“หมอธี” ยอมไขก๊อก ลาออก ส.ว หลังศาล รธน. ตัดสินคดีถือหุ้นสัมปทานรัฐ แนะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องระวัง แม้มีเพียงหุ้นเดียวก็ผิดได้
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่รัฐสภา เกียกกาย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยว่า ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็น ส.ว.ต่อ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาแล้ว จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ความเป็นรัฐมนตรีในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) จากกรณีคู่สมรสซื้อหุ้นเพิ่ม 800 หุ้นในบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นคู่สัมปทานกับรัฐ ขัดมาตรา 186 ประกอบมาตรา 184(2) แม้อดีตโฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จะออกมาให้ความเห็นว่าไม่กระทบต่อการเป็น ส.ว. แต่ตนเห็นว่า ควรเคารพต่อคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ แม้ว่าจำนวนหุ้นที่เป็นปัญหาจะมีไม่มาก แต่ถือว่าจะมีแม้แต่ 1 หุ้นไม่ได้ ซึ่งถือเป็นบรรทัดฐานที่สำคัญ ดังนั้นหากจะให้สิ้นสภาพการเป็น ส.ว. ก็จะต้องมี ส.ว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 เข้าชื่อ เพื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติอีกรอบ ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร แต่เพื่อไม่ให้ยืดเยื้อ ตนจึงขอแสดงเจตจำนงลาออกจากการเป็น ส.ว. ตั้งแต่บัดนี้
“ผมได้พูดคุยกับประธานวุฒิสภาแล้ว ซึ่งก็เข้าใจและเคารพการตัดสินใจของผม โดยจะมีการแจ้งให้สมาชิกรับทราบ ขอย้ำถึงบรรทัดฐานที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องระมัดระวัง เรื่องการถือหุ้นแม้มีเพียงหุ้นเดียวก็ตาม ซึ่งในกรณีของผม คู่สมรสก็ไม่ทราบถึงข้อกฎหมายเรื่องนี้ แต่จะใช้เป็นข้ออ้างไม่ได้ จึงอยากให้ทุกคนเคารพกฎหมาย” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการลาออกของ นพ.ธีระเกียรติ ส่งผลให้ นายอภิชาต โตดิลกเวชช์ อดีตอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน ซึ่งอยู่ในบัญชีรายชื่อ ส.ว.สำรอง ลำดับที่ 2 จะเข้าปฏิบัติหน้าที่แทน ส่วนนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่มีรายชื่อสำรองลำดับที่ 1 นั้น ขาดคุณสมบัติ ส.ว. เนื่องจากอยู่ระหว่างดำรงตำแหน่ง และปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการการต่างประเทศ
