วงเสวนาแปดริ้วจัดหนักรธน.60 “อ๋อย” ซัด ประเทศเสียหาย ธนาธร ปลุกอย่ายอมรับความล้าหลัง

“เสวนาแก้รัฐธรรมนูญ” ครั้งที่ 4 จัดหนักรัฐธรรมนูญ ’60 “เผด็จการ-เห็นแก่ตัว-ระเบิดเวลา” ด้าน “จาตุรนต์” แนะ อนาคตเขียนในรธน. ใครถวายสัตย์ไม่ครบ เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง-ติดคุก “ธนาธร” ชี้ ชนชั้นนำหวังให้ปชช.จน-โง่ ไม่มีเวลาสนใจเรื่องอำนาจ เชื่อ แก้รธน.สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 กันยายน ที่ห้องประชุมบุษราคัม ชั้น 2 โรงแรมแกรนด์ รอยัลพลาซ่า จ.ฉะเชิงเทรา พรรคอนาคตใหม่จัดเวทีเสวนา “จินตนาการใหม่ ข้อตกลงใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่ ประเทศไทยแบบไหนที่เราอยากอยู่ร่วมกัน” ครั้งที่ 4 ผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) และแกนนำกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย (กตป.), นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.), ผศ.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และนายสรายุทธ์ สนรักษา แกนนำขับเคลื่อนเพื่อประชาสังคม โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟังกว่าห้าร้อยคน

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 2560 ออกแบบมาเพื่อบอกว่าใครไม่ใช่ฝ่ายเดียวกับผู้มีอำนาจ จะถูกปลดเมื่อไรก็ได้ สมมตินายธนาธรเป็นนายกรัฐมนตรีและถวายสัตย์ไม่ครบ ก็ไม่ได้นั่งเป็นนายกฯต่อมาถึงวันนี้แน่นอน เพียงแค่ 7 วันก็ถูกปลดแล้ว รัฐธรรมนูญ 2560 จึงเป็นความพยายามทำลายรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง นอกจากกลไกของรัฐธรรมนูญจะสามารถขจัดคนที่ผู้มีอำนาจไม่พึงประสงค์ได้แล้วโดยมีกลไกสำคัญคือ ส.ว. 250 คน รัฐธรรมนูญนี้ยังทำให้ผู้มีอำนาจเป็นผู้กำหนดว่าใครจะเป็นรัฐบาล เพื่อไม่ให้เสียของเหมือนรัฐธรรมนูญ 2550 จึงนำมาสู่ปัญหามากมาย เป็นการเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อระบุว่าใครมีสิทธิ์เป็นผู้ปกครองประเทศ โดยประชาชนไม่เกี่ยวและไม่ถูกควบคุมตรวจสอบโดยประชาชน จนนำมาสู่ความเสียหายยับเยินของประเทศ ที่สำคัญ ตนไม่ขอเรียกสภานี้ว่าเป็นสภาผัวเมีย แต่เป็นสภาสมุน

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า วันนี้เราได้หัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่ไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจเลย การลงทุนไม่มี นายกฯก็ไม่ยืนยันว่าจะรักษาไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ เกิดวันหนึ่งผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)จะยึดอำนาจ นายกฯ ก็บอกได้ว่าไม่ได้บอกว่าจะรักษาไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด เรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่จะทำให้นักลงทุนมองว่าประเทศไทยไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองเลย แล้วเขาจะมาลงทุนได้อย่างไร ประเทศไทยจะล้าหลังไปด้วย วันนี้เพื่อนบ้านการลงทุนนำเราไป 3-5 เท่าแล้ว แต่รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเลยเว้นแต่แจกเงินคนละ 1,000-2,000 บาท ขณะที่การลงทุนทุกด้านเสื่อมถอย การท่องเที่ยวลดลง แหล่งท่องเที่ยวมีแต่วัดกับทุ่งนา แต่ขาดการพัฒนาเพราะไม่มีการกระจายอำนาจ ทั้งที่รัฐธรรมนูญเขียนให้กระจายอำนาจ แต่รัฐบาลไม่ได้บอกว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ

Advertisement

“วันนี้ผู้นำรัฐบาลจะไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญก็ได้ ดังนั้นจึงต้องเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญว่าใครไม่ถวายสัตย์ปฏิญาณว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ต้องมีโทษเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 10 ปี และติดคุกอีก 20 ปี ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถ้าไม่แก้จะนำไปสู่การฉีกรัฐธรรมนูญอีกครั้ง ถ้าประชาชนเห็นพ้องกันว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญ มันจะเกิดเสียงสวรรค์และใครก็ต้านไม่ได้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเผด็จการ ไม่เป็นประชาธิปไตย ต้องแก้ไข” นายจาตุรนต์กล่าว

ด้านนายธนาธร กล่าวว่า ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกหรืออีอีซี คือการลงทุนในโครงสร้างสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของประเทศ เช่น การสร้างสนามบิน และการสร้างรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน นอกจากนี้ยังมีการตัดมอเตอร์เวย์เพื่อการขนส่งสินค้า ในโครงการอีอีซีที่รัฐบาลลงทุนเป็นแสนล้าน ไม่มีการกล่าวถึงคุณภาพของคนที่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก เป็นการพัฒนาที่ไม่เห็นหัวประชาชน เพราะเห็นแต่กลุ่มทุน แบบนี้พี่น้องที่ถูกไล่ที่จะอยู่อย่างไร อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ต่อต้านการพัฒนา แต่หากเราจะพัฒนาประเทศ แล้วไม่ให้ความสำคัญกับประชาชน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญมากในการพัฒนา ประเทศจะเป็นอย่างไร และที่ผ่านมา ประชาชนเสียสละให้กับการพัฒนามามากพอแล้ว คนที่อยู่ใกล้กับในโรงงานอุตสาหกรรมต้องเสียสละในการรับค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อเราจะได้ส่งออกได้ แล้วใครได้ประโยชน์จากการส่งออก

นายธนาธร กล่าวอีกว่า ระบอบการปกครองที่เราอยู่ตอนนี้คือเผด็จการที่มีการเลือกตั้ง ที่ไม่มีเห็นหัวประชาชน ฐานที่มาของคนที่เป็นนายกรัฐมนตรี มาจาก ส.ว. กลุ่มทุน และองค์กรอิสระ ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจประชาชน เขาจึงถวายสัตย์เช่นนั้นได้ หรือตั้งคนที่ถูกครหาว่าค้ายามาเป็นรัฐมนตรีได้ หรือบอกให้คนที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม ให้ไปทำประมง เพราะอำนาจเขาไม่ได้ตั้งอยู่โดยประชาชน เขาจึงมีงบกลางไปซื้อรถถังสไตรเกอร์ และตั้งศูนย์รับเงินบริจาคแทน ตนเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นการพาประเทศไทยกลับไปสู่จุดเดิม วังวนที่อำนาจไม่ใช่ของประชาชน สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าอำนาจเป็นของประชาชน รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นระเบิดเวลา เพราะที่ใดมีการกดขี่ที่นั่นมีการต่อสู้ ไม่ช้าก็เร็วจะนำมาสู่ความขัดแย้งที่แหลมคม ตอนนี้เรายังมีเวลาที่จะป้องกันเหตุการณ์เลวร้าย เราจึงต้องรณรงค์ร่วมกันเพื่อหาฉันทามติใหม่ว่าเราจะอยู่ด้วยกันอย่างไร เราต้องเชื่อมั่นว่าสังคมที่ดีและเท่าเทียม มันเกิดขึ้นได้ อย่างแรกเลยคือต้องมีจินตนาการร่วมกัน แน่นอนว่าเราเห็นไม่ตรงกันทุกเรื่อง แต่ต้องมีกรอบการอยู่ร่วมกัน หากเราหาไม่ได้ คนที่ต้องรับกรรมคือคนที่จะมีชีวิตต่อไป เขาต้องรับความล้าหลังที่พวกเขาไม่ได้เป็นผู้สร้าง

Advertisement

นายธนาธรแสดงความเห็นต่อประเด็นที่รัฐธรรมนูญ 2560 เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พรรคอนาคตใหม่ได้ส.ส.จำนวนมาก ว่า ปัญหาตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่จำนวนส.ส. แต่เป็นการต่อสู้ทางความคิด การแก้รัฐธรรมนูญควรจะเป็นการสะท้อนความต้องการของประชาชน ไม่เกี่ยวว่าคำนวณใหม่แล้วพรรคอนาคตใหม่ได้ ส.ส. จำนวนเท่าไหร่

“ความยากในการแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้คือกลุ่มอภิสิทธิ์ชนที่อยู่ในอำนาจ ไม่ต้องการเห็นประเทศไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย สิ่งที่เขาพยายามทำตลอดคือการทำให้ประชาชนจนและโง่ และทำให้ประชาชนไม่มีความเข้มแข็งยืนอยู่และพึ่งตนเองไม่ได้ พยายามทำให้คนจนที่สุดแต่ไม่ตาย ให้เงินคุณเดือนละ 300 เดือนละ 500 เพื่อให้คุณประทังชีวิตได้ เขาต้องการให้คุณกระเสือกกระสนปากกัดตีนถีบ เพราะคุณจะได้ไม่มีเวลามาอ่านหนังสือพิมพ์ คุณจะได้ไม่มีเวลามาศึกษาหาความรู้ ไม่มีเวลาสนใจเรื่องอำนาจ เพื่อที่มีรัฐบาลมาเมื่อไหร่ก็จะขอแต่เงิน เหล่านี้คือเป้าหมายทางการเมืองของพวกเขา ดังนั้นการจะไปถึงจุดนั้นได้เป็นเรื่องที่ยาก แต่หากเราทำได้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนกว่าครั้งที่ผ่านมา” นายธนาธรกล่าว

ผศ.โอฬาร กล่าวว่า ความเห็นแก่ตัวของชนชั้นนำคือการสร้างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถือเป็นระเบิดเวลา และทำลายกลไกประชาธิปไตยทั้งหมด ทำลายศรัทธาต่อสถาบันทางการเมือง ที่สุดท้ายจะไปทำลายอนาคตของพวกเราและลูกหลานเรา เป็นรัฐธรรมนูญที่เห็นแก่ตัว เราจึงต้องพยายามข้ามวิกฤตนี้ให้ได้ ตนจึงเห็นด้วยที่ต้องร่างใหม่ทั้งฉบับ ให้เป็นการผลักดันที่เกิดความหวังของสังคม หากไม่ร่างใหม่ปัญหาการเมืองจะวนอยู่แบบนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยากมาก แต่พลังของประชาชนสามารถจะทำลายได้ เพื่อสร้างกติกาที่ดีกว่าเพื่อลูกหลาน เราอย่าส่งแผ่นดินที่เป็นปัญหาความขัดแย้งให้ลูกหลาน รัฐธรรมนูญต้องเป็นหลักประกันชีวิตและอนาคตของลูกหลาน ยืนยันว่าประชาธิปไตยต้องกินความหมายทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ประชาธิปไตยต้องวางสมดุลระหว่างรัฐกับประชาชน และต้องมีกระบวนการการพัฒนาประชาธิปไตย ที่มีการสร้างวิถีของสังคมที่เป็นหนึ่งเดียว ตนอยากจะเห็นการกระจายอำนาจที่ไปไกลกว่าการปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องมีการกระจายอำนาจบนฐานวัฒนธรรมและทรัพยากร คือคนในพื้นที่เป็นคนตัดสินใจ ไม่ใช่คนที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาล อีกทั้งต้องพูดถึงการกระจายอำนาจที่หลากหลาย เพื่อถ่วงดุลอำนาจกัน ต้องสร้างประชาธิปไตยแบบสามเหลี่ยมฐานกว้าง จะทำให้เป็นประชาธิปไตยที่มีเสถียรภาพ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image