พรรคร่วมฝ่ายค้านจ่อถกวางกรอบซักฟอกบิ๊กตู่ ย้ำเนื้อหาอภิปรายพุ่งเป้านายกฯคนเดียว

“สุทิน” จ่อถกพรรคร่วมฝ่ายค้านวางกรอบซักฟอก “ประยุทธ์” ปมถวายสัตย์ รับ เป็นเรื่องยาก พูดให้จบในวันเดียว ย้ำไม่ล่วงเกินสถาบัน ระบุแม้เรื่องอยู่ในศาลรธน. แต่อภิปรายควบคู่ได้

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 4 กันยายน ที่รัฐสภาเกียกกาย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการวางแผนของพรรคฝ่ายค้านในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 18 กันยายนนี้ ว่า ในเวลา 11.00 น.ของวันนี้ ทางพรรคฝ่ายค้านจะร่วมกันหารือ โดยให้แสดงเจตจำนงบุคคลที่จะร่วมอภิปราย รวมถึงระยะเวลาและเนื้อหาในการอภิปราย คาดว่าจะสรุปได้ในช่วงเย็นของวันนี้ โดยพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) จะเป็นการวางกรอบติวเข้มนัดแรก สำหรับเนื้อหาหลักๆ นั้นจะเป็นเรื่องของการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบและเรื่องการแถลงนโยบายที่ไม่แสดงที่มาของงบประมาณและไม่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่จะสนับสนุนให้ประเด็นหลักเด่นชัด จะเป็นเรื่องที่รัฐบาลชุดปัจจุบันที่ผ่านมาได้มีพฤติกรรมละเมิดกฎหมายอยู่เรื่อยๆ ซึ่งจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการจูงใจให้เห็นว่าการกระทำครั้งนี้ของรัฐบาลถือเป็นการตั้งใจละเมิดกฎหมาย ส่วนระยะเวลาในการอภิปรายที่ได้กำหนดกรอบไว้เพียง 1 วัน ก็ถือว่าเป็นเรื่องยากในการอภิปรายเพราะมีข้อจำกัดในเรื่องของระยะเวลา อย่างไรก็ตาม การกำหนดผู้ที่จะอภิปรายในส่วนของฝ่ายค้าน จากเดิมที่วางไว้ 15 คน แต่พอมีปัญหาเรื่องเวลา ก็ต้องกลับมาทบทวนว่าจะคงไว้ 15 คนแต่กระชับเนื้อหาให้น้อยลง หรือจะลดคน แต่เนื้อหายังคงอยู่เหมือนเดิม ซึ่งต้องรอพูดคุยกันในวันพรุ่งนี้

เมื่อถามว่า มีการกำชับ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านในเรื่องการอภิปรายหรือไม่ เนื่องจากมีหลายฝ่ายมองว่าประเด็นมีความอ่อนไหว เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ นายสุทินกล่าวว่า สำหรับฝ่ายค้านไม่มีอะไรอ่อนไหว เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้น ไม่มีส่วนอื่นที่จะล่วงเลยไปมากกว่านายกฯ แต่เป็นเรื่องของรัฐบาลเท่านั้นที่อ่อนไหว เพราะสังเกตได้จากที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามปัดเรื่องดังกล่าวให้พ้นตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งรัฐบาลต้องระวังให้มาก ส่วนในกรณีที่เรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญ จึงทำให้การอภิปรายต้องทำอย่างระมัดระวัง ตนมองว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะที่ผ่านมาเคยมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจตัวบุคคลในรัฐบาลควบคู่ไปกับการยื่นเรื่องไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั่นแสดงให้เห็นว่าเราสามารถทำควบคู่กันได้ทั้ง 2 เรื่อง แม้ว่ากระบวนการจะอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกระบวนการยุติธรรม เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ต้องกังวล เรารู้ดีว่าจะต้องพูดแค่ไหนอย่างไร

เมื่อถามว่า จะต้องเป็นการประชุมลับหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า ฟังจากรัฐบาลเอง ตนก็มองว่าไม่มีเหตุผลจำเป็นที่จะต้องประชุมลับ เว้นแต่รัฐบาลจะสร้างเหตุขึ้นมาเพื่อให้เป็นการประชุมลับ เช่น กรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าถ้าพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ จะต้องเป็นการประชุมลับ แต่ในส่วนฝ่ายค้าน ไม่มีใครคิดว่าจะพูดไปถึงจุดนั้น ไม่มีประเด็นที่ต้องไปเกี่ยวข้อง ซึ่งหากรัฐบาลอ้างเชื่อมโยงไปถึงสถาบัน รัฐบาลก็ต้องเป็นคนตอบประชาชนเอง และหากจะเป็นการประชุมลับ ตนขอฝากไปยังรัฐบาล ต้องคำนึงถึงประชาชนด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image