นายอนุทินชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขับเครื่องบินส่วนตัว พร้อมด้วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุขุม กาญจนพิมาย และอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อตรวจเยี่ยม และแจกสิ่งของให้กับประชาชนพร้อมนำชุดยารักษาโรค และสิ่งของช่วยเหลือประชาชนไปยังจุดพักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่บ้านท่าเยี่ยม ตำบลวังหลวง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด และจุดพักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่บ้านไค่นุ่น ตำบลนาแซง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด และเดินทางไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และตรวจสภาพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) บ้านไค่นุ่นตำบลนาแซง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
โดยกระทรวงสาธารณสุข
ส่งยาและเวชภัณฑ์เป็นการเร่งด่วนให้ถึงพื้นที่ภายในวันที่ 1 กันยายน 2562 มีรายการดังต่อไปนี้
1.ชุดยังชีพ 1000 ชุด
2.ยาชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัยจำนวน 2,000 ชุด
3.ยารักษาน้ำกัดเท้า จำนวน 3,000 หลอด
4.เสื้อชูชีพ จำนวน 250 ตัว
5.หน้ากากอนามัย 2,000 ชิ้น
พร้อมกันนี้ นายอนุทินชาญวีรกูล เป็นประธานการประชุมติดตาม สถานการณ์ น้ำท่วม ผลกระทบและการเตรียมความพร้อมทางด้านสาธารณสุขในการดูแลสุขภาพ ประชาชน ในจังหวัดของเขตสุขภาพที่ 7 ได้แก่ ร้อยเอ็ด, ขอนแก่น, มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ ซึ่งรับผิดชอบจำนวนประชากรทั้งสิ้นประมาณ 5,000,00 คน
พร้อมทั้งได้สั่งการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) ข้อสั่งการศูนย์ปฎิบัติฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ณ เขตสุขภาพฯ ดังนี้
1.ขอให้เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขทุกระดับ รวมพลังกาย และ ใจ ในการช่วยดูแล ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ในครั้งนี้ ให้ครอบคลุมทั้ง สุขภาพกายและสุขภาพจิตอย่างใกล้ชิด
2.ให้ผนึกกำลังทุกเครือข่าย สำหรับการดูแลช่วยเหลือประชาชนในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ผู้พิการ ติดบ้านติดเตียง หรือ ผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
3.เตรียมแผนการจัดทีมเคลื่อนที่เร็ว ออกให้บริการ และ ให้ความรู้ประชาชน เพื่อป้องกัน โรคติดต่อ ปัญหาด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และ ผลกระทบต่อสุขภาพจิต ที่อาจเกิดขึ้นหลังน้ำลด
4.สำรวจผลกระทบ ต่อ สถานพยาบาล เครื่องมือทางการแพทย์ ให้พร้อมใช้เพื่อบริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง
5.ให้ผู้บริหารหน่วยงานทุกท่าน สำรวจผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ ดูแลอย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิดขวัญกำลังใจ ที่จะช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มที่
6.ในกรณีสถานพยาบาลต้องการความช่วยเหลือหรือเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน สามารถติดต่อ กองสาธารณสุขฉุกเฉิน สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
