การออกมาขอโทษของ นายสุทิน คลังแสง ของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ต่อพรรคอนาคตใหม่ เป็นท่าทีที่ดี เป็นท่าทีที่ควรศึกษา อย่าง เป็นพิเศษ
เป็นท่าทีที่ยอมรับต่อความรู้สึกอัน “อ่อนไหว” ของพรรคอนาคตใหม่
เป็นท่าทีที่ถนอมรักในทางการเมือง
เมื่อประเมินว่าการแสดงออกของฝ่ายตนมีความผิดพลาดก่อ ความคับข้องหมองใจให้กับพรรคการเมืองอันเป็นมิตรก็พร้อมยอมรับและขอโทษ
ไม่ว่าจะมองจากด้านของพรรคที่มาก่อน ไม่ว่าจะมองจากด้านของความเป็นพันธมิตรในแนวร่วม
นี่ถือได้ว่าเป็นท่วงทำนองที่ดี ท่วงทำนองที่สร้างสรรค์
ความจริง พรรคเพื่อไทยหากย้อนยาวไปยังรากที่มาคือพรรคไทย รักไทย พรรคพลังประชาชน ก็เคยประสบชะตากรรมไม่แตกต่างไปจากที่พรรคอนาคตใหม่กำลังประสบอยู่
เพราะพรรคไทยรักไทยก็ถูกยุบเมื่อปี 2550 เพราะพรรคพลัง ประชาชนก็ถูกยุบเมื่อปี 2551
ผู้นำของพรรคไทยรักไทยอย่าง นายทักษิณ ชินวัตร ก็ถูกบดขยี้ทำลายล้าง ผู้นำของพรรคเพื่อไทยอย่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ถูกบดขยี้ทำลายล้าง
ขณะที่เส้นทางของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช ก็แทบไม่แตกต่างกัน
ความขมขื่นเจ็บปวดที่คนของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย เคยประสบมาจากรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 และรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นอย่างไร
ดูเหมือนพรรคอนาคตใหม่ก็ประสบมาอย่างนั้น
ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคอนาคตใหม่มีความต่างกันดำรงอยู่อย่างแน่นอน แต่ภายในความต่างนั้นก็มีจุดร่วมในทางความคิดที่ สำคัญ
1 คือไม่เห็นด้วยกับเผด็จการ 1 คือไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร
ยิ่งกว่านั้น คู่สัประยุทธ์ในทางการเมืองก็อย่างเดียวกัน นั่นก็คือ อำนาจอันมาจากรัฐประหาร คือความพยายามในการสืบทอดอำนาจอันมาจากรัฐประหาร
นี่คือความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันในทางการเมือง
ข่าวรอบด้าน กับ Line@มติชนนิวส์รูม คลิกเป็นเพื่อนกัน ได้ที่นี่