เมื่อวันที่ 28 มกราคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยถึงกรณีคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จะส่งร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกให้กับสาธารณชนในวันที่ 29 มกราคมนี้ว่า ต้องขอดูสาระของร่างรัฐธรรมนูญก่อนการตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับรัฐธรรมนูญ ควรรอดูฉบับสุดท้ายเสียก่อนเพราะไม่มีเหตุผล ถ้ายังไม่เห็นร่างฉบับสุดท้ายที่จะนำไปลงประชามติแล้วมาบอกไม่ได้ว่าจะรับหรือไม่รับ การทำประชามติก็เพื่อให้พิจารณาสาระของกติกาที่จะต้องนำไปใช้ในอนาคต เพราะฉะนั้นตนต้องขอติงบางฝ่ายที่ยืนยันว่าจะไม่รับร่าง เพราะเราต้องรอสาระก่อน ที่สำคัญพรรค ปชป.ยังไม่เคยพูดว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งสนับสนุนทุกบทบัญญัติที่ทำให้การปราบปรามการทุจริตเข้มงวดขึ้น เพราะฉะนั้นถ้า กรธ.อยากจะพิสูจน์ก็ต้องทำให้บทบัญญัติเรื่องทุจริตเข้มกว่า และต้องเอาบทบัญญัติที่เราคิดว่าเป็นปัญหาออกไป พรรค ปชป.จะสนับสนุนร่างนี้ เช่น เรื่องการใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ที่พรรคได้สะท้อนปัญหาไปแล้วว่าจะทำให้การซื้อเสียงรุนแรงขึ้น ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เกี่ยวกับผลประโยชน์ของพรรค
“ผมคิดว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐบาล และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ควรให้ความเป็นธรรมกับประชาชน การจะให้ประชาชนไปตัดสินใจว่าจะรับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ประชาชนควรจะมีสิทธิรู้ว่าทางเลือกในกรณีที่ไม่รับร่างคืออะไร มิฉะนั้นการเอาประชามติมาทำให้เกิดภูมิคุ้มกัน หรือความชอบธรรมแก่รัฐธรรมนูญจะทำได้ไม่เต็มที่ เช่น คนอาจจะบอกว่าที่รับนั้นเพราะกลัวว่าถ้าไม่รับแล้วจะเกิดอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนคนที่ไม่มีทางเลือกที่ชัดเจน เราจะอ้างความชอบธรรมในร่างรัฐธรรมนูญนี้ได้อย่างไร ถ้ากระบวนการประชามติไม่สามารถที่จะเป็นคำตอบได้ชัดว่า นี่คือความเห็นชอบของประชาชนที่มีต่อกติกา ในที่สุดกติกาก็จะเป็นปมความขัดแย้งหลังการเลือกตั้ง ซึ่งผมต้องถามว่าถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วจะเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ คสช.ประกาศหรือไม่ เพราะฉะนั้น คสช. รัฐบาล และ สนช. ควรจะเร่งทำความชัดเจนกับประชน ถึงจะเป็นการช่วยให้ร่างรัฐธรรมนูญนี้มีความชอบธรรม และจะลดความขัดแย้งในอนาคตได้” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ยืนยันจะมีการเลือกตั้งในปี 2560 ว่าเข้าใจว่านายกฯคงกังวลว่าจะมีคนไปติฉินนินทาว่า คสช.หาช่องในการที่จะยื้ออยู่ในอำนาจ ท่านจึงพูดให้ชัดว่าโรดแมปเดิมยังอยู่ ซึ่งตนไม่ได้กังวลว่าจะต้องเลือกตั้งวันไหน แต่อยากจะสะท้อนว่าเราต้องผ่านอะไรมาบ้างทั้งก่อนและหลังรัฐประหาร ดังนั้นเราคาดหวังที่จะเห็นความมั่นคง ความยั่งยืนของระบบการเมือง จึงเรียกร้องความชัดเจนว่าทางเลือกของประชาชนคืออะไร และต้องให้เวลากับตัวเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้สังคมได้ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง และถ้าทำอย่างนี้ได้กระบวนการประชามติจะเป็นตัวที่ช่วยคุ้มครองให้ปัญหาทางการเมืองในอนาคตมีน้อยลง
