หม่อมอุ๋ย สับ รธน.เอื้อทหารครองอำนาจต่อ ได้คนไม่เก่งเป็นนายกฯ ทำรบ.พลเรือนไปไม่ได้ (ชมคลิป)

เสวนาแก้รัฐธรรมนูญ​ครั้งที่​ 3 “หม่อมอุ๋ย” ชี้ รธน.60​ เอื้อทหารสืบทอดอำนาจ​ ฉะรัฐบาลไม่อดทน​-วินัยการคลังเหลวแหลก​​ ไร้​นายกฯเก่ง-ไม่มีความเป็นผู้นำ​ ด้าน​ “ธนาธร” ระบุ รัฐบาลชุดนี้ไม่ต้องฟังเสียงประชาชนก็ได้ เพราะประชาชนไม่ได้สำคัญในรัฐธรรมนูญ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่​ 8​ กันยายน​ ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น พรรคอนาคตใหม่ จัดงานเสวนา “จินตนาการใหม่ ข้อตกลงใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่” มีนายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(TDRI) ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ รศ.บัวพันธ์ พรหมพักพิง อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมสาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเสวนา​ โดยมีประชาชนทุกช่วงวัยเกือบ​ 1,000​ คน​ ร่วมรับฟัง

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันนี้ พ่อค้าแม่ค้าขายของไม่ได้ ซึ่งสิ่งนี้เกิดจากทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน ในส่วนของภายนอก เกิดจากประเทศมหาอำนาจทะเลาะกัน แต่ปัจจัยที่มากกว่านั้นคือปัจจัยภายในที่ทุกคนไม่ได้พูดกัน เพราะรัฐบาลแก้บ้างไม่ได้แก้บ้าง ตนขอย้อนไปเมื่อตอนปี 2557 ซึ่งตอนนั้น​เศรษฐกิจมีปัญหามากกว่านี้ อัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ(GDP) อยู่ที่ 1% ขณะที่ยอดส่งออกติดลบ การลงทุนเอกชนชะงัก เช่นเดียวกับประเด็นทางการเมือง ทั้งยาง ทั้งข้าว ราคาลงทั้งหมด แต่สำคัญที่สุดคือ ภาษีที่เก็บจากประชาชนเก็บได้ไม่เกิน 18% ของรายได้ประชาชาติ ต่ำกว่าเกือบทุกประเทศในโลก ขณะที่ประเทศอื่นเก็บได้ที่ 25% ขึ้นไป ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลนั้นไม่เอื้ออำนวย​ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มี 2,500 โรงงานที่ได้ BOI จากเรา นับเป็นครึ่งหนึ่งของอุตสาหกรรมของทั้งประเทศ แต่เศรษฐกิจก็ยังไม่ดีขึ้น ซึ่งสินค้าเหล่านี้ต้องการตลาดใหม่ในโลก แต่วันนี้โลกทะเลาะกัน แต่ทุกคนยังอยู่นิ่ง ซึ่งเราคงต้องอดใจรอให้โลกหยุดทะเลาะกัน เพื่อให้ธุรกิจเหล่านี้เจริญเติบโตขึ้น

“เรื่องราคาพืชผลตกต่ำ ต้องยอมรับว่าช่วงที่ผมพยายามแก้ เพราะข้าวดึงไม่ขึ้นจากนโยบายจำนำข้าว ที่เรามีค้างอยู่ 17 ล้านตัน เพราะทั้งโลกมี 33 ล้านตัน ผมพยายามเร่งข้าว​ แต่เชื่อไหม ช่วงปีแรกที่ผมอยู่ไม่มีการปล่อยข้าวเลย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นทหาร ผมก็บังคับเขาไม่ได้ แต่ก็มาขายเอาช่วงปี 2559-2560 ช่วงนั้นข้าวเสียเกือบหมดแล้ว ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า รัฐบาลที่แล้วขายข้าวช้าเกินเหตุ จากที่ควรเสีย 3 ล้านตัน แต่ดันไปเสียเกือบหมด​” ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว

Advertisement

ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวต่อว่า ตนชอบพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)​ ตรงที่กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​เพราะกระบวนการประกันรายได้นั้นน่าสนใจ ทั้งชาวนาและชาวสวนยางเปิดบัญชีหมดแล้ว หมายความว่า พอประกันราคา​ เงินจะเข้าที่ชาวนาเลย ไม่ต้องผ่านคนกลาง อย่างไรก็ตาม​ ในส่วนของภาคการเมืองนั้นทั้งหมดอยู่ที่ความกล้าของผู้นำ ซึ่งต้องมีทั้งสติปัญญา และความกล้า แม้จะทำให้ตัวเองไม่เป็นที่นิยม ตนคิดว่าที่ผ่านมาหากผู้นำแค่เปิดใจฟังคนอื่นจนเข้าใจและกล้าตัดสินใจ ประเทศจะเดินได้ดีกว่านี้ หากเราได้รัฐบาลที่เป็นเผด็จการ​ ที่มีอำนาจทหารรองรับ​ จะเปลี่ยนยาก คือจะมีสองมาตรฐาน และใช้อำนาจข่มขู่คนที่วิจารณ์ ความจริงการเป็นรัฐบาลต้องสามารถวิจารณ์ได้ รัฐบาลนี้ถือว่าไม่มีความอดทน หรือใจไม่กว้าง และรัฐบาลนี้ไม่เสาะหาคนเก่งเข้าร่วมทำงานด้วย ไม่มีนักเศรษฐศาสตร์มหภาคที่คอยมองภาพกว้าง ความจริงมีคนเก่งให้เลือกเยอะมาก วินัยการคลังถือว่าเหลวแหลกมาก ใช้จ่ายไม่มีประสิทธิภาพ ซื้อได้อย่างไร เรือดำน้ำ และเวลาที่ประเทศขาดดุลหลายปี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกลับมาแจกเงินให้คนท่องเที่ยว

“รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นการเอื้อให้กลุ่มทหารกลุ่มหนึ่งสืบทอดอำนาจ อย่างไรก็ดี หากเราได้คนที่เก่งและมีความเป็นผู้นำเป็นนายกรัฐมนตรี ประเทศก็ยังไปต่อได้ แต่เราไม่ได้มีแบบนั้น ทำให้รัฐบาลพลเรือนในปัจจุบันไปต่อไม่ได้” อดีตรองนายกรัฐมนตรีระบุ

รศ.บัวพันธ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมีความสำคัญที่เป็นตัวตัดสินใจในการจัดสรรอำนาจในสังคม ไม่ว่าใครจะได้รับทรัพยากร ต้องตัดสินจากความสัมพันธ์เชิงอำนาจ ที่น่าสนใจคือ ทำไมมีคนจำนวนหนึ่งคิดว่าเศรษฐกิจมันดี ทั้งที่คนส่วนใหญ่บอกว่าตอนนี้เศรษฐกิจกำลังแย่ ขณะที่ตอนนี้มีความรุนแรงในกลุ่มวัยรุ่น และยาเสพติดที่ราคาถูกลงและหาได้ง่ายขึ้น ซึ่งตนคิดว่ามันเกี่ยวข้องกับปัญหาเศรษฐกิจที่ตกลง ในส่วนของรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้สืบทอดเฉพาะอำนาจของทหารชุดนี้ แต่มันสืบทอดมาตั้งนานแล้ว ในเรื่องของการเอารัฐเป็นศูนย์กลาง ซึ่งการรวมศูนย์อำนาจนั้นแม้จะมีความสำคัญ แต่เราก็รวมทุกอย่างไม่ได้

นายธนาธร กล่าวว่า สำหรับปัญหาน้ำท่วม รัฐบาลผสมในตอนนี้ ย่อมคิดถึงความอยู่รอดทางการเมือง มากกว่าการเมืองที่เป็นธรรม เมื่อรัฐบาลเกิดจากการรวมตัวของหลายพรรคการเมือง ปัญหาการจัดการลุ่มแม่น้ำชี ที่มีถึง 6 กระทรวง รัฐมนตรี 14 คนที่เกี่ยวข้อง ต่างพรรคย่อมมีความเห็นต่างกัน การขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจย่อมเป็นไปไม่ได้ แม้จะเป็นปัญหาที่ทับถมมาหลายทศวรรษ ซึ่งรัฐบาลผสมย่อมไม่ได้มองเรื่องการแก้ปัญหาระยาว

“กติกาการเลือกตั้งที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนในโลก​ เกิดขึ้นที่ประเทศไทย อำนาจของประชาชนนั้นลดน้อยลง กลับไปเพิ่มอำนาจที่มาจากการแต่งตั้งโดยพวกของตัวเอง หากผมเป็นรัฐบาล ผมก็ไม่ต้องไปฟังเสียงของประชาชน แต่ผมต้องฟังคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ​ เพราะพวกเขามีอำนาจล้มรัฐบาลได้ เช่นดียวกับศาลรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้น​ ผมไม่ต้องฟังประชาชนในเมื่อพวกเขาไม่มีความหมายในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ หากกฎหมายสูงสุดไม่เป็นธรรมเมื่อไร มันจะนำไปสู่กลียุค ขณะที่อำนาจในการบริหารทรัพยาการนั้นเป็นอำนาจของฝ่ายการเมือง คำถามที่หลายคนถาม คือก่อนแก้รัฐธรรมนูญ เราแก้ปัญหาปากท้องก่อนไม่ดีหรือ แต่ที่ผ่านมา เราแก้ปัญหาปากท้องกันอย่างเดียวโดยไม่มีใครกล้าพูดเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ” นายธนาธรกล่าว

นายธนาธรกล่าว​ว่า​ เมื่ออำนาจกระจุกตัวอยู่ในมือคนไม่กี่คน เราจึงเห็นทรัพยากรธรรมชาติมากมายที่ถูกยกไปให้กลุ่มทุนที่ใกล้ชิดผู้มีอำนาจ เช่นการใช้อำนาจมาตรา​ 44 เพื่อกลุ่มทุนโทรคมนาคม หรือการพยายามเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนที่ได้รับการประมูลธุรกิจปลอดภาษีในสนามบิน ตนอยากชี้ให้เห็นว่าหากประชาชนไม่มีอำนาจ ไม่มีความหมาย นักการเมืองก็ไม่ต้องฟังประชาชน ทรัพยากรต่างๆก็ไม่ต้องถูกใช้เพื่อประชาชน ดังนั้น รัฐธรรมนูญที่ไม่มีประชาชนอยู่​ ย่อมไม่นำไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่เป็นธรรมได้ ดังนั้นเราควรเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ว่า สังคมไทยยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า กติกาการเมืองที่ดี ที่ทุกคนเห็นร่วมกันนั้นเป็นอย่างไร แต่สิ่งสำคัญคือ แม้เราจะเห็นต่างกัน แต่เรายังสามารถเห็นต่างกันโดยไม่ต้องเข่นฆ่ากัน แต่เราสามารถหาทางออกร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจที่เป็นธรรม

นายสมเกียรติ กล่าวว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเวลานี้ควรใช้คำว่า ชะลอตัว ยังไม่เข้าข่ายถดถอย เพราะเราไม่ได้ติดลบ แต่ก็ช้ากว่าที่เคยเป็น​ รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เพราะประเทศอื่นโตกว่าเราทั้งหมดในอาเซียน ขณะที่เรื่องความเหลื่อมล้ำนั้น ประเทศไทยมีอัตราอยู่ที่ 36 เปอร์เซ็นต์​ ซึ่งไม่ได้ผิดปกติในอาเซียน ไม่ได้ถือว่ามากที่สุดแต่ก็น่าสนใจ อย่างไรก็ดี การวัดความเหลื่อมล้ำนั้นเป็นเรื่องยาก

“ปัญหาเชิงโครงสร้างเรื่องความเหลื่อมล้ำของธุรกิจขนาดต่างๆ และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจ​ ผมคิดว่าสโลแกนที่ พรรคอนาคตใหม่ชู คือ​เรื่องเท่าเทียมกัน เท่าทันโลก นั้นน่าสนใจ อย่างไรก็ตาม​ ในอนาคตที่ผมคาดว่าจะมีปัญหาคือ ไทยจะเป็นประเทศแรกในเอเชีย ที่จะแก่ก่อนรวย กล่าวคือการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุก่อนเรารวย ขณะที่ประเทศอื่นอย่างญี่ปุ่น เกาหลี เขารวยแล้ว ซึ่งเรื่องนี้จะทำให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง หากเราอยากฟื้นให้เศรษฐกิจ​เข้มแข็ง เราต้องดูเรื่องสินค้าเกษตร ศักยภาพการทำงานของแรงงานไทย และเรื่องธุรกิจขนาดย่อมที่ต้องมีการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่” นายสมเกียรติ​กล่าว​

นายสมเกียรติ​กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เรื่องรัฐธรรมนูญนั้นไม่มีผลกับปากท้องของประชาชนมากนัก แต่จะมีผลโดยตรงต่อการกำหนดอำนาจทางการเมือง ในส่วนของการรวมศูนย์อำนาจที่จะจำกัดอำนาจแค่เพียงคนกลุ่มเดียว ในส่วนของแผนยุทธศาสตร์ชาตินั้น แม้จะพยายามตอบโจทย์ในเรื่องของเสถียรภาพทางอำนาจ แต่ตนคิดว่าการแก้ปัญหาโดยการใช้กฎหมายนั้น ไม่สามารถใช้ได้ แต่ต้องใช้การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของคนในสังคม ซึ่งวิธีการแก้โดยใช้ยุทธศาสตร์ชาตินั้น เป็นเรื่องที่เฉพาะเจาะจงเกินไป และไม่สะท้อนกับความเป็นจริง เพราะมันกว้างเกินไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image