ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 2 ปี “จตุพร พรหมพันธุ์” คดีหมิ่น “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” กล่าวหาสั่งฆ่าประชาชน โดยไม่รอลงอาญา
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ฐานหมิ่นประมาทผู้อื่น โดยการโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 11 และ 17 ตุลาคม 2552 นายจตุพร ได้ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวหาว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นคนสั่งฆ่าประชาชนและขัดขวางการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองนั้นสามารถทำได้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ติชมเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายจตุพร ฐานหมิ่นประมาท รวม 2 กระทง กระทงละ 1 ปี รวมจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา นั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืน
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกนายจตุพร 6 เดือน ปรับ 50,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี คดีที่ นายอภิสิทธิ์ ฟ้องฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กล่าวหาทำนองว่าโจทก์เป็นนายกรัฐมนตรีที่สั่งฆ่าประชาชน และหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร
นายจตุพร ระบุว่า สำหรับคดีที่นายอภิสิทธิ์ ยื่นฟ้องตัวเอง มี 4 สำนวน รวม 6 กรณี ซึ่งศาลมีคำพิพากษาไปทั้งหมดแล้ว แต่บางคดียังอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลฎีกา
นอกจากนี้ นายจตุพร เปิดเผยว่า ในช่วงบ่าย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นางธิดา ถาวรเศรษฐ และนายแพทย์เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำ นปช. จะไปยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และภารกิจเกี่ยวกับการเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ 7 สิงหาคม ซึ่งจะมีการเปิดศูนย์ปราบโกงในทุกจังหวัด พร้อมกันในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ แต่นายจตุพรอ้างว่าในขณะนี้ได้มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปข่มขู่แกนนำที่จะจัดตั้งศูนย์ปราบโกงในแต่ละจังหวัดและไม่เคยกลัวหากศูนย์ปราบโกงนี้จะถูกสั่งปิด แต่เห็นว่าการจัดตั้งศูนย์ปราบโกง ถือเป็นการพิสูจน์การทำประชามติที่โปร่งใส เพราะหากการทำประชามติ เกิดการทุจริตก็จะเกิดปัญหา
