“ไพบูลย์” ประชุม ส.ส.พปชร.ครั้งแรก ไม่ติดใจเรืองไกร แต่ “ศรีสุวรรณ” เจอฟ้องแน่ ขู่ โทษคุก 5 ปี พร้อมตัดสิทธิ์ทางการเมือง
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 กันยายน ที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เดินทางเข้าร่วมประชุม ส.ส.พรรค พปชร.เป็นวันแรก หลังจากเมื่อวันที่ 9 กันยายน ได้เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกเป็นที่เรียบร้อย โดยมีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ นายไพบูลย์ ให้สัมภาษณ์ว่า เวลานี้ถือว่าเป็น ส.ส.สังกัดพรรค พปชร. และยังอยู่ในลำดับที่ 259 ตามตัวอักษรเช่นเดิม ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (11 ก.ย.) จะเดินทางไปแจ้งลงทะเบียนกับทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอเปลี่ยนบัตรประจำตัวจากพรรคเดิมมาสังกัดพรรค พปชร. และวันนี้ไม่ได้นัดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคคนใดเป็นพิเศษ แต่ทราบว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธ์ศาสตร์พรรคจะมาร่วมประชุมด้วย
เมื่อถามว่า การยุบพรรคประชาชนปฏิรูปเดิมแล้วมาเป็น ส.ส.พรรค พปชร.ตามกฎหมายแล้ว จะทำได้หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีผู้ยื่นร้องเรียนอยู่เช่นกัน แต่เป็นการคิดเอาเองของผู้ยื่น ไม่มีกฎหมายรองรับในความเห็นของบุคคลเหล่านั้น คิดในสิ่งที่ไม่เป็นประเด็น จึงนับเป็นความเห็น ดังนั้น สังคมควรตรวจสอบบุคคลเหล่านั้นด้วย ส่วนกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิฉัย นั้น เห็นว่าเป็นการนำข้อกฎหมายของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองปี 2550 ซึ่งยกเลิกไปแล้วมาอ้างอิง ถือเป็นการแสดงความเห็นของผู้ไม่รู้ หรือรู้แล้วแต่ตั้งใจบิดเบือน จึงขอให้สังคมช่วยตรวจสอบ ส่วนจะเอาผิดหรือไม่นั้น ในกรณีของนายเรืองไกรนั้น ไม่มีปัญหา แต่ตนจะยื่นเอาผิด นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่กล่าวหาว่า การยกเลิกพรรคประชาชนปฏิรูปผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92(1) โดยเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งถือเป็นการกล่าวโทษตนด้วยความเท็จ จึงจะทำคำร้องยื่นไปยัง กกต.เพื่อให้ตรวจสอบนายศรีสุวรรณ โดยหากยื่นคำร้องที่เป็นเท็จ ก็มีความผิดเช่นกัน และจะถูกระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ตัดสิทธิ์ทางการเมือง
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ตรวจสอบข้อกฎหมายมาเป็นอย่างดี และพร้อมถูกตรวจสอบด้วยเช่นกัน ขอแค่อย่าล้ำเส้นและผิดกฎหมาย ไม่เช่นนั้น ตนก็ดำเนินคดีกลับ
เมื่อถามว่า จะเรียกร้องให้พรรคเล็ก ยกเลิกพรรคแล้วมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐเช่นเดียวกับตนเองหรือไม่นั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนเคารพในเอกสิทธิ์และศักดิ์ศรีของแต่ละคน จึงขอไม่ก้าวก่ายแทรกแซงกิจการของพรรคอื่น ไม่อยากทำอะไรเหมือนคนอื่น ขอให้การสนับสนุนการทำน้าที่ของแต่ละคน ไม่ว่าฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล มุ่งคุณธรรมนำการเมือง
