เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นญัตติขอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2560 ว่า ตอนนี้ต้องรอดูว่าจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการฯดังกล่าวเมื่อไหร่ และจะเริ่มประชุมอย่างไรต่อไป ซึ่งคณะกรรมาธิการฯชุดนี้จะต้องประกอบด้วยส.ส.จากหลายพรรค และเป็นสิ่งที่ต้องแสวงหาความร่วมมือจากหลายฝ่าย ไม่มีพรรคใดจะทำสำเร็จได้เพียงลำพัง สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคได้นำเสนอไปไม่ได้เป็นตัวที่จะประกบกับร่างของฝ่ายค้านที่เสนอไปก่อนหน้านี้ เป็นสิ่งที่เราคิดเอง เขียนขึ้นเองโดยพรรคก็มีประสบการณ์ในเรื่องนี้แล้ว
นายองอาจ กล่าวถึงการพิจารณาบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) สามัญของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรคได้รับโควตา 4 ตำแหน่ง ว่า การประชุมส.ส.พรรคในวันที่ 10ก.ย.นี้จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปกติทุกครั้งที่เมื่อมีการจัดสรรกรรมาธิการของสภา โดยพรรคมีกฎเกณฑ์ กติกา การพิจารณาบุคคลอยู่แล้ว หากส.ส.ของพรรคคนไหนต้องการอยากทำงานในคณะกรรมาธิการชุดใดสามารถแสดงความจำนงได้อยู่แล้ว ส่วนเกณฑ์ในการคัดเลือกคนไปนั่งประธานกรรมาธิการสามัญ พรรคจะดูเรื่องประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ ความอาวุโส และความสนใจในกรรมาธิการชุดนั้นๆ
เมื่อถามว่าจะมีกรณีที่ส.ส.หนึ่งคนเป็นกรรมาธิการฯมากกว่าหนึ่งคณะหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า อาจจะมีส.ส.บางคนได้เป็นกรรมาธิการมากกว่าหนึ่งคณะ เพราะสภามีกรรมาธิการหลายคณะ ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าบทบาทของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ดูเหมือนจะลดน้อยลงกว่าตอนที่เป็นฝ่ายค้าน นายองอาจยืนยันว่าส.ส.ของพรรคยังคงทำหน้าที่ในสภาอย่างเต็มที่แม้ปัจจุบันเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนการทำหน้าที่การตรวจสอบก็มักจะอยู่กับพรรคที่เป็นฝ่ายค้านตามกระบวนการในระบบรัฐสภา ขณะที่การทำหน้าที่อภิปรายในสภาต้องยอมรับว่าส.ส.ในฝ่ายรัฐบาลจะได้เวลาน้อยกว่าฝ่ายค้าน และพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้เป็นแกนนำรัฐบาล จึงทำให้เรามีโอกาสในการนำเสนอเนื้อหา สาระต่างๆน้อยลง แต่ยังคงทำงานไปได้ด้วยดี และเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจบทบาทหน้าที่ของส.ส.พรรค
เมื่อถามว่าจะมีส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ไปเป็นองครักษ์ช่วยนายกรัฐมนตรีชี้แจงในญัตติการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติในวันที่ 18 ก.ย. นี้ด้วยหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่าส.ส.ของพรรคไม่มีหน้าที่ร่วมอภิปรายหรือต้องไปช่วยอะไร เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องของรัฐบาลไม่ใช่เรื่องของพรรคใดพรรคหนึ่ง และเรายังไม่รู้ว่าฝ่ายค้านจะพูดเรื่องอะไรบ้าง
