าสภาได้พบกับพล.อ.ประยุทธ์ในครั้งที่ท่านอภิปรายนโยบายรัฐบาล เห็นตอนนั้นก็รู้สึกสงสารในใจ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ และไม่มีศักยภาพในการบริหารประเทศ ขนาดควบคุมอารมณ์ตัวเองยังทำไม่ได้ ตนเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ ก็มีส่วนดี แต่ส่วนดีนั้นไม่สามารถนำมาใช้ในการบริหารประเทศได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image