“จุรินทร์“เยือนถิ่นพังงา ชาวบ้านแห่ตอนรับคึกคัก ย้ำเดินหน้าประกันรายได้ชาวสวนปาล์ม

เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562 ที่จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะลงพื้นจังหวัดพังงา ร่วมประชุมชี้แจงนโยบายประกันรายได้ตามโครงการณ์รับรู้ประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ที่หอประชุมศูนย์ราชการ อ.เมืองพังงา โดยมีเกษตรกรพื้นที่ภาคใต้สนใจกว่า 1,000 คนมารอต้อนรับ และเข้าร่วมรับฟัง พร้อมแสดงความคิดเห็น ซึ่งนายจุรินทร์เดินทักทายด้วยความอบอุ่นเป็นกันเอง

นายจุรินทร์ กล่าวตอนหนึ่งว่า หนึ่งตำแหน่งที่สำคัญในวันนี้ที่ตนได้รับคือ ตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตนเป็นผู้แทนฯพังงามาหลายสมัย แต่วันนี้จะตั้งใจทำหน้าที่ผู้แทนของประชาชนทั้งประเทศอย่างสุดความสามารถ ไม่ให้เสียชื่อคนปักษ์ใต้ วันที่ประชาธิปัตย์ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล เพื่อตั้งใจจะทำนโยบายประกันรายได้ให้เกษตรกรได้จริง วันนี้ผ่านมาไม่ถึง 2 เดือน ครม.อนุมัตินโยบายประกันรายได้ให้ข้าวและปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็น 2 ใน 5 ที่ต้องการให้มีการประกันรายได้ (1.ข้าว 2 .ปาล์ม 3. ยางพารา 4. มันสำปะหลัง 5. ข้าวโพด)“ส่วนของยางพารา ผมได้หารือกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกรทรวงเกษตรฯว่า ในวันที่ 4 ตุลาคม นี้ จะนำเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อเร่งดำเนินการให้มีการประกันราคายางให้พี่น้องเกษตรกรให้เร็วที่สุด ขณะที่ชาวสวนปาล์มวันนี้ ครม. อนุมัติ ประกันรายได้ 4 บาท /กก.เรียบร้อยแล้ว วันนี้ชาวสวนปาล์มจะมีเงิน 2 กระเป๋า กระเป๋าที่ 1 มาจากการขายปาล์ม กระเป๋าที่ 2 มาจากส่วนต่างในนโยบายประกันรายได้ โดยจะโอนเข้าบัญชี ธกส. คนละไม่เกิน 25 ไร่ เพราะจากการตรวจสอบของกระทรวงเกษตรฯพบว่า ชาวสวนซึ่งเป็นชาวบ้านส่วนใหญ่มีที่ไม่เกิน 25 ไร่ โดยกระทรวงเกษตร มีวิธีคิดที่เป็นธรรมแก่เกษตรกร ในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ จะเป็นงวดแรกของการจ่ายเงินส่วนต่างปาล์มน้ำมัน โดยโอนเข้าบัญชีเกษตรกรที่ลงทะเบียนไว้ และจะโอนไปทุกๆ 45 วัน จนครบ 8 งวด ขอย้ำว่า ขอให้เป็นเกษตรกรที่ปลูกจริง ไปขึ้นทะเบียนตามความเป็นจริง” นายจุรินทร์กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการฟื้นราคาปาล์มนั้น กระทรวงพาณิชย์มีมาตรการแก้ไขโดย รัฐบาลจะส่งเสริมให้คนไทย ใช้ บี 10 ภายในวันที่ 1 มกราคม 2563 ทั่วประเทศและจะเร่งมาตรการส่งออกให้ได้มากที่สุด พร้อมกับเข้มงวดกับการลักลอบนำเข้าโดยจะมีมาตรการขั้นเด็ดขาด พร้อมจะให้ กฟผ.นำไปเผาเพื่อผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าซึ่งมาตรการเหล่านี้จะสามารถสร้างสมดุลให้กับราคาปาล์มภายในประเทศได้ จนทำให้ราคาปาล์มกับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image