น.2รายงาน : เก็บตก-อภิปรายทั่วไป ปม‘ถวายสัตย์-แถลงนโยบาย’

หมายเหตุ ส่วนหนึ่งในการอภิปรายของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ และคำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยไม่ระบุแหล่งที่มางบประมาณ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมการพิจารณาญัตติด่วน ขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 แบบไม่ลงมติ เมื่อวันที่ 18 กันยายน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ชี้แจงถึงที่มาของงบประมาณ ที่นำมาบริหารประเทศตามนโยบายของรัฐบาล ยืนยันว่าการบริหารงบประมาณ รัฐบาลและผม เคารพและดำเนินการตามนโยบายเงินการคลังอย่างเคร่งครัด และคำนึงถึงผลดีผลเสียในการดำเนินการ มีการดูแลประชาชนทุกภาคส่วนทั้งประเทศ ป้องกันไม่ให้ฝ่ายการเมืองก่องบผูกพัน จนเป็นภาระของงบประมาณ และคำนึงถึงผลดีผลเสียในการดำเนินการ มีการดูแลประชาชนทุกภาคส่วนทั้งประเทศ ไม่ใช่ดูแลเฉพาะพื้นที่พรรคของตัวเองเท่านั้น ส่วนประเด็นที่มาของรายได้นั้น รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีนโยบายหลัก 12 ด้าน และมีนโยบายเร่งด่วนอีก 12 ด้าน ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังรีดภาษีประชาชนโดยจัดเก็บภาษีอย่างเท่าเทียม ยุติธรรม ทั้งนี้ การจัดทำงบประมาณต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมายวินัยการเงินการคลัง รวมถึง พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2561

Advertisement

นโยบายหาเสียง แม้จะหาเสียงกันมาอย่างไรก็ตาม ตรงนั้นถือเป็นความต้องการของประชาชน และเป็นความตั้งใจของพรรคการเมือง แต่เมื่อเป็นรัฐบาล ก็ต้องดูในรายละเอียดตรงนี้ให้ดีที่สุด ว่าทำได้หรือไม่อย่างไร ตนได้รวบรวมนโยบายของทุกพรรคการเมือง มีความหลากหลายคล้ายคลึงกัน จัดกลุ่มอยู่ในนโยบาย 12 ด้าน ซึ่งรับนโยบายของทุกพรรคไม่เฉพาะแค่ของรัฐบาล แต่ถ้าตั้งวงเงินทั้ง 12 ด้าน จะใช้เงินมากกว่า 2 ล้านล้านบาท ดังนั้น รัฐบาลต้องบริหารงบประมาณที่มีอยู่เช่นปีนี้ตั้งไว้ 3.2 ล้านล้านบาท มีสัดส่วนการใช้จ่ายแต่ละด้านอยู่ แต่หากนำนโยบายทั้ง 12 ด้านมาบวกเพิ่ม ต้องหาเงินให้ได้ 5-6 ล้านล้านบาท จึงต้องซอยย่อยนโยบายออกมาแล้วทั้งหมดจะตอบตอนที่ทำงบประมาณปี 2563 ก็จะดูว่าจะนำเงินจากไหนมาใช้ตรงไหน ดังนั้น
การเดินหน้าตามนโยบายต้องไปทีละขั้น เพราะต้องดูแลคนทุกภาคส่วนทั้งประเทศไม่ใช่ดูแลแต่เฉพาะพื้นที่พรรคของท่าน รัฐบาลนี้ไม่ได้มองอย่างนั้นเลย

อันนี้ต้องเข้าใจมันไม่เหมือนเดิมทั้งสิ้น รัฐบาลก่อนหน้านี้กำหนดไว้อันเดียวเท่าที่ผมอ่านมาทั้งหมดแล้วมีอันเดียวคือนโยบายจำนำข้าว 15,000 บาทต่อเกวียน แล้วเป็นอย่างไร ระบุไว้แล้วมันเป็นอย่างไร ท่านอย่าลืมตรงนี้ ผมไม่ไปกล่าวว่าใครทั้งสิ้น

เรื่องที่ฝ่ายค้านระบุว่ารัฐบาลนี้ก่อนหนี้สาธารณะเยอะ ผมจำเป็นต้องชี้แจงในเรื่องนี้ เพราะฝ่ายค้านหยิบยกมาพูดในบางประเด็นเท่านั้น ต้องพูดในภาพรวม เมื่อสมัยรัฐบาลปี 2556-2557 พบว่ารัฐบาลช่วงนั้นเมื่อเทียบกับรัฐบาลเมื่อปี 2558-2562 แล้ว รัฐบาลชุดดังกล่าวกู้เงินเฉลี่ย 4.8 แสนล้านบาท แต่รัฐบาลนี้กู้เพียง 4.4 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่ากู้น้อยกว่า ทั้งนี้ยืนยันว่าเศรษฐกิจวันนี้ไม่เหมือนปี 2540 วันนี้อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นเศรษฐกิจของประเทศบ้าง ถ้าไม่เชื่อมั่นก็มาว่ารัฐบาล เอาตัวเลขมาจากไหน

Advertisement

ในเรื่องของรัฐธรรมนูญ ตามที่มีการบอกว่าเป็นการร่างมาเพื่อผมนั้น ยืนยันอีกครั้งว่าผมไม่ได้เป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญ กรธ.เป็นคนร่าง ผมไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับท่านเลย จำไว้ผมจะไม่ยุ่งกับเขา เมื่อสักครู่ท่านพูดคำว่า ผมไปใช้กลไกเหนือทั้ง 3 อำนาจ ผมพูดถึงกรณีมาตรา 44 ท่านอย่าเอาเฉพาะประเด็นมาพูดตรงนี้ ผมพูดถึง 44 ตรงนั้นเพื่อจะปลดล็อกอะไรต่างๆ มันถึงได้ไง เพราะกฎหมายเขาเขียนไว้อย่างนั้น ท่านเอามาตี พันกันอย่างนี้ไม่ได้ ผมรับไม่ได้ อย่างไรก็ตามถึงแม้ 5 ปีที่ผ่านมาจะเป็นรัฐบาลก่อนหน้าการเลือกตั้งก็ตาม แต่ผมเคารพในหลักการของรัฐธรรมนูญทุกตัว จำเป็นต้องฟังผมบ้าง ผมไม่เคยที่จะไปล่วงละเมิดไม่มีที่จะทำอะไรเสียหาย

วันนี้ก็ขอบคุณสมาชิกผู้ทรงเกียรติทั้งหลายนะครับ จะเห็นว่าผมก็ยิ้มให้ท่าน จะท่านหมอหรือท่านอะไรผมก็ยิ้มให้ทั้งหมด จะเห็นได้ว่าวันนี้ผมดุเดือดน้อยกว่าเก่าเยอะ ผมรักท่านทุกคนนั่นแหละ เพราะท่านคือคนไทย นี่คือประเทศไทย ประเทศนี้ ท่านไม่ใช่คนประเทศอื่น จะเอากันให้เป็นให้ตายหรืออย่างไร แล้วประเทศไทยจะอยู่ตรงไหน ประชาชนของท่านจะอยู่ตรงไหน เอาละขอจบคำชี้แจงเพียงเท่านี้

ปิยบุตร แสงกนกกุล
เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่

ความสำคัญของการถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่นั้น ได้แก่ 1.การถวายสัตย์ฯของ ครม.เป็นเงื่อนไขบังคับก่อนเข้ารับหน้าที่ เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งแล้ว จะรับหน้าที่ได้ต่อเมื่อมีการถวายสัตย์ฯ การถวายสัตย์ฯจึงเป็นแบบพิธีสำคัญ เป็นเงื่อนไขบังคับ ที่กำหนดแบบนี้เพราะจะได้มีเส้นแบ่งให้ชัดว่า ครม.ชุดที่แล้วจะสิ้นสุดการรักษาการลงเมื่อไหร่ และ ครม.ชุดใหม่จะเข้ารับหน้าที่วันไหน 2.การถวายสัตย์ฯคือการยืนยันหลักความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญ ถ้อยคำ ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ เป็นหัวใจสำคัญของการปฏิญาณเพื่อยืนยันว่าผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ จะอยู่ภายใต้ เคารพ รักษา และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ 3.การถวายสัตย์ฯของ ครม.เป็นการให้คำสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์และประชาชน โดยเหตุผลที่ต้องเขียนถ้อยคำถวายสัตย์ฯลงไป ก็เพื่อให้เกิดความสม่ำเสมอเหมือนกัน อีกทั้งเพื่อทำให้ผู้ถวายสัตย์ฯรู้ตัวล่วงหน้าว่าตัวเองจะให้คำสัตย์ว่าอะไร ถ้ารู้ว่าชีวิตนี้ท่านปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ ถ้ารู้อยู่แล้วว่าอีกไม่กี่เดือนท่านจะละเมิดหรือฉีกรัฐธรรมนูญอีก อย่ามาเป็นรัฐมนตรี จะได้ไม่ต้องถวายสัตย์ฯ

อย่างไรก็ตาม ขอให้ความเป็นธรรมกับ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อย้อนไปดู ครม.ประยุทธ์ 1 ท่านมีโอกาสนำรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ฯต่อพระมหากษัตริย์ทั้งสิ้น 5 ครั้ง ทุกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวนำถวายสัตย์ฯครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญกำหนด โดย 4 ครั้งแรกกล่าวตามรัฐธรรมนูญ 2557 และครั้งที่ 5 กล่าวตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 161 นอกจากนั้น ยังสังเกตได้ว่าทุกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์อ่านถ้อยคำถวายสัตย์ฯจากบัตรแข็งซึ่งเสียบไว้ในแฟ้มสีน้ำเงินที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เตรียมไว้ให้ แต่ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 กลับปรากฏว่านายกฯกล่าวถ้อยคำไม่ครบและไม่ได้มาจากเอกสารบัตรแข็งที่ สลค.เตรียมไว้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ได้หยิบกระดาษแข็งขึ้นมาจากกระเป๋าด้านข้างของเสื้อ จึงไม่แน่ใจว่านายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้สะกิดเตือนนายกฯหรือไม่ว่าควรต้องกล่าวให้ครบ เพราะดีไม่ดีจะกลายเป็นเรื่อง ต้องเปิดเทปส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แล้วจะยุ่งกันใหญ่ ตามที่ท่านเขียนไว้ในหนังสือหลังม่านการเมืองหน้า 50-51

เมื่อข้อเท็จจริงประจักษ์ชัดว่านายกฯกล่าวถวายสัตย์ฯไม่ครบ ผลทางกฎหมายจะเป็นอย่างไร ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยมีปัญหานี้ แต่ขณะนี้มีความเห็น 2 ทาง ทางหนึ่งยืนยันว่า ในเมื่อการถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วน ก็ทำให้การถวายสัตย์ฯไม่สมบูรณ์ เสมือนไม่มีการถวายสัตย์ฯ เท่ากับ ครม.เข้ารับหน้าที่ไม่ได้ การใช้อำนาจต่างๆ จึงไม่มีผลในทางกฎหมาย ส่วนความเห็นอีกทางบอกว่า ครม.เข้ารับหน้าที่ได้ เพราะมีการถวายสัตย์ฯเกิดขึ้นจริง เพียงแค่กล่าวไม่ครบ ครม.ต้องไปหาทางเยียวยาแก้ไขต่อไป แต่ไม่ว่าเราจะเห็นอย่างไร การปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังโดยไม่จัดการ จะส่งผลประหลาดในอนาคต เช่น หากนายกฯมีโอกาสนำรัฐมนตรีคนใหม่เข้าถวายสัตย์ฯอีกครั้ง นายกฯจะกล่าวไม่ครบหรือตัดเสริมเติมแต่งก็ได้อย่างนั้นหรือ

การถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วนเป็นส่วนหนึ่งในอาการของโรคที่ผมให้ชื่อว่า โรคไม่แยแสรัฐธรรมนูญ สะท้อนให้ประชาชนเห็นว่านายกฯไม่ให้ความสำคัญกับรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ กำหนดอำนาจหน้าที่ขององค์กรต่างๆ การที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถวายสัตย์ฯไม่ครบ จึงเป็นธรรมดาที่จะทำให้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยว่านายกฯจะเข้ารับหน้าที่โดยไม่รักษาไว้และไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมของนายกฯที่ไม่ยึดมั่นรัฐธรรมนูญ ท่านมองรัฐธรรมนูญเป็นเพียงเครื่องมือในการปกครองตามระบอบของท่าน เรื่องใดก็ตามที่ท่านอ้างรัฐธรรมนูญแล้วได้ประโยชน์ ท่านอ้าง แต่หากรัฐธรรมนูญมาจำกัดอำนาจหรือตีกรอบท่าน ท่านก็ไม่อ้าง จริงอยู่ที่วันนี้ท่านเป็นนายกฯที่มาจากการเลือกตั้งตามระบบเลือกตั้งในรัฐธรรมนูญ 2560 แต่สังคมก็รับรู้ดีว่าก่อนหน้านั้นท่านเข้าสู่อำนาจด้วยการรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ ตั้งตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ทำอะไรหลายอย่างที่ไม่แยแสรัฐธรรมนูญ พฤติกรรมนี้ทำให้เห็นว่าท่านมองรัฐธรรมนูญเป็นเพียงแหล่งที่มาของอำนาจ อยากเตือนสติว่าท่านเป็นนายกฯคนใหม่ที่มาตามรัฐธรรมนูญ 2560 ดังนั้นต้องเคารพรัฐธรรมนูญ พฤติกรรมที่เคยชินเคยใช้ในอดีต ขอให้ยุติลง ในทางปรัชญาการเมืองมีตำแหน่งหนึ่งที่เรียกว่าองค์อธิปัตย์ ซึ่งท่านเคยเป็นมาแล้ว และบอกว่าตัวเองอยู่เหนือ 3 อำนาจ องค์อธิปัตย์คือคนที่บอกได้ว่าอะไรคือข้อยกเว้น ณ วันนี้ นายกฯและรองนายกฯมักมีเหตุผลอธิบายให้พวกท่านได้เป็นข้อยกเว้นของรัฐธรรมนูญเสมอ ในขณะที่คนอื่นต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ จนสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียเริ่มตั้งฉายาให้ท่านว่าเป็น บิดาแห่งข้อยกเว้น

การถวายสัตย์ฯไม่ครบยังเป็นอาการของอีกโรคคือโรคไม่รับผิดชอบ ขาดความเป็นผู้นำ เพราะภายหลังประเด็นนี้ถูกเปิดเผย พล.อ.ประยุทธ์ได้ออกมายอมรับ ขอโทษต่อ ครม. และประกาศขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งต้องถามว่ารับผิดชอบอย่างไร

สำหรับคำถามของผมต่อนายกฯคือ 1.นายกฯได้อ่านคำถวายสัตย์ฯที่เตรียมมาเองใช่หรือไม่ เหตุใดไม่อ่านจากกระดาษแข็งในแฟ้มสีน้ำเงินที่ สลค.เตรียมให้ 2.หากมีรัฐมนตรีคนหนึ่งลาออก ท่านตั้งคนใหม่มาเป็นรัฐมนตรีแทน ท่านจะนำถวายสัตย์ปฏิญาณอย่างไร 3.ขอถามนายกฯและนายวิษณุ ว่าหากนายกฯคนต่อไป มีโอกาสเข้าเฝ้าฯแล้วกล่าวถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วน ท่านเห็นว่าสามารถทำได้หรือไม่ และ 4.ขอถามนายวิษณุ ที่ทำงานในทำเนียบรัฐบาลเกือบ 2 ทศวรรษ ท่านเคยเห็นนายกฯคนใดทำแบบ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่

ส่วนทางออกเรื่องนี้นั้น ขอเสนอให้นายกฯขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถวายสัตย์ฯใหม่อีกครั้งให้ครบถ้วน ส่วนการกระทำต่างๆ ที่ได้ทำไปแล้ว จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีมติ ครม.อีกครั้งเพื่อชุบชีวิตรับรองมันให้สมบูรณ์ทั้งหมด นอกจากนั้น ขอเรียกร้องให้นายวิษณุกลับมาเป็นนายวิษณุคนเดิม ยุติการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่นายกฯ ออกจากเรือแป๊ะมาอยู่ในเรือยุติธรรม อย่างไรก็ตาม จากข้อเท็จจริงในวันที่ 16 กรกฎาคม แสดงให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์จงใจละเมิดรัฐธรรมนูญ ท่านได้ทำลายความเชื่อถือของประชาชนลงไปหมดสิ้น ผมไม่ต้องการทั้ง พล.อ.ประยุทธ์คนเก่าและคนใหม่ ผมไม่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อไป เพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองต่อการถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วน เพื่อรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image