เมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่กระทรวงยุติธรรม(ยธ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (ทีไอ) เปิดเผยรายงานดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่น(ซีพีไอ)ประจำปี 2558 จากทั้งหมด 168 ประเทศ โดยประเทศไทยขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 76 จากเดิมอันดับที่ 85 ในปี 2558 ว่า สิ่งหนึ่งที่เห็นคือ เรามีอันดับประเทศที่ดีขึ้นแน่นอน เพราะแต่ละปีจะมีการจัดกลุ่ม นั่นหมายถึงอันดับที่ดีขึ้น เหมือนการทำข้อสอบ เราอยากได้อันดับต้นๆ แต่จุดที่เราไม่ดีหรือดีขึ้นน้อยจะเข้าไปดูอีกครั้งว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เพื่อจะได้แก้ปัญหาตรงนั้น ทั้งนี้ เราควรภูมิใจว่ามาตรฐานของประเทศเราในระดับโลกนั้นดีขึ้น อย่างไรก็ตาม อันดับคะแนนบางจุดที่ลดลงนั้น ตนได้สั่งการให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) และภาคเอกชนที่มาทำงานร่วมกับเราช่วยกันวิเคราะห์หาสาเหตุแล้ว ทั้งนี้ ยอมรับว่าการแก้ไขปัญหาการทุจริตนั้น ไม่สามารถแก้ไขได้ภายใน 1 ปี โดยคิดว่าทุกฝ่ายต้องร่วมกันทำ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี มีการอ้าง”ดร.”ชื่อนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีเรียกรับผลประโยชน์ จะมีการตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการไปแล้ว และได้ส่งข่าวมาถึงตนแล้ว แต่ท่านก็ดำเนินการไปแล้ว ทั้งนี้ขอให้รู้ว่าเราจะไม่ปกป้องอะไรกันอยู่แล้ว ชัดเจนอยู่แล้ว ตนถึงพูดว่าบางครั้งเราบริหารอยู่ข้างบน เราไม่รู้ว่าข้างล่างเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ หากรู้เราก็จะต้องจัดการ