เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตั้งใจเข้าร่วมการประชุมในกรอบสหประชาชาติ เพื่อแสดงบทบาทของไทยในการมีส่วนร่วมกับประชาคมโลกเพื่อการพัฒนาและร่วมแก้ปัญหาประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อส่วนรวม โดยมีการประชุม 3 เรื่องที่ไทยมีบทบาทสำคัญ ได้แก่ การประชุมเต็มคณะระดับสูงว่าด้วยหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (High-level Meeting on Universal Health Coverage) การประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ (United Nations Climate Action Summit 2019) และ การประชุมระดับผู้นำว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Summit)
สำหรับการประชุมว่าด้วยหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งไทยได้รับความชื่นชมอย่างจากนานาประเทศ ว่าเป็นต้นแบบที่ดีและไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่วมผลักดันให้จัดการประชุมระดับสูงว่าด้วยหลักประกัน สุขภาพถ้วนหน้าเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มนโยบายต่างประเทศและสุขภาพโลก (Foreign Policy and Global Health : FPGH) ในปี 2560 ซึ่งในการประชุมไทยจะย้ำเจตนารมณ์ทางการเมืองต่อการบรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในปี ค.ศ. 2030 ควบคู่ไปกับการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) ในปีเดียวกัน โดยเร่งรัดให้ประเทศต่าง ๆ เพิ่มความพยายามในการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ มีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืนทางงบประมาณบนพื้นฐานของระบบสาธารณสุขที่แข็งแรง
ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันในความมุ่งมั่นที่จะดำเนินนโยบายที่มุ่งเน้นให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ได้ยึดติดว่ารัฐบาลไหนเป็นผู้ริเริ่มดำเนินการ โดยเฉพาะเรื่องสาธารณสุข เป็นเรื่องที่สำคัญต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน รัฐบาลต้องดูแล สานต่อ และพัฒนาให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด เพื่อประชาชน และนำเข้าสู่เวทีโลกเพื่อเป็นแบบอย่างการพัฒนาด้านสาธารณสุขของไทย
