ไม่ว่ากรณีของ ร.ท.พชร พรหมเผ่า ไม่ว่ากรณีของ ดร.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้เสนอปัญหาทางจริยธรรมและธรรมาภิบาลอันแหลม คมยิ่งในสังคมไทย
ก่อให้เกิดคำถาม 2 คำถามตามมา
คำถาม 1 คือ ร.ท.พชร พรหมเผ่า ต้องคำพิพากษาให้ติดคุกในความผิดอันเกี่ยวกับการนำเข้าและค้ายาเสพติดที่ออสเตรเลียจริงหรือไม่
คำถาม 1 คือ การได้มาซึ่งปริญญาเอกทางรัฐประศาสนศาสตร์ ของ ดร.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นไปตามกระบวนการอันชอบด้วยกฎระเบียบจริงหรือไม่
คำตอบต่อคำถามนี้มิได้มีอะไรยุ่งยากเลย แล้วเหตุใดทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้องกลับทำให้เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยุ่งยากไป
ในฐานะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่เพียงแต่จะเป็น ส.ส. หากแต่ยังได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เรื่องนี้คนที่จะคลี่คลายและสร้างความกระจ่างคือหน่วยงาน หรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง
อย่างเช่นในกรณีที่รัฐสภาได้จัดการเกี่ยวกับคุณวุฒิการศึกษา โดยการตัดรายละเอียดอันเกี่ยวกับปริญญาโท ปริญญาเอกออกไป
คงเหลือแต่เพียงระดับปริญญาตรีซึ่งได้มาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
กล่าวสำหรับกรณีอันเกิดขึ้นที่ออสเตรเลียเพียงแต่รัฐบาล มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศขอความร่วมมือจากรัฐ บาลออสเตรเลียให้ส่งคำพิพากษาของศาลมาให้ หรือให้กระทรวง ศึกษาธิการติดตามในเรื่องการประสาทปริญญาของมหาวิทยาลัย
ทุกอย่างก็จบและก็จบอย่างสวยสดงดงาม
ความข้องใจของประชาชนก็คือ เหตุใดรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงไม่ทำให้เรื่องจบสิ้นและมีคำตอบในเวลาอันรวดเร็ว
ในเมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยืนยันความโปร่งใสของตน
จึงชอบที่กระทรวงการต่างประเทศ จึงชอบที่กระทรวงศึกษาธิการจะมีส่วนในการช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระและข้อกล่าวหาทั้งปวง
นั่นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ว่าจะช่วยหรือไม่ช่วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า