‘7 พรรคฝ่ายค้าน’ มีมติร้อง ป.ป.ช.เพื่อส่งศาลฎีกา เอาผิดปมถวายสัตย์ฯไม่ครบ-แถลงนโยบายไม่บอกที่มารายได้ ยัน ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่ปล่อยให้แนวทางปฏิบัติผิดเพี้ยนไม่ได้!
เมื่อเวลา 11.55 น.วันที่ 24 กันยายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค ปช. นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค พท. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค พท. นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน นายชัยธวัช ตุลาธน รองเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรค พท.
โดยนายชูศักดิ์กล่าวว่า ที่ประชุม 7 พรรคได้หารือกันถึงกรณีพรรคฝ่ายค้านจะดำเนินการต่อเนื่องจากการอภิปรายตามมาตรา 152 ใน 2 กรณีคือ 1.กรณีนายกฯและ ครม.ถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน และ 2.กรณี ครม.แถลงนโยบายโดยไม่บอกที่มาของรายได้ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าทั้ง 2 เรื่องนี้สมควรที่พรรคฝ่ายค้านจะได้ดำเนินการต่อไปโดยการ 1.ร้องไปยัง ป.ป.ช.ทั้ง 2 เรื่อง เนื่องจากเป็นการกระทำที่เข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม โดยกรณีไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญจะต้องร้องไปยัง ป.ป.ช. เพื่อให้ ป.ป.ช.ส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดเพื่อร้องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนกรณีไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมนั้น จะต้องร้อง ป.ป.ช.เพื่อให้ ป.ป.ช.ร้องไปยังศาลฎีกาต่อไป ทั้งนี้ 7 พรรคฝ่ายค้านได้ตั้งตนเป็นประธานคณะทำงานยกร่างคำร้อง โดยจะได้ดำเนินการยกร่างคำร้องให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ด้านนายชัยธวัชกล่าวว่า ที่ฝ่ายรัฐบาลบอกว่าฝ่ายค้านตรวจสอบเหมือนเล่นการเมืองมากเกินไป ขอบอกว่า เรื่องนี้ชัดเจนมากว่ารัฐบาลกระทำขัดรัฐธรรมนูญ สิ่งที่เกิดขึ้นจากนี้คืออยากรู้ว่ากลไกตรวจสอบจะใช้ตรวจสอบเฉพาะพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง หรือเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกฝ่าย
ด้านนายสุทินกล่าวว่า เรื่องนี้เราได้ฟังเสียงสังคมและประชาชนว่าอยากให้เราดำเนินการอย่างไรด้วย ซึ่งหากนายกฯตอบก็จบ แต่เมื่อนายกฯไม่ตอบ ไม่แยแส ไม่สนใจกฎหมาย และอาจจะมีพฤติกรรมเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ทำให้เราจึงจำเป็นต้องเดินหน้าต่อ ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องการเล่นการเมือง แต่เป็นเรื่องที่เราฟังเสียงสังคม นอกจากนี้ งบประมาณต้องเข้าทุกปี หากปล่อยไว้อย่างนี้แนวปฏิบัติของ ครม.จะผิดเพี้ยนไป
เมื่อถามว่ากรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับพิจารณาเรื่องดังกล่าว จะทำให้ ป.ป.ช.รับเรื่องนี้หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับไม่ใช่การวินิจฉัยในคดี และในทางวิชาการเรามีเหตุผลหลายข้อที่จะสามารถโต้แย้งให้ ป.ป.ช.ต้องรับคำวินิจฉัยได้ ทั้งนี้ ป.ป.ช.เป็นองค์กรอิสระ มีหน้าที่ตามกรอบรัฐธรรมนูญ เมื่อมีเหตุที่บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจน ป.ป.ช.จึงต้องรับไว้วินิจฉัย
