เปิดแฟ้ม สภาบู๊ ส.ส.-ส.ว. “หัวร้อน”

เปิดแฟ้ม สภาบู๊ ส.ส.-ส.ว. “หัวร้อน”

ลำพังการเมืองในสภาของไทยที่ดูเหมือนเป็นความขัดแย้ง ปกติแค่อภิปรายนำเหตุผลมาโต้แย้งกัน หรือดุเดือดอย่างมากก็ต่อว่าด่าทอ ตะโกนโห่ไล่ ไม่บ่อยนักที่เห็นการลงไม้ลงมือ

เมื่อต้นสัปดาห์ที่่ผ่านมา มีเหตุนักการเมืองทำร้ายร่างกายกัน เมื่อ นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย นำลูกน้องเข้าทำร้ายเพื่อนร่วมพรรค นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ภายในห้อง นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้นเรื่องมาจากการโต้เถียงระหว่างการอภิปรายเกี่ยวกับการต่ออายุสัมปทานทางด่วนในที่ประชุมสภา

เหตุรุนแรงระหว่างนักการเมือง เมื่อตรวจสอบย้อนรอยกลับไปในช่วงสิบกว่าปีมานี้ พบเหตุปะทะ ชกต่อย หลายครั้งเช่นกัน

Advertisement

2 พฤศจิกายน 2547
ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เชื้อปะทุจากการที่นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง วุฒิสมาชิกกำลังอภิปรายรายงานเรื่องคดีเหตุการณ์ความรุนแรงที่มัสยิดกรือเซะ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส แต่ไปกระทบชิ่งถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้นายอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ ส.ว.แม่ฮ่องสอน ลุกขึ้นประท้วงนายเจิมศักดิ์พูดนอกประเด็น ขณะที่ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ก็ลุกขึ้นประท้วงให้นายอดุลย์ฟังให้จบก่อนแล้วค่อยทักท้วง พร้อมกับกล่าวว่า ใครที่ค้าขายกับขุนส่า (ราชายาเสพติด) จะทำรายงานเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตรวจสอบว่ามีใครบ้างŽ

นายอดุลย์เลือดขึ้นหน้าทันทีตอบโต้ว่าถูกพาดพิง เพราะเป็น ส.ว.ภาคเหนือ คิดว่าต้องหมายถึงตัวเองแน่ๆ พร้อมตะโกนว่า ทุเรศŽ จากนั้นเดินตรงเข้าไปหา พล.ต.อ.ประทิน เมื่อเดินมาใกล้ตัวคู่กรณี พล.ต.อ.ประทินลุกขึ้นตั้งการ์ดใช้มือซ้ายชกไปที่ปากนายอดุลย์ 1 หมัด ตามด้วยหมัดขวาที่หน้าอก ปิดท้ายด้วยหมัดซ้ายเข้าปลายคางของนายอดุลย์อีก 1 หมัด

หมัดชุดนี้ จบลงด้วย พล.ต.อ.ประทินแสดงความรับผิดชอบ ลาออกจากสมาชิกวุฒิสภา

 2 เมษายน 2551
ในช่วงการเมืองสองขั้วคุกรุ่น ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นท้ากลางห้องประชุม ให้สมาชิกพรรคพลังประชาชน (ขณะนั้น) เข้าชื่อถอดถอนตนเองจากความเป็น ส.ส. หากเห็นว่าการขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขัดรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งท้าดวลนอกสภา

หลังจากอภิปรายเสร็จ นายสมเกียรติเดินออกจากห้องประชุม มาพักที่ห้องรับรอง ส.ส.ชั้น 2 ตึกอาคารรัฐสภา 1 ปรากกฏว่านายการุณ โหสกุล ส.ส.ดอนเมือง พรรคพลังประชาชน เดินเข้ามากระโดดถีบนายสมเกียรติ แต่นายสมเกียรติหันมาเห็นและเอี้ยวตัวหลบจึงเพียงเฉียดๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอาคารรัฐสภา รวมถึง ส.ส.พรรคพลังประชาชนบางส่วนที่เห็นเหตุการณ์ เข้ามาห้ามไว้ก่อนเหตุการณ์บานปลาย

ลูกฟรีคิกของนายการุณ จบลงที่ศาลมีคำพิพากษาจำคุก จอมถีบŽ 12 เดือน แต่ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี

5 กุมภาพันธุ์ 2552
เหตุเกิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ ส.ส.ฝ่ายค้านนำโดยพรรคเพื่อไทยและฝ่ายรัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาวีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี มีการอภิปรายขัดแย้งกันหนักหน่วง ในที่สุดที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว จำนวน 54 คน โดยพรรคเพื่อไทยไม่เสนอรายชื่อผู้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการด้วย ซึ่งอาจจะขัดรัฐธรรมนูญ มีความพยายามไกล่เกลี่ยแต่พรรคเพื่อไทย

ยังยืนยันไม่เสนอรายชื่อเช่นเดิม เกิดการโต้เถียงกันวุ่นวาย ก่อนเหตุการณ์จะบานปลายมากขึ้นประธานที่่ประชุมจึงสั่งพักการประชุม 10 นาที

ปรากฏว่าระหว่าง ส.ส.ทยอยเดินออกนอกห้องประชุม นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เปิดฉากปะทะคารมด้วยถ้อยคำรุนแรงกับนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ทั้งสองปรี่เข้าหากันเตรียมเปิดศึก

โชคดีผู้อยู่ในเหตุการณ์เข้ามาเคลียร์จนเลิกรากันไป

 14 พฤษภาคม 2552
ในการการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อให้ความเห็นชอบกรอบข้อตกลงอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ทันทีที่เข้าสู่วาระการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลายคนลุกขึ้นทักท้วงกรณีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้ให้รัฐมนตรีเสนอกรอบการเจรจาต่างๆ พร้อมกัน 4 ฉบับ ว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เนื่องจากแต่ละฉบับมีรายละเอียดแตกต่างกัน แต่นายชัยยืนยันว่าสามารถทำได้

จากนั้นพรรคเพื่อไทยขอนับองค์ประชุมก่อนเริ่มเข้าสู่การพิจารณาตามระเบียบวาระ ระหว่างรอการนับองค์ประชุม นายสมคิด บาลไธสง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นขอให้ประธานเดินตรวจการเสียบบัตรลงคะแนนว่า มีการเสียบบัตรแทนกันหรือไม่ เพราะดูเหมือนสมาชิกไม่น่าครบองค์ประชุม

ระหว่างนั้นนายประมวล เอมเปีย ส.ส. ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ พรรคร่วมรัฐบาล ตะโกนต่อว่านายสมคิด และกวักมือเรียกให้เข้ามาตรวจสอบการเสียบบัตรของตัวเองด้วย นายสมคิดจึงเดินปรี่เข้าไปบริเวณที่นั่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ตามคำท้า เกิดการตอบโต้ดังลั่นห้องประชุม นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ที่นั่งอยู่ใกล้นายประมวลลุกขึ้นด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวปรี่เข้าหานายสมคิด พยายามสาวหมัดและถีบนายสมคิดแต่ไม่ถูก เพราะ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลหลายคนเข้าหย่าศึก แยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน
ระฆังหมดยกเสียก่อน !

30 พฤษภาคม 2555
ในช่วงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านนำโดยพรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าเต็มตัวคัดค้าน ตลอดทั้งวันมีการอภิปรายไปจนถึงด่าทอกันไปมาระหว่างสองฝ่าย

เหตุการณ์มาพีคสุด เมื่อการประชุมดำเนินมาถึงเวลาประมาณ 18.00 น. นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้ตัดบทเพื่อปิดอภิปรายที่ฝ่ายรัฐบาลต้องการนำร่างกฎหมายฉบับขึ้นมาพิจารณาเป็นวาระเร่งด่วน เพราะเห็นว่าได้มีการเสนอญัตติและมีผู้รับรองเรียบร้อยแล้ว ทำให้นายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กทม. ตะโกนว่า เผด็จการรัฐสภาหรือ พวกผมเป็น ส.ส. ไม่ได้เป็นขี้ข้าใคร พวกผมเป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย ท่านมีสิทธิอะไรŽ

หลังจากนั้น ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ต่างพากันลุกจากที่นั่งไปยืนตะโกนด่าทอประธานสภาอยู่ที่หน้าบัลลังก์ ขณะที่นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี ขึ้นไปบนบัลลังก์พร้อมยกมือไหว้หนึ่งครั้งก่อนดึงแขนนายสมศักดิ์ให้เลิกทำหน้าที่ เกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมา

จากนั้น นายกุลเดช พัวพัฒนกุล ส.ส.อุทัยธานี พรรคประชาธิปัตย์ พยายามไปกระชากคอของนายสมศักดิ์จากด้านหลัง และอีกหลายคนพยายามขึ้นไปดึงตัวนายสมศักดิ์ให้ลงจากบัลลังก์ แต่นายสมศักดิ์ยังคงนั่งต่อไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ไปดึงเก้าอี้ประธานลงจากบัลลังก์ ระหว่างนั้น น.ส.เปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ได้ปีนข้ามเก้าอี้ จะตอบโต้ น.ส.รังสิมา ชุลมุนอยู่ที่บริเวณบัลลังก์ของประธานสภา มีการเผชิญหน้ากันระหว่าง ส.ส.พรรคเพื่อไทยกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ความวุ่นวายเกิดขึ้นประมาณ 10 นาที นายสมศักดิ์จึงได้สั่งพักการประชุม 15 นาที เหตุการณ์จึงได้ทุเลาลง

5 กันยายน 2556
ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ระหว่างการพิจารณาญัตติด่วนเรื่องปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นระบุว่ามีประชาชนใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม ขอให้รัฐมนตรีชี้แจง ขณะที่นายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เสนอญัตติให้ปิดการอภิปราย ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รีบกรูเข้าห้องประชุมเพื่อเตรียมโหวตไม่ให้ปิดการอภิปราย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ขอให้นายพายัพถอนญัตติการปิดอภิปรายออกไปก่อน แต่นายพายัพยืนยันว่าสมาชิกได้อภิปรายอย่างรอบด้าน สภาควรปิดอภิปรายได้แล้ว

สร้างความไม่พอใจให้กับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะนายเชน เทือกสุบรรณ น้องชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แสดงอาการโมโห พร้อมกับระบุว่า เดี๋ยวนี้เอะอะก็จะปิดสภา ทั้งๆ ที่มีเรื่องของชาวบ้านที่จะต้องแก้ไขŽ หลังจากนั้นก็ได้ยกเก้าอี้ทุ่มไป 2 ตัว พร้อมเดินไปข้างหน้าโวยวายใส่นายวิสุทธิ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ต่างเข้ามาปลอบโยนจนนายเชนเริ่มเย็นลง

สภาเป็นเวทีของการพูดจา ใช้เหตุใช้ผล ตัดสินความเห็นต่าง ด้วยการลงมติ เสียงข้างมากเป็นผู้ตัดสิน แต่เสียงข้างน้อย ก็มีพื้นที่แสดงออก

การใช้ความรุนแรง ชกต่อย ป่วนการประชุมด้วยกำลัง ไม่ใช่วิถีทางของสภา และยังเป็นภาพสะท้อนมุมลบของสภาแห่งนั้นด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image